วันนี้ (8 มีนาคม) เครือข่ายขบวนการเคลื่อนไหวผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ออกแถลงการณ์เนื่องในวันสตรีสากล เรียกร้องให้รัฐยุติความรุนแรง เราต้องการรัฐบาลใหม่ รัฐบาลที่มีคุณค่าคู่ควรและให้ได้กับสิ่งที่เราทุกคนสมควรได้รับ โดยมีรายละเอียดระบุว่า
ร้อยกว่าปีที่ผ่านมา ผู้หญิงในรัสเซียและสหรัฐอเมริกาลงถนนประท้วงจนก่อกำเนิดให้เกิดวันสตรีสากล มันมิใช่การเฉลิมฉลอง ผู้หญิงได้เดินขบวนประท้วงเพื่อยุติความรุนแรงโดยรัฐ ซึ่งทำให้ชีวิตของพวกเธอและครอบครัวของเธอแทบจะอยู่ไม่ได้และมีความยากลำบากเหลือเกิน
วันสตรีสากลปี 2564 ก็ยังมิใช่วันแห่งการเฉลิมฉลอง เรายังคงได้ยินเสียงเรียกร้องของพี่และน้องสาวของเราในเมียนมา พวกเธอลุกขึ้นมาด้วยความกล้าหาญอันเปี่ยมล้นเพื่อต่อต้านกับความรุนแรงถึงตายจากรัฐเผด็จการทหารเมียนมา เราร่วมเปล่งเสียงและชูกำปั้นร่วมกับพวกเธอ ดอฮ์ อะ เย ดอฮ์ อะ เย (สู้ สู้ เพื่อการเคลื่อนไหวของเรา)
ชีวิตประจำวันของผู้หญิงในประเทศไทยถูกบังคับให้ต้องเผชิญหน้ากับรัฐที่ปกครองโดยทรราช อย่าลืมว่าผู้จ่ายภาษีและคนไปเลือกตั้งส่วนใหญ่คือผู้หญิง แต่รัฐบาลมิได้รับใช้พวกเรา รัฐบาลและสังคมมักจะพึ่งพาผู้หญิงเพื่อปกป้องและจัดหาสวัสดิการแก่ครอบครัวและแก่ผู้คนในสังคม แต่ในระหว่างที่มีโรคระบาดและส่งผลให้เศรษฐกิจกระทบกับชีวิตของเราอย่างหนักหน่วงแบบนี้ ไม่มีเงินสักบาทที่รัฐจะสนับสนุนให้แก่แม่ๆ ที่แบกรับภาระสวัสดิการมาตลอด
รัฐบาลที่เรามีตอนนี้แทนที่จะเป็นตัวแทนของเรา แต่กลับเพิกเฉยต่อความรับผิดชอบต่อเรา แทนที่จะปกป้องคุ้มครองเรา กลับเป็นฝ่ายกดขี่และบูลลี่เรา
อย่าลืมว่าผู้หญิง โดยเฉพาะแม่ๆ คือคนที่ทำงานดูแลปกป้องเด็กๆ หลานๆ พ่อแม่ที่แก่ชรา ชุมชน และปกป้องทรัพยากรธรรมชาติในโลกใบนี้ ทั่วประเทศผู้หญิงเป็นคนแรกที่จะตื่นแต่นอนเป็นคนสุดท้าย เราทำงานดูแลแก่ครอบครัว เราไปทำงานหาเงินมาดูแลครอบครัว เราหลายคนทำงานเพื่อดูแลและต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนและความยุติธรรมในสังคม
ผู้หญิงปกป้องชีวิต ความเป็นอยู่ และที่ดิน เราต้องอยู่ภายใต้เมฆทะมึนแห่งความรุนแรงโดยรัฐ อยู่ในภาวะที่ต้องคำนวณความเสี่ยงตลอดเวลาแม้ว่าจะแสดงการต่อต้านที่เล็กน้อยเพียงใด ไม่ว่าจะเป็นการชูสามนิ้ว การผูกโบสีขาว หรือการแชร์ข่าวออนไลน์ ผู้หญิงในสามจังหวัดชายแดนใต้แม้กระทั่งการจะไปจับจ่ายที่ตลาดก็ยังสุ่มเสี่ยงต่อความรุนแรงโดยรัฐ ในชีวิตความเป็นแม่เราต้องคำนวณและตระเตรียมตลอดเวลาในการรับมือกับความเสี่ยงที่ลูกหลานเราจะได้รับจากการปกสิทธิเสรีภาพและสิทธิมนุษยชน
เราเรียกร้องการเปลี่ยนแปลง รัฐบาลชุดนี้ต้องออกไป และปล่อยให้พวกเราประชาชนร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะก่อให้เกิดและสอดรับกับสิ่งที่เราเรียกร้อง รัฐบาลที่มีคุณค่าคู่ควรกับเราผู้หญิงและประชาชนทุกคน จะต้องเป็น
- รัฐบาลที่จริงจังในการขจัดความยากจน มิใช่ขับไล่ให้เราต้องออกจากบ้านของเราและละทิ้งวิถีชีวิต
- รัฐบาลที่รับใช้เรา มิใช่รับใช้ทุนนิยมและความโลภของใคร
- เราต้องการรัฐบาลที่ไม่ออกกฎหมายเพื่อมาบีบคอเราเวลาเราต้องทำมาหากินและไม่เอารัฐบาลที่มีเจ้าหน้าที่ที่คอยจะรีดไถเราในทุกขณะจิต
- รัฐบาลที่ทำให้เรามีสิทธิทางกฎหมายที่จะยุติการตั้งครรภ์ที่เราไม่ต้องการอย่างปลอดภัย และทำให้แน่ใจว่าเราจะได้รับการสนับสนุนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีหากเราตัดสินใจและมีความต้องการที่จะตั้งครรภ์
- รัฐบาลที่รักษาสิทธิเพื่อให้เรามีความมั่นคงในการเข้าถึงสัญชาติและการแสวงหาที่ที่ปลอดภัย
- รัฐบาลที่ทำให้แน่ใจว่าเด็กๆ ของเราปลอดภัยในโรงเรียน การศึกษาที่ไม่มีค่าใช้จ่ายจริงๆ และให้คนทุกคนเข้าถึง
- รัฐบาลที่พิทักษ์สิทธิของเราในการเข้าถึงที่ดิน รัฐที่ปกป้องเราจากการทำลายล้างสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตของเรา
- รัฐบาลที่เคารพคุณค่าของเราและรับประกันสวัสดิการที่ดีของประชากรสูงวัยหรือผู้พิการ
- รัฐบาลที่เป็นปากเป็นเสียง และไม่อดทนอดกลั้นกับความเกลียดและความรุนแรงต่อผู้หญิง ไม่ว่าเราจะเป็นหญิงข้ามเพศ เป็นเลสเบี้ยน เป็นคนชอบเพศตรงข้าม หรือมีเพศสภาพและความต้องการทางเพศแบบใด
- รัฐบาลที่ไม่จับเรายัดคุก คุกคามหรือข่มขู่เรา ลูกหลานของเรา หรือครอบครัวของเรา เมื่อเราปกป้องสิทธิในการมีชีวิตและสิทธิเสรีภาพต่างๆ
- รัฐบาลที่ไม่ขังผู้หญิงมากกว่าประเทศใดๆ ในโลก
- รัฐบาลที่ทำเพื่อความยุติธรรม สันติภาพ และยุติความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนใต้
- รัฐบาลที่ไม่มีส่วนในการปกปิดการสังหารและการบังคับให้ประชาชนสูญหาย
- รัฐบาลที่ทำให้แน่ใจว่าที่ดินไม่ถูกใส่สารพิษ ปกป้องแม่น้ำและท้องทะเล และรับประกันว่าอากาศที่เราหายใจอยู่ทุกวันไม่ย้อนกลับมาฆ่าเรา
- รัฐบาลที่เคารพสิทธิและเจตจำนงในการตัดสินในชะตากรรมของตนเองและเคารพศักดิ์ศรีในความเป็นมนุษย์ของผู้หญิงชาติพันธุ์และชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิมของพวกเธอ
เราสมควรได้ใช้ชีวิตที่ปราศจากความรุนแรงโดยรัฐ เราสมควรได้มีรัฐบาลที่ลงทุนไปกับการดูแลประชาชน มิใช่เข่นฆ่าและทำร้ายประชาชน รัฐบาลที่ใส่ใจกับปากท้อง มิใช่ปืนและอาวุธ เราเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงโดยรัฐทั้งในไทย ในเมียนมา และทุกประเทศทั่วโลก
“คุณอาจยิงฉันจากคำพูด คุณอาจเชือดฉันด้วยสายตา คุณอาจจะฆ่าฉันด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ฉันก็เหมือนอากาศ ฉันจะยืนหยัดขึ้นมาและอยู่ในทุกที่” มายา แองเจลู นักกวีและนักต่อสู้เพื่อสิทธิพลเมืองผิวดำชาวอเมริกัน
สำหรับเครือข่ายขบวนการเคลื่อนไหวผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนเป็นการร่วมตัวกันของผู้หญิงนักปกป้องสิทธิฯ ที่มาจากเครือข่ายชุมชนและผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบต่างๆ กัน 19 ประเด็น อาทิ การเข้าถึงที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ พนักงานบริการ ผู้หญิงพิการ ผู้หญิงคนจนเมือง และผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงในจังหวัดชายแดนใต้ เป็นต้น เครือข่ายมีข้อเสนอให้แก้รัฐธรรมนูญปี 2560 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญที่ประชาชนไม่มีส่วนร่วมและไม่คุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชน
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า