กองทัพอินโดนีเซียแถลงความคืบหน้าการค้นหาเรือดำน้ำ KRI Nanggala 402 ที่สูญหายบริเวณนอกชายฝั่งเกาะบาหลีพร้อมลูกเรือ 53 คน ระหว่างการฝึกซ้อมทางทหารเมื่อวันพุธ (21 เมษายน) ที่ผ่านมา โดยยืนยันว่าอุปกรณ์สแกนตรวจพบวัตถุที่น่าจะเป็นเรือดำน้ำจมอยู่ใต้ทะเลที่ระดับความลึก 850 เมตร ซึ่งลึกกว่าจุดที่สามารถรอดชีวิต และสันนิษฐานว่าลูกเรือทั้งหมด 53 คนอาจเสียชีวิตแล้ว
ฮาดี จะห์ยันโต ผู้บัญชาการทหารสูงสุดอินโดนีเซีย แถลงว่า เจ้าหน้าที่กองทัพเรือยังตรวจพบคราบน้ำมันและเศษชิ้นส่วนที่เชื่อว่ามาจากเรือดำน้ำ ทั้งชิ้นส่วนอุปกรณ์ป้องกันตอร์ปิโด ขวดน้ำมันหล่อลื่น ไปจนถึงเสื่อสำหรับทำพิธีละหมาด ซึ่งทั้งหมดเป็นหลักฐานยืนยันว่าเรือดำน้ำได้จมลงก้นทะเล
ขณะที่ พล.ร.อ. ยูโด มาร์โกโน เสนาธิการกองทัพเรือ แถลงว่า เจ้าหน้าที่ได้กู้เศษชิ้นส่วนดังกล่าวที่พบในบริเวณใกล้กับจุดที่พบเรือดำน้ำครั้งสุดท้ายก่อนจะขาดการติดต่อหลังขออนุญาตดำลงใต้ทะเล โดยเชื่อว่าชิ้นส่วนเหล่านี้ไม่มีทางออกมาจากเรือดำน้ำได้หากไม่มีแรงดันภายนอก
“วัตถุเหล่านี้จะไม่มีทางออกมาจากเรือดำน้ำได้หากไม่มีแรงกดดันจากภายนอก หรือเกิดความเสียหายกับเครื่องยิงตอร์ปิโด” เขากล่าว พร้อมแสดงเศษชิ้นส่วนที่กู้ได้แก่ผู้สื่อข่าว
ทั้งนี้อุปกรณ์สแกนตรวจพบเรือดำน้ำที่ระดับความลึก 850 เมตร ในขณะที่เรือดำน้ำ KRI Nanggala 402 ความยาว 59.5 เมตร ซึ่งมีอายุใช้งานกว่า 40 ปี และผ่านการซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ในปี 2012 สามารถทนต่อแรงดันน้ำได้ที่ระดับไม่เกิน 500 เมตร
“เพราะมันคือที่ระดับความลึก 850 เมตร มันจึงเสี่ยงมากและยากมากสำหรับ ROV (ยานขับเคลื่อนใต้น้ำควบคุมระยะไกล) ที่จะยกมัน” พล.ร.อ. มาร์โกโน กล่าว
ซึ่งกองทัพเรือยืนยันว่าเรือดำน้ำลำนี้ยังอยู่ในสภาพดี แต่คราบน้ำมันที่พบในจุดที่เรือดำน้ำสูญหายทำให้เกิดข้อกังวลว่าถังน้ำมันของเรือดำน้ำอาจเกิดความเสียหาย
ขณะที่กองทัพเรือยังสันนิษฐานว่าเรือดำน้ำอาจเกิดปัญหาระบบไฟฟ้าขัดข้อง ซึ่งภาวะดังกล่าวทำให้ออกซิเจนภายในเรือดำน้ำหมดลงตั้งแต่เวลาประมาณ 03.00 น. ของวันนี้
ภาพ: Suryanto / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: