เรียกว่าเป็นปัญหาใหญ่ในชีวิตที่คาราคาซังมานานของ บริตนีย์ สเปียร์ส ที่เธอได้คุณพ่อ เจมี สเปียร์ส เข้ามาเป็นผู้พิทักษ์ชีวิตรวมถึงทรัพย์สินของตัวเองตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกไม่มีอิสระ และเหมือนถูกใช้เป็นแค่สินค้าสร้างรายได้ตลอด 12 ปี จนเธอต้องตัดสินใจยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อขอให้เจมียุติบทบาทการเป็นผู้พิทักษ์ในเดือนสิงหาคม 2020
ก่อนที่ภายหลังการเรียกร้องนั้นจะถูกศาลปัดตกไป และล่าสุดหลังไม่มีความเคลื่อนไหวของคดีมาสักพักก็มีรายงานจากการพิจารณาคดีเมื่อวานนี้ (27 เมษายน) ณ ศาลสูงของลอสแอนเจลิส ว่าผู้พิพากษา เบรนดา เพนนี ได้สั่งให้บริตนีย์มาขึ้นให้การต่อศาลหรืออัปเดตเรื่องสถานะของผู้พิทักษ์ในวันที่ 23 มิถุนายนนี้
ส่วนทางด้าน ซามูแอล ดี. อิงแฮม ทนายความผู้ถูกแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนในการสู้คดีของบริตนีย์ก็ได้ขอให้ศาลจัดการเรื่องนี้ให้จบเร็วที่สุด แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าในวันที่ 23 มิถุนายนเธอจะพูดอะไรบ้าง
บริตนีย์ต้องอยู่ภายใต้การพิทักษ์ที่ได้รับคำอนุมัติจากศาล ซึ่งทำให้เธอไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระมาเป็นเวลา 13 ปี เธอแสดงออกอย่างชัดเจนมาตลอดว่าไม่ต้องการให้พ่อเป็นผู้พิทักษ์ชีวิตและทรัพย์สินอีกต่อไป โดยถึงแม้ช่วงปลายปีก่อนทนายอิงแฮมจะร้องขอให้ศาลแต่งตั้งบริษัท Bessemer Trust เข้ามาเป็นผู้พิทักษ์ร่วมกับพ่อของเธอ แต่สุดท้ายคำร้องนั้นก็ไม่มีผลบังคับใช้
คดีความเรื่องผู้พิทักษ์ชีวิตและทรัพย์สินของ บริตนีย์ สเปียร์ส เริ่มกลับมาเป็นที่พูดถึงในวงกว้างอีกครั้งนับตั้งแต่ภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Framing Britney Spears (2021) ออกฉายในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ถือเป็นผลงานซึ่งเปิดพื้นที่ให้กับแฟนๆ ของป๊อปสตาร์ระดับไอคอนอย่างบริตนีย์ได้ส่งเสียงและตั้งคำถามถึงคำสั่งของศาล (ที่ตัดสินให้พ่อเข้ามาเป็นผู้พิทักษ์ชีวิตและทรัพย์สินตั้งแต่ปี 2008) ว่าจริงๆ มันใช่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเธอแล้วหรือไม่
ภาพ: Allen Berezovsky / WireImage
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ
อ้างอิง: