บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล หรือ PTTGC ประกาศตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้นบมจ. วีนิไทย หรือ VNT จำนวน 16.24% ในราคาหุ้นละ 39 บาท เพื่อเพิกถอนจากการเป็นบริษัทจดทะเบียน ก่อนนำไปควบรวมกับ ‘ไทยอาซาฮี เคมีภัณฑ์’ ในกลุ่ม AGC Inc เพื่อตั้งเป็นบริษัทใหม่
บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทนัดพิเศษ มีมติอนุมัติเห็นชอบให้ บริษัทเป็นผู้ทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของ บริษัท วีนิไทย จำกัด (มหาชน) หรือ VNT จำนวน 889,154,755 หุ้น หรือคิดเป็น 75.02% ของหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ VNT เพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ของ VNT จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในราคาเสนอซื้อหุ้นละ 39 บาท โดยบริษัทประสานงานร่วมกับ AGC Inc. ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ใน VNT ในการดำเนินการ
ทั้งนี้อาจปรับราคาเสนอซื้อที่กำหนดไว้ที่ 39 บาทต่อหุ้นได้ หาก VNT มีการจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้น และ VNT มีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ อันเป็นผลให้จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นหรือลดลง หรือ VNT มีการให้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนหรือใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิให้แก่ผู้ถือหุ้นตามส่วนจำนวนหุ้นที่ถืออยู่เดิม
อย่างไรก็ตาม AGC Inc. ได้แสดงเจตนาที่จะไม่ขายหุ้นสามัญที่ถืออยู่ทั้งหมดใน VNT จำนวน 696,663,509 หุ้น หรือคิดเป็น 58.78% ของหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ VNT ในการทำคำเสนอซื้อเพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ทั้งหมดของ VNT ดังนั้นจำนวนหุ้นสามัญของ VNT ที่บริษัทจะต้องรับซื้อจากผู้ถือหุ้นอื่นของ VNT จะมีจำนวนทั้งหมด 192,491,246 หุ้น หรือคิดเป็น 16.24% ของหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด
ทั้งนี้หาก VNT สามารถดำเนินการเพิกถอนหลักทรัพย์ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้สำเร็จ พีทีที โกลบอล เคมิคอล และ AGC Inc. มีแผนที่จะสนับสนุนการควบบริษัทระหว่าง VNT และบริษัท ไทยอาซาฮีเคมีภัณฑ์ จำกัด (AGC-TH) โดยก่อนที่การควบรวมจะแล้วเสร็จ AGC-TH จะปรับโครงสร้าง โดยจะรวมธุรกิจของ AGC Inc. ในประเทศเวียดนามมาอยู่ภายใต้ AGC-TH ก่อนควบรวมกับ VNT เป็นบริษัทแห่งใหม่ (NewCo)
ทั้งนี้เป็นการร่วมมือในการสร้างความแข็งแกร่ง (Synergy) ให้กับ VNT และบริษัทย่อยอื่นๆ ของ AGC เพื่อเป็นผู้ดำเนินธุรกิจ PVC และ Chlor-Alkali แบบครบวงจรในประเทศไทยและเวียดนาม โดยภายหลังการควบรวมบริษัทแห่งใหม่ (NewCo) จะมีการใช้ต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ (Cost Effective) และมีความได้เปรียบในการแข่งขัน ในกำลังการผลิตที่สำคัญ ได้แก่ ผลิตพลาสติกพีวีซี (PVC) 450,000 ตันต่อปี ผลิตภัณฑ์คลอร์-อัลคาไล หรือโซดาไฟ (Chlor-Alkali) 720,000 ตันต่อปี และผลิตภัณฑ์อีพิคลอโรไฮดรินฐานชีวภาพ (Epichlorohydrin: ECH) 120,000 ตันต่อปี โดยเมื่อการควบรวมบริษัทแล้วเสร็จ บริษัทอาจพิจารณาซื้อหุ้นเพิ่มทุนในบริษัทใหม่ ตามจำนวนและราคาของหุ้นเพิ่มทุนที่ บริษัทจะได้พิจารณาต่อไป
การลงทุนในครั้งนี้ จะส่งผลดีต่อการเติบโต พร้อมขยายฐาน สร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจปลายน้ำของบริษัท และพร้อมต่อยอดไปสู่ธุรกิจในส่วนของผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ผลิตภัณฑ์คลอร์-อัลคาไล หรือโซดาไฟ (Chlor-Alkali) และธุรกิจ PVC ซึ่งมีอัตราการเติบโตในระดับที่สูง อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มมูลค่าในธุรกิจสายโอเลฟินส์ให้กับพีทีที โกลบอล เคมิคอล
ด้าน บมจ. วีนิไทย หรือ VNT แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2564 ได้มีมติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 เพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิกถอนหุ้นของบริษัทออกจากการ เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่18 มีนาคม 2564 บริษัทได้รับหนังสือจาก AGC Inc. (AGC) และ บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล หรือ PTTGC ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทในสัดส่วน 58.78% และ 24.98% ของจำนวนหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดตามลำดับ
โดย AGC และ PTTGC แจ้งความประสงค์ที่จะให้บริษัทเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทและผู้ถือหุ้นของบริษัทเพื่อพิจารณาการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทออกจากตลาดหลักทรัพย์ โดย PTTGC จะเป็นผู้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท เพื่อการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทออกจากตลาดหลักทรัพย์
รวมทั้งที่ประชุมมีมติอนุมัติโดยความเห็นชอบของกรรมการอิสระซึ่งไม่มีส่วนได้เสียในเรื่องดังกล่าวให้แต่งตั้งบริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (Independent Financial Advisor หรือ IFA) เพื่อให้ความเห็นเกี่ยวกับ การเพิกถอนหลักทรัพย์ต่อผู้ถือหุ้นของบริษัท
ทั้งนี้ VNT ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ผงพลาสติกพีวีซีและโซดาไฟ บริษัทเป็นผู้ผลิตในกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นต่อเนื่อง
ราคาหุ้น VNT ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 มีนาคม ปิดการซื้อขายที่ 36.75 บาท
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า