หลังจากมีข่าวการ ‘เขย่า’ องค์กรครั้งใหญ่ของ บมจ. การบินไทย (THAI) เพื่อให้สอดรับกับแผนธุรกิจใหม่ที่จะพาการบินไทยกลับมาผงาดได้อีกครั้ง โดยก่อนหน้านี้การบินไทยได้ประกาศโครงการสมัครใจลาออกเพื่อลดจำนวนพนักงานลงเหลือไม่เกิน 15,000 คน จากปัจจุบันที่มีพนักงานรวมเกือบๆ 20,000 คน
โดยพนักงานที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการสมัครใจลาออกต้องแจ้งความจำนงหรือสมัครเพื่อเข้าทำงานในตำแหน่งต่างๆ ภายใต้โครงสร้างใหม่ก่อนวันที่ 19 มีนาคมนี้ ซึ่งสร้างความไม่สบายใจให้กับพนักงานบางส่วน เพราะเกรงว่าจะเสียสิทธิ์ต่างๆ รวมทั้งไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายแรงงาน
ล่าสุด การบินไทยได้ออกมาทำความเข้าใจกับพนักงานที่มีต่อประเด็นเหล่านี้ โดย ชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทย กล่าวว่า เพื่อให้การฟื้นฟูกิจการสำเร็จลุล่วงจนบริษัทสามารถประกอบกิจการต่อไปได้ บริษัทจำเป็นต้องปรับปรุงโครงสร้างองค์กรและกลยุทธ์ทางธุรกิจหลายๆ ด้าน เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินงานมากขึ้น อันจะนำไปสู่การเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน และการบริหารจัดการต้นทุนให้สามารถแข่งขันในตลาดได้
ในส่วนของการปรับโครงสร้างองค์กรนั้น บริษัทใช้วิธีขอความร่วมมือจากพนักงานให้ความยินยอมเปลี่ยนสภาพการจ้างตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน โดยขอให้พนักงานพิจารณาให้ความช่วยเหลือบริษัท เพื่อให้การฟื้นฟูกิจการสามารถทำได้สำเร็จเพื่อที่การบินไทยจะได้กลับมาเป็นองค์กรที่แข่งขันได้และสามารถสร้างความภูมิใจแก่ประเทศไทยได้ในฐานะที่เป็นสายการบินแห่งชาติที่มีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ
พนักงานที่แสดงความจำนงเข้าสู่กระบวนกลั่นกรองสู่โครงสร้างองค์กรใหม่ 2564 ยังคงเป็นลูกจ้างของบริษัทอยู่โดยไม่ต้องลาออกจากการเป็นพนักงานก่อนแสดงความจำนง ซึ่งการแสดงความจำนงเป็นเพียงการให้ความยินยอมในการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้าง อาทิ ตำแหน่งงาน ค่าจ้าง และสวัสดิการต่างๆ ที่จะได้รับตามโครงสร้างองค์กรและสิทธิประโยชน์ใหม่เท่านั้น
หากพนักงานที่แสดงความจำนงได้รับการกลั่นกรองเข้าสู่โครงสร้างองค์กรใหม่ อายุงานของพนักงานจะนับต่อเนื่อง รวมถึงการนับอายุงานตามกองทุนบำเหน็จและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพก็นับอายุงานต่อเนื่องด้วย ส่วนสภาพการจ้างจะเปลี่ยนแปลงไปโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป
สำหรับพนักงานที่ไม่แสดงความจำนงเข้ากระบวนกลั่นกรองสู่โครงสร้างองค์กรใหม่ 2564 และไม่เข้าร่วมโครงการร่วมใจจากองค์กร จะยังคงเป็นพนักงานของบริษัทภายใต้สภาพการจ้างเดิมต่อไป
ทั้งนี้บริษัทได้ดำเนินการและพิจารณาอย่างรอบคอบรัดกุม ภายใต้กรอบกฎหมายล้มละลาย และกฎหมายคุ้มครองแรงงาน โดยคำนึงถึงสถานการณ์ของบริษัทและความเป็นธรรมต่อพนักงานอย่างที่สุด และบริษัทหวังว่าจะได้รับความร่วมมือร่วมใจจากพนักงานให้ความยินยอมเปลี่ยนสภาพการจ้างดังกล่าว
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า