ปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) หรือ ธนาคารทหารไทยธนชาต กล่าวว่า จากการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกที่ 3 มองว่าลูกค้า SMEs ได้รับผลกระทบหนักต่อเนื่องจากรอบก่อนๆ ทำให้ทางธนาคารมี Speacial Loan เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกค้า ภายใต้ความร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ทั้งนี้ จากการระบาดโควิด-19 ระลอกก่อนหน้า (รอบ 1 และ 2) มีลูกค้าขอรับความช่วยเหลือรวม 750,000 ราย ซึ่งเมื่อพ้นการล็อกดาวน์พบว่า ราว 90% กลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติ โดยมองว่าสถานการณ์รอบ 3 นี้ยังมีผู้ขอรับความช่วยเหลือน้อยกว่ารอบอื่นๆ ที่ผ่านมา แต่มองว่าทุกคนยังลำบากและมีรายได้น้อยลง ดังนั้นธนาคารจะมีโครงการช่วยเหลือลูกค้าแต่ละกลุ่ม รายย่อย และ SMEs ที่แตกต่างกัน
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โควิด-19 รอบ 3 นี้จะลากยาวอย่างไร มองว่า จากที่รัฐบาลประกาศข่าวการหาวัคซีน หากมีการฉีดวัคซีนได้ตามเป้าหมาย และการติดเชื้อลดลง และจะทำให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวได้
โดยแนวทางในการปล่อยสินเชื่อในปี 2564 นี้ จะมุ่งเน้นการดูแลลูกค้าปัจจุบันเป็นหลัก โดยจะมุ่งการเสริมสภาพคล่องให้ลูกค้า ทั้งการให้สินเชื่อพิเศษในกลุ่ม SMEs ส่วนลูกค้ารายย่อยจะเน้นการรวมหนี้เพื่อลดภาระในการผ่อนชำระ และมีทีมที่ปรึกษาเพื่อช่วยดูแลลูกค้า
“ส่วนเรื่องตั้งสำรอง ยังเร็วไปที่จะคุยเรื่องตัวเลขเป็นอย่างไร วันนี้อยากคุยเรื่องแบรนด์ใหม่มากกว่าตัวเลข”
ขณะที่ความคืบหน้าการควบรวมธนาคารทหารไทยธนชาตเป็นไปตามแผน โดยการรวมทีมของสององค์กรได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว 100% และคาดว่าจะเสร็จสิ้นและใช้แบรนด์ธนาคารใหม่ตั้งแต่ 5 กรกฎาคมนี้ ซึ่งการเปลี่ยนชื่อจะใช้ TTB ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 12 พฤษภาคม
อย่างไรก็ตาม ปีนี้ทีเอ็มบีธนชาต มีเป้าหมายธุรกิจ 3 ด้าน ได้แก่
- ขยายฐานลูกค้าที่เลือกใช้ธนาคารเป็นธนาคารหลัก (Main Bank) จากฐานลูกค้ารวมกว่า 10 ล้านราย
- ‘Digital-first Operating Model’ บนโมบายล์แบงกิ้งแพลตฟอร์ม เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า
- สร้างศักยภาพบุคลากร เพื่อสนับสนุนการสร้าง Humanized Digital ผ่านการเพิ่มและพัฒนาทักษะใหม่ๆ
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล