×

รมว.ศึกษาฯ ยินดีเป็นคนกลางพูดคุย ปมโรงเรียนดังภูเก็ตตัดโควตาเรียนต่อ ม.4 อ้างเหตุไม่รักชาติ-สถาบันฯ

โดย THE STANDARD TEAM
10.04.2021
  • LOADING...
รมว.ศึกษาฯ ยินดีเป็นคนกลางพูดคุย ปมโรงเรียนดังภูเก็ตตัดโควตาเรียนต่อ ม.4 อ้างเหตุไม่รักชาติ-สถาบันฯ

จากกรณีที่ปรากฏรายงานข่าวว่า มีการร้องเรียนโดยมีหลักฐานเป็นบันทึกข้อความของโรงเรียนดังแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต ได้ตัดสิทธิ์โควตาเข้าเรียนต่อในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเดิมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รายหนึ่ง ด้วยเหตุผลไม่จงรักภักดีต่อชาติ สถาบันกษัตริย์ กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม

 

ล่าสุดวานนี้ (9 เมษายน) ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กตนเอง ระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า ในฐานะผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ ขอยืนยันว่าดิฉันได้รับทราบและติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

 

อย่างไรก็ดี ก็ต้องขออนุญาตใช้พื้นที่เพจส่วนตัวของดิฉันในการสื่อสารถึงสิ่งที่เป็น ‘ข้อเท็จจริง’ และมุมมองต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ในฐานะแม่ของลูกที่กำลังอยู่ในวัยเรียนเช่นเดียวกับน้องนักเรียนคนดังกล่าว คงจะปล่อยนิ่งนอนใจไปไม่ได้ ทั้งนี้ เพราะภารกิจหลักของกระทรวงศึกษาธิการคือ ‘การทำให้ทุกคนได้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียม’

 

โดยรายงานของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพังงา ภูเก็ต ระนอง ซึ่งได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวแล้ว พบว่า เรื่องนี้เป็นบันทึกข้อความของกลุ่มบริหารกิจการนักเรียนของทางโรงเรียนที่ทำการเสนอรายชื่อนักเรียนที่มีพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาการรับนักเรียนประเภทโควตา (นักเรียนโรงเรียนเดิม) ห้องเรียนทั่วไปตามลำดับขั้นตอน

 

‘โรงเรียนไม่มีการตัดสิทธิ์โอกาสนักเรียนในการเข้าศึกษาต่อในระดับชั้น ม.4 แต่อย่างใด’

 

และน้องนักเรียนคนดังกล่าวยังคงมีสิทธิ์ในการสมัครเข้าเรียนในรอบทั่วไป โดยโรงเรียนได้ดำเนินการอนุมัติการจบหลักสูตรของนักเรียนชั้น ม.3 และนักเรียนที่จบหลักสูตรได้ มารับเอกสารการจบหลักสูตร (ปพ.1) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

สำหรับน้องนักเรียนคนดังกล่าว ทางโรงเรียนได้ดำเนินการติดตามการสอบแก้ตัวตามกระบวนการขั้นตอนงานวัดผลและประเมินผลของโรงเรียน เพื่อให้นักเรียนได้จบหลักสูตรตามปฏิทินการอนุมัติจบหลักสูตรของโรงเรียนต่อไป ทั้งนี้ การรับสมัครนักเรียนในรอบทั่วไปจะรับสมัครในวันที่ 24-28 เมษายน 2564 โดยเกณฑ์การเข้าศึกษาต่อจะเป็นไปตามประกาศของโรงเรียน ซึ่งทางสำนักงานเขตพื้นที่ฯ ก็ได้แนะนำวิธีการแก้ปัญหา และกำชับกับทางโรงเรียนให้ดำเนินการรับสมัครนักเรียนตามประกาศของ สพฐ. อย่างเคร่งครัด

 

ดิฉันเชื่อว่า ทุกสถานศึกษาต่างมีหลักเกณฑ์และวิธีการในการรับนักเรียนเข้าศึกษาต่อ จึงต้องยอมรับและเคารพ หากได้มีการดำเนินการอย่างโปร่งใสและเป็นมาตรฐาน โดยสิ่งเหล่านี้สามารถไปด้วยกันได้พร้อมๆ กับการใช้เสรีภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่น้องๆ และพวกเรามีอยู่ในตัวทุกคน อย่างตระหนักรู้ถึงความเหมาะสมและขอบเขตที่มีอยู่ตามกฎหมาย

 

ต่อกรณีที่เกิดขึ้น ดิฉันจึงเห็นว่า ควรมีการชั่งน้ำหนักให้เกิด ‘ความได้สัดส่วน’ ระหว่างการดำเนินการของสถานศึกษา กับการใช้เสรีภาพของน้องนักเรียนตามที่เป็นข่าว โดยคำนึงถึงเป้าหมายของการพัฒนาเป็นสำคัญ

 

ดิฉันยินดีที่จะเป็นตัวกลางในการพูดคุยระหว่างสถานศึกษากับน้องนักเรียน เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานกับกรณีอื่นๆ ในการหาทางออกร่วมกัน เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา หากเราดำเนินการบนพื้นฐานของความเข้าใจจากทุกฝ่าย สถานศึกษาจะสามารถดำเนินภารกิจต่อไปได้ ก็ด้วยการให้เด็กๆ ของเราได้มีโอกาสทางการศึกษา จนเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรู้ มีคุณธรรม และมีคุณภาพชีวิตที่ดีในสังคม

 

“ขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะดูแลเรื่องนี้อย่างดีที่สุดค่ะ” ตรีนุชกล่าว

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X