ดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ กล่าวว่า ผลการประชุมหารือแนวทางความร่วมมือการจัดหาวัคซีนระหว่างภาครัฐและเอกชน ในวันนี้ (28 เมษายน) ขณะนี้นายกรัฐมนตรีรับข้อเสนอ 4 ด้านของเอกชนในการจัดการวัคซีนที่กำลังจะเข้ามาในไทย ได้แก่
- การกระจายวัคซีน
- การสร้างความเชื่อมั่นและการประชาสัมพันธ์
- การอำนวยควมสะดวก
- จัดหาวัคซีนเพิ่มเติม
ทั้งนี้ นายกฯ มอบหมายให้ สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน รวมทั้งสภาพัฒน์ และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ไปประสานงานกับภาคเอกชน เริ่มต้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (29 เมษายน) เพื่อสร้างความชัดเจนในระยะถัดไป ทั้งแผนและจุดการกระจายวัคซีนให้มีมากขึ้น โดยอยู่ภายใต้การสนับสนุนของภาคเอกชน
ด้าน สุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ภาคเอกชนรวบรวมข้อเสนอและทีมทำงานด้านวัคซีนโดยแบ่งเป็น 4 ด้าน
- การกระจายวัคซีน
- การสร้างความเชื่อมั่นและการประชาสัมพันธ์ มีความร่วมมือกับ Google และ Facebook เพื่อสื่อสารข้อมูลอย่างถูกต้องชัดเจน
- การอำนวยความสะดวก การจัดการสถานที่ในการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในจุดที่มีความจำเป็น เช่น นิคมอุตสาหกรรม หอการค้า ฯลฯ นอกจากนี้ เอกชนจะช่วยจัดหาเครื่องมือ และผลักดันการใช้งาน ‘หมอพร้อม’ ในการลงทะเบียนรับการฉีดวัคซีนในอนาคต
- จัดหาวัคซีนเพิ่มเติม รัฐมีการเพิ่มจำนวนวัคซีนขึ้น และมีแผนการที่ชัดเจนขึ้นว่าวัคซีนจะเริ่มกระจายหลังเดือนมิถุนายน 2564 เป็นต้นไป และนอกจากวัคซีนที่เข้ามาในเดือนพฤษภาคมจะยังเพิ่มขึ้นอีก และหวังว่าการฉีดวัคซีนของประชาชนจะถึง 100 ล้านโดสขึ้นไป
อย่างไรก็ตาม หวังว่าหลังเดือนมิถุนายน 2564 ไทยจะมีแผนการกระจายฉีดวัคซีนที่ทั่วถึง จำนวนมากพอสมควร ซึ่งเป็นเรื่องที่นายกฯ และรองนายกฯ ให้ความเชื่อมั่นในการประชุมครั้งนี้
สนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าไทย กล่าวว่า ทางรัฐให้ความสบายใจว่าภายในปีนี้นอกจากประชาชนไทย คนต่างชาติที่อาศัยและทำงานในไทยจะได้รับการฉีดวัคซีนแน่นอน และรัฐบาลระบุว่าจะสามารถจัดหาวัคซีนได้ราว 100 ล้านโดส ครอบคลุม 70% ของประชากรไทย (ตามทฤษฎีการเกิด Herd Immunity)
“ถ้าเป็นลักษณะนี้เราสบายใจได้ว่า เราก็สามารถเปิดประเทศได้ในต้นปีหน้า ฉะนั้น ภาคเอกชนมีความตั้งใจในการสนับสนุนการทำงานกับภาครัฐ และทั้งหมดนี้คาดว่าจะส่งให้เศรษฐกิจไทยขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้”
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล