เกิดอะไรขึ้น:
วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม 2564 ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบศ. มีมติเห็นชอบในแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดส โดยมีไทม์ไลน์ดังนี้
วันที่ 1 เมษายน 2564 จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดส แต่ยังต้องมีการกักตัวในโรงแรม 7 วันโดยไม่ต้องกักตัวในห้องพัก หลังจากนั้นจะสามารถเดินทางไปพื้นที่ Zeal Area เพื่อท่องเที่ยวในพื้นที่ที่กำหนดภายนอกโรงแรมได้ โดยพื้นที่นำร่องได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา เกาะสมุย พัทยา และเชียงใหม่
วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 อนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้วเดินทางเข้าจังหวักภูเก็ตได้และต้องกักตัวอยู่ในภูเก็ตอย่างน้อย 7 วัน ก่อนที่จะสามารถเดินทางไปที่อื่นๆ ได้ และใช้มาตรการป้องกันควบคู่กับ Vaccine Certificated รวมถึงใช้แอปพลิเคชันติดตามตัว นอกจากนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือนทางมาจำนวน 1 แสนคนใน 3Q64 ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศยุโรป
ในไตรมาส 4 ปี 2564 จะเพิ่มพื้นที่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่ต้องกักตัวมากขึ้น เช่น กระบี่ พังงา เกาะสมุย พัทยา และเชียงใหม่ โดย ททท. คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 6.5 ล้านคนในปี 2564 และในไตรมาส 1 ปี 2565 รัฐบาลคาดว่าจะเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้
กระทบอย่างไร:
วันนี้ (29 มีนาคม) ราคาหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว (SETTOURISM) ปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น 3.01%DoD นำโดย ราคาหุ้น บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) เพิ่มขึ้น 5.7%DoD สู่ระดับ 4.84 บาท, บมจ.สยามเวลเนสกรุ๊ป (SPA) เพิ่มขึ้น 4.1%DoD สู่ระดับ 8.90 บาท, บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) เพิ่มขึ้น 2.1%DoD สู่ระดับ 36.75 บาท, บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) เพิ่มขึ้น 1.8%DoD สู่ระดับ 8.70 บาท, บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) เพิ่มขึ้น 1.4%DoD สู่ระดับ 2.90 บาท, บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) เพิ่มขึ้น 0.7%DoD สู่ระดับ 68.25 บาท ขณะที่ราคาหุ้น บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 32.50 บาท
มุมมองระยะสั้น:
SCBS คาดว่าหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวจะได้รับ Sentiment บวกจากแนวทางการเปิดประเทศที่มีความชัดเจนมากขึ้น อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นกลุ่มดังกล่าวฟื้นตัวมาบ้างแล้วในระดับหนึ่ง ด้านทิศทางผลประกอบการของหุ้นที่ดังกล่าว SCBS คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวอย่างชัดเจนมากขึ้นใน 2H64 ตามแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามคือ รายละเอียดการอนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในภูเก็ตโดยไม่ต้องกักตัว รวมถึงการจัดส่งวัคซีน 9.3 แสนโดสให้จังหวัดภูเก็ตภายในเดือน มิถุนายน 2564 อย่างน้อยครอบคลุม 3 กลุ่มคือ คนภูเก็ต คนที่มาทำงานในภูเก็ต และแรงงานต่างด้าวชาวต่างชาติ
มุมมองระยะยาว:
นอกเหนือจากหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ในระยะกลางถึงยาว SCBS มองว่าหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่มีสัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติสูงจะได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศเช่นกัน
ทั้งนี้ SCBS คาดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2564 จะอยู่ที่ระดับ 5 ล้านคน (ซึ่งต่ำกว่าที่ ททท. คาด) และคาดว่าจะฟื้นตัวต่อเนื่องสู่ระดับ 26 ล้านคน และ 34 ล้านคน ในปี 2565 และปี 2566 และฟื้นตัวสู่ระดับก่อนโควิด-19 ในปี 2567 ที่ระดับ 40 ล้านคน
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามคือ การกระจายวัคซีนโควิด-19 ทั่วประเทศไทยให้ครบ 70% ก่อนที่จะมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัวในวันที่ 1 มกราคม 2565
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า