พูดก็พูดเถอะ เม็กซิโก เป็นหนึ่งในประเทศที่นักเดินทางรู้กันว่าต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้ตัวเอง แต่กับ กังกุน (Cancun) หรือที่พวกเธอเรียกกันว่า ‘แคนคูน’ ดูเหมือนเป็นอันรู้กันว่าอาจไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น เพราะเมืองตากอากาศชั้นนำของโลกอย่างกังกุน ใครๆ ก็บอกว่าเป็นคนละโหมดกับเมืองอื่นของเม็กซิโก ปลอดภัย น่าเที่ยว และที่อยู่ในแพ็กเกจเดียวกันคือต้นทุนค่าทำความรู้จักแพงลิบลิ่วจนน่าใจหาย
สำหรับนักเดินทางผู้โหยหิวแสงแดด พวกเขาตั้งใจเลือกเรือนพักสุดหรูแถวริมทะเล แล้วนอนผึ่งร่างให้แดดลูบไล้ผิวกายไปทั้งวัน ลำพังตัวเมืองกังกุนนั้นแทบไม่มีอะไรให้เที่ยวชมสักเท่าไร เรื่องนี้ฉันแทบไม่แปลกใจ เพราะตั้งใจให้ช่วงเวลาในกังกุนได้พักผ่อนหย่อนอารมณ์อย่างแท้จริงอยู่แล้ว ก็รู้กันอยู่แล้วว่ามากังกุนต้องมาแช่น้ำทะเลแคริบเบียน ถ้าจะไปมองหาสถาปัตยกรรม หรือวิถีชีวิตผู้คนแบบดั้งเดิม ไปเมืองอื่นจะดีกว่าไหม
สำหรับฉันที่พาชีวิตมาที่นี่เพื่อเอกเขนกบนผืนทราย มีแดดบ่ายลูบไล้ มีสายลมคลอเคลียไม่ห่าง ค่อยๆ ละเลียดจิบแคริบเบียนอย่างไม่ตะกละตะกลาม แค่นี้ก็สุขใจในกังกุนแล้ว
พูดอย่างไม่เกรงใจภูเก็ต ต้องบอกว่ากังกุนดูฮอตกว่าภูเก็ตหลายช่วงตัว เพราะที่นี่คือแหล่งพักผ่อนของคนมีสตางค์ ทั้งผังเมืองและบรรยากาศจึงถูกออกแบบให้ดูมีสกุล ทางเดินเลียบทะเลถูกปูด้วยอิฐเอาไว้อย่างเนี้ยบ หลายคนออกมาจ๊อกกิ้งยืดเส้นยืดสาย ชาวต่างชาติบางคนจึงนิยมมาปักหลักกันที่นี่ ไม่ใช่แค่พักผ่อน แต่ถึงขั้นอพยพมาใช้ชีวิตกันเลย
เมื่อมีอากาศดีๆ เอาไว้ให้ตุนเข้าปอด แดดดีเกือบตลอดทั้งปี มีชายหาดผืนยาวเอาไว้ให้นอนเกลือกกลิ้งปิ้งทราย ก็ไม่น่าแปลกที่กังกุนจะเป็นที่ทางของคนชอบทะเลที่สัญจรมาจากทั่วโลก ฉันเองก็เป็นหนึ่งในนั้น
และเป็นอันรู้กันในหมู่ผู้นิยมบริโภคความบันเทิงเริงใจว่าที่กังกุนเขาปาร์ตี้กันได้ตลอด 24 ชั่วโมง เกาะบางเกาะ เมืองบางเมืองอาจจะปาร์ตี้กันตั้งแต่ดึกๆ ไปจนถึงสายๆ ของอีกวัน แต่ที่กังกุนไม่มีช่วงเวลาให้นักปาร์ตี้ได้พักผ่อน
สำหรับฉันที่พาชีวิตมาที่นี่เพื่อเอกเขนกบนผืนทราย มีแดดบ่ายลูบไล้ มีสายลมคลอเคลียไม่ห่าง ค่อยๆ ละเลียดจิบแคริบเบียนอย่างไม่ตะกละตะกลาม แค่นี้ก็สุขใจในกังกุนแล้ว
น่าสนใจตรงที่ชนเผ่ามายามีความรู้ทางด้านสถาปัตยกรรม คณิตศาสตร์ และดาราศาสตร์อย่างลึกซึ้งอย่างที่เด็กสถาปัตย์และเด็กวิศวะยุคนี้ไม่อาจเข้าใจได้
และเมื่อพาตัวเองดั้นด้นมาถึงเมืองกังกุน จะไม่แวะไปทำความเคารพ ชิเชน อิตซา (Chichen Itza) สิ่งปลูกสร้างที่ชาวเม็กซิกันภูมิอกภูมิใจก็ดูจะผิดมารยาทไปสักนิด เป็นอันรู้กันในหมู่นักท่องอารยธรรมและนักประวัติศาสตร์ว่าใน 1 ปีจะมีอยู่ 2 วันที่ผู้คนแห่แหนไปหาชิเชน อิตซา มากกว่าปกติ คือ 21 มีนาคมและ 23 กันยายน เพราะเป็นวันที่เกิดปรากฏการณ์ Equinox ตอนบ่ายๆ
แสงอาทิตย์จะตกกระทบกับสันของพีระมิดจนเกิดเป็นเงาที่บันไดเป็นรูปตัวงู
ซึ่งชาวมายันเชื่อกันว่าเทพเจ้างูของพวกเขาค่อยๆ เลื้อยลงมาจากยอดพีระมิดเพื่อเยี่ยมเยือนโลกมนุษย์ โดยบังเอิญที่ฉันมีโอกาสไปป้วนเปี้ยนในช่วงเวลาทองนี้พอดี ครั้นจะไม่ยินดียินร้ายนั่งนิ่งไม่ไปหาชิเชน อิตซา ก็ดูด้านชาเกินไป
ชิเชน อิตซา อยู่ห่างจากกังกุนราวๆ 200 กิโลเมตร ประมาณว่าต้องนั่งรถไปเช้าเย็นกลับกาญจนบุรี แต่เรื่องการเดินทางค่อนข้างสบาย เพราะมีรถโดยสารวิ่งไป-กลับทุกวัน เรื่องราวมากมายและอดีตหลายหน้าของชาวมายาคงเกิดขึ้นที่นี่ ทั้งเรื่องราวของการบูชายัญเทพเจ้าผู้กระหายโลหิตด้วยวิธีแปลกๆ ไม่ว่าจะเป็นการโยนสาวบริสุทธิ์ลงไปจากวิหารไปจนถึงควักหัวใจออกมา ทั้งหมดนี้ยิ่งอ่านข้อมูลแล้วยิ่งชวนให้อยากเห็นชิเชน อิตซา เหลือเกิน
พีระมิดที่ก่อร่างสร้างฐานอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสสูง 9 ชั้นนั้น แต่ละด้านมีบันไดขึ้นไปถึงยอดด้านละ 91 ขั้น รวม 4 ด้าน มีบันได 364 ขั้น แต่พอนับชั้นบนสุดด้วย จะรวมเป็น 365 ขั้น ซึ่งเท่ากับจำนวนวันในหนึ่งปี ฟังแล้วอยากกราบชาวมายาขึ้นมาทันที ก็ไม่น่าแปลกใจหรอก ถ้าองค์การยูเนสโกจะมอบสายสะพายมรดกโลกให้ แถมคนทั้งโลกยังโหวตให้ชิเชน อิตซา เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่
นี่คือหนึ่งในแหล่งโบราณคดีที่สะท้อนอารยธรรมอันรุ่งเรืองเมื่อพันกว่าปีที่ผ่านมาของชาวมายาได้เป็นอย่างดี น่าสนใจตรงที่ชนเผ่ามายามีความรู้ทางด้านสถาปัตยกรรม คณิตศาสตร์ และดาราศาสตร์อย่างลึกซึ้งอย่างที่เด็กสถาปัตย์และเด็กวิศวะยุคนี้ไม่อาจเข้าใจได้
เอล คาสติลโล (El Castillo) หรือพีระมิดของเทพคูคุลคานที่เป็นพีระมิดสูงที่สุดในชิเชน อิตซา ก็ชวนให้อ้าปากค้าง เพราะพีระมิดที่ก่อร่างสร้างฐานอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสสูง 9 ชั้นนั้น แต่ละด้านมีบันไดขึ้นไปถึงยอดด้านละ 91 ขั้น รวม 4 ด้าน มีบันได 364 ขั้น แต่พอนับชั้นบนสุดด้วยจะรวมเป็น 365 ขั้น ซึ่งเท่ากับจำนวนวันในหนึ่งปี ฟังแล้วอยากกราบชาวมายาขึ้นมาทันที ก็ไม่น่าแปลกใจหรอก ถ้าองค์การยูเนสโกจะมอบสายสะพายมรดกโลกให้ แถมคนทั้งโลกยังโหวตให้ชิเชน อิตซา เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่จากการโหวตเมื่อวันที่ 7 เดือน 7 ปี 2007 อีกด้วย
ฉันใช้เวลาช่วงก่อน 4 โมงเย็นเดินสำรวจรอบๆ บริเวณชิเชน อิตซา ที่มีทั้งลานโล่งที่สมัยก่อนที่เคยเป็นตลาด มุมที่มีทั้งเสาหินโบราณจำนวนมาก และวิหารเก่าแก่อีกหลายแห่ง แต่มุมที่นักเดินทางไปยืนสอดส่องกันมากน่าจะเป็นมุมที่เป็นรูปปั้นคนนั่งที่เรียกกันว่า ชักมูล (Chac Mool) อาจจะเป็นเพราะทุกวันนี้ยังเป็นปริศนาว่ารูปปั้นนี้หมายถึงอะไร ผู้คนเลยพากันยืนมองกันด้วยสายตาสงสัยใคร่รู้ ยิ่งรู้เรื่องราวของชาวมายา ยิ่งชวนให้พิศวงงงงวยกับความสามารถอย่างน่าเหลือเชื่อของพวกเขา
แน่นอนว่าเรื่องปฏิทินของชาวมายาและวันสิ้นโลกเป็นเรื่องที่ใครๆ ก็พูดถึง แต่ความช่ำชองในเรื่องดาราศาสตร์และคณิตศาสตร์จนทำนายเวลาเกิดสุริยุปราคาและจันทรุปราคาได้ล่วงหน้าเป็นเวลานานนี่ก็น่าทึ่งไม่ใช่น้อย
ดูเหมือนว่ายิ่งใกล้ 16 นาฬิกามากเท่าไร ผู้คนก็ยิ่งนั่งกันอย่างกระสับกระส่าย ทุกสายตาพุ่งไปจับจ้องบันไดทางด้านทิศเหนือกันเกือบไม่กะพริบตา พลันที่เข็มยาวทาบลงบนเลข 12 เข็มสั้นแตะที่เลข 4 เสียงฮือฮาของผู้คนก็เปล่งออกมา เมื่อแสงค่อยๆ หย่อนตัวทาบลงตกกระทบกับสันของพีระมิดจนกลายเป็นเงาทอดตัวลงมาคล้ายรูปงูเลื้อยลงมาบรรจบกับตรงตีนบันไดเป็นหัวงูพอดิบพอดี
สำหรับชาวมายาแล้ว ราวกับเทพคูคุลคานซึ่งเป็นเทพของงูกำลังเดินทางลงมาจากสรวงสวรรค์เพื่อพบปะพวกเขา นี่คือความมหัศจรรย์สมราคา สิ่งน่าทึ่งแบบนี้เกิดขึ้นเพื่อให้มนุษย์ยำเกรงต่อโลกใบนี้ และเคารพผู้คนในอดีตที่ทำอะไรได้มากกว่าที่เราคิดเสมอ
เมื่อดาราศาสตร์ คณิตศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และสถาปัตยกรรมมาบรรจบกัน ณ สถานที่แห่งนี้ จากกังกุนถึงชิเชน อิตซา มีแต่โมเมนต์ cool cool ให้นึกถึง ไม่มีไหนเหมาะจะพูดถึงเม็กซิโกเท่า Mexicool อีกแล้ว เพราะมัน cool จริงๆ นี่ไง
- เส้นทางสู่เมืองกังกุน บินจากกรุงเทพฯ ไปตั้งหลักที่ลอสแอนเจลิสด้วยสายการบินไชน่าแอร์ไลน์ก่อน หรือไม่ก็ซานฟรานซิสโกและนิวยอร์ก ซึ่งเขามีให้บริการบินไป-กลับทุกวัน สอบถามโทร 0 2250 9880
- หรือคลิกเข้าไปสำรวจได้ที่เว็บไซต์ www.china-airlines.com จากนั้นมีเที่ยวบินจากหัวเมืองใหญ่ในอเมริกาบินตรงไปกังกุนให้เลือกเยอะพอสมควร มีทั้งบินตรงและบินพักเปลี่ยนเครื่อง เลือกได้ตามกำลังทรัพย์
- จากกังกุนไปชิเชน อิตซา สามารถเดินทางด้วยตัวเองได้โดยรถบัสประจำทาง หรือจะซื้อเดย์ทัวร์ก็ได้ ส่วนค่าเข้าชมมีการเปลี่ยนแปลงตลอด คลิกเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.chichenitza.inah.gob.mx
- คนไทยไปเม็กซิโกต้องทำวีซ่า แต่ถ้าใครมีวีซ่าอเมริกาที่ยังไม่หมดอายุก็สามารถเข้าไปท่องเที่ยวได้เลย