วันนี้ (22 มีนาคม) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ยังไม่มีการปรับมาตรการการจัดกิจกรรมสงกรานต์ แม้จะพบการติดเชื้อโควิด-19 คลัสเตอร์ใหม่ ทั้งในกลุ่มโรงงานและที่พักคนงานที่จังหวัดสมุทรปราการว่า ยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และไม่ต้องการให้ประชาชนเกิดความสับสน แต่ทุกอย่างต้องอยู่บนพื้นฐานความปลอดภัย หากเกิดความจำเป็นสามารถปรับเปลี่ยนได้
สำหรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ได้รับมาล่าสุด จำนวน 8 แสนโดส ยังคงจัดสรรให้กลุ่มเสี่ยงและจังหวัดท่องเที่ยว โดยแบ่งไปที่จังหวัดภูเก็ต 1 แสนโดส เกาะสมุย 5 หมื่นโดส และที่จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อให้เห็นผลชัดเจนว่าเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง โดยยึดตามหลักระบาดวิทยา เพราะหากต้องการให้เห็นความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจ ต้องจัดวัคซีนไปยังพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มแพทย์เท่านั้น โดยกระทรวงสาธารณสุขจะสรุปแผนการจัดสรรวัคซีนอย่างชัดเจน ขอประชาชนอย่ากังวล วัคซีนมีเพียงพอ หากมีการเจรจาจนได้วัคซีนเพิ่มในเดือนเมษายน ไทยจะได้รับวัคซีนมากกว่า 1 ล้านโดส ซึ่งขณะนี้วัคซีนของ 2 บริษัทเพียงพอแล้ว
ส่วนข้อเสนอภาคเอกชนในจังหวัดภูเก็ตร้องขอวัคซีน 9 แสนโดส เพื่อรองรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่คาดหวังให้เกิดขึ้นภายในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้นั้น อนุทินกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ในการจัดสรรวัคซีนตามที่ร้องขอ เนื่องจากวัคซีนที่ผลิตในไทยได้รับการยืนยันจะได้รับการส่งมอบในเดือนมิถุนายน 5 ล้านโดส จากนั้นเดือนละ 10 ล้านโดส ดังนั้น ความต้องการของภูเก็ต 9 แสนโดสไม่ใช่เรื่องใหญ่ ทั้งสามารถจัดสรรให้กับประชาชนรวมถึงเจ้าหน้าที่บริเวณชายแดนได้ด้วย ซึ่งการหารือกับเสนาธิการทหารบกในการจัดสรรวัคซีนสำหรับกองทัพได้ถึง 1 ล้านโดส เพื่อนำไปบริหารจัดการเอง เพราะมีวัคซีนเพียงพอ แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าจะเปิดรับนักท่องเที่ยวได้ทันวันที่ 1 กรกฎาคมหรือไม่ เนื่องจากการฉีดวัคซีนต้องใช้ระยะเวลาเพื่อป้องกันการติดเชื้อ เพียงแต่แนวโน้มของสถานการณ์ต้องดีขึ้น ผู้ป่วยน้อยลง อาการรุนแรงไม่มี การแพร่ระบาดน้อยลง พร้อมย้ำสิ่งที่คาดหวังไม่ใช่การไม่พบผู้ติดเชื้อ เพียงแต่ผู้ติดเชื้อจะลดน้อยลง ทุกอย่างก็จะสามารถกลับมาได้
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล