วันนี้ (16 พฤษภาคม) พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า การเฝ้าระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้จะมีพื้นที่การระบาดสีแดง โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑล ซึ่งหากเปรียบเทียบจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ มีรายงานผู้ติดเชื้อรวม 535 ราย แต่ กทม. และปริมณฑล (ปทุมธานี, นนทบุรี, สมุทรปราการ, นครปฐม, สมุทรสาคร) ปรากฏว่าพบผู้ติดเชื้อสูงถึง 1,744 ราย ซึ่งถือว่ากราฟยังสูง แต่โดยรวมแล้วกราฟยังคงเชิดขึ้นอยู่
ในส่วนของคลัสเตอร์ที่ยังต้องจับตา เช่น ที่จังหวัดสงขลา มีคลัสเตอร์โรงงานในอำเภอจะนะ, พระนครศรีอยุธยามีคลัสเตอร์แคมป์ก่อสร้าง ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับแคมป์ก่อสร้างใน กทม. ด้วย และที่ยังคงน่าเป็นห่วงคือคลัสเตอร์ในจังหวัดราชบุรี มีรายงานติดเชื้อในโรงพยาบาล ซึ่งพบว่าผู้ป่วยรายแรกเป็นหญิงวัย 31 ปี เป็นญาติผู้ป่วย ซึ่งไปเฝ้าแม่ในโรงพยาบาลในวอร์ดอายุรกรรมหญิง ต่อมาพบติดโควิด-19 และยังพบการติดเชื้อไปยังผู้ป่วยรายอื่นๆ ที่อยู่ในวอร์ดเดียวกันอีก 9 ราย เจ้าหน้าที่ดูแลผู้ป่วยอีก 6 ราย และมารดาของเจ้าหน้าที่ดูแลผู้ป่วย ซึ่งอยู่ที่บ้านติดเชื้ออีก 1 ราย โดยรวมมีผู้ติดเชื้อจากคลัสเตอร์นี้ 17 ราย และมีผู้เสียชีวิตในคลัสเตอร์นี้ 4 ราย ขณะนี้กำลังเร่งคัดกรองเพิ่มเติม โดยพบผู้ติดเชื้อรวมล่าสุดในคลัสเตอร์นี้ 30 ราย
“สิ่งที่สำคัญสำหรับกรณีนี้ทำให้เราเห็นว่า การที่ญาติเข้ามาเฝ้าผู้ป่วย เราพบพฤติกรรมที่ญาติจะมีการพูดคุยกัน มีการจับกลุ่ม รวมถึงมีการรับประทานอาหารร่วมกันในวอร์ด อันนี้เป็นพฤติกรรมของญาติ พอเกิดการติดเชื้อก็เลยเกิดกันต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว” พญ.อภิสมัย กล่าว
ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ (17 พฤษภาคม) จะเป็นวันแรกที่ ศบค. ออกข้อกำหนดผ่อนคลายมาตรการให้พื้นที่สีแดงเข้มหรือพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด สาระสำคัญอยู่ที่ปลดล็อกให้สามารถรับประทานอาหารในร้านได้ไม่เกินเวลา 21.00 น. และเปิดร้านแบบซื้อกลับบ้านได้ถึงเวลา 23.00 น. หลังใช้มาตรการห้ามนั่งรับประทานในร้านมาตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อควบคุมกา