ทำเนียบขาวเผยแพร่แถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ได้โทรศัพท์สายตรงถึงสมเด็จพระราชาธิบดี ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด กษัตริย์แห่งซาอุดีอาระเบีย เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่รับตำแหน่ง โดยมีการหารือในหลายประเด็น ทั้งด้านความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ ตลอดจนประเด็นสิทธิมนุษยชนและความพยายามยุติสงครามในเยเมน
การพูดคุยระหว่างไบเดนและกษัตริย์ซัลมานเกิดขึ้นหลังจากที่เขาได้อ่านรายงานการสืบสวนของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ที่เตรียมเปิดเผยข้อมูลคดีการลอบสังหาร จามาล คาช็อกกี นักข่าวชาวซาอุฯ และคอลัมนิสต์ของหนังสือพิมพ์ Washington Post ที่ถูกสังหารภายในสถานกงสุลซาอุฯ ในนครอิสตันบูลของตุรกี เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2018
ซึ่งรายงานฉบับล่าสุดนี้แสดงให้เห็นว่า ทีมสังหารซึ่งเป็นชาวซาอุฯ นั้นทำงานตามคำสั่งของมกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน พระราชโอรสของกษัตริย์ซัลมาน
อย่างไรก็ตาม ในการพูดคุยระหว่างไบเดนกับกษัตริย์ซัลมาน ไม่มีการเอ่ยถึงชื่อของคาช็อกกี โดยประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นหารือคือเรื่องการปล่อยตัวนักเคลื่อนไหวชาวอเมริกันเชื้อสายซาอุฯ 2 คน และ ลูจาอิน อัล-ฮัธลูลว์ นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิสตรีคนดังที่ถูกจำคุกมาแล้วเกือบ 3 ปี จากโทษทั้งหมดเกือบ 6 ปี ในคดีปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบ
ขณะที่สหรัฐฯ ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญในการเคารพหลักสิทธิมนุษยชนสากลและหลักนิติธรรม ซึ่งถือเป็นการแสดงจุดยืนและท่าทีในการปรับความสัมพันธ์กับซาอุฯ ที่แข็งกร้าวและเป็นไปตามหลักสากลมากกว่าในยุครัฐบาลทรัมป์
“รัฐบาลของเรามุ่งเน้นการปรับความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น” เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาว กล่าวเมื่อวันศุกร์ (25 กุมภาพันธ์) พร้อมยืนยันว่าสหรัฐฯ จะยังคงเดินหน้าความร่วมมือกับซาอุฯ เพื่อรับมือภัยคุกคามในภูมิภาค
ทั้งนี้ ไบเดนยังเน้นย้ำความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ และให้ความมั่นใจในการป้องกันซาอุฯ จากภัยคุกคามของอิหร่าน นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยถึงความพยายามทางการทูตเพื่อยุติสงครามกลางเมืองในเยเมนที่ยืดเยื้อมาตลอดหลายปีด้วย
“ประธานาธิบดีบอกกับกษัตริย์ซัลมานว่าเขาจะพยายามทำให้ความสัมพันธ์ทวิภาคี แข็งแกร่งและโปร่งใสให้มากที่สุด” ทำเนียบขาวระบุในแถลงการณ์
ภาพ: Getty Images
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
