Hermès เตรียมแจกโบนัสพนักงาน 16,600 คน อย่างต่ำคนละ 1,250 ยูโร หรือราว 45,000 บาท หลังยอดขายไตรมาสสุดท้ายของปี 2020 เพิ่มขึ้น 15.6% คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 2,100 ล้านยูโร หรือราว 76,000 ล้านบาท
ในช่วงที่ผ่านมา หลายแบรนด์ได้เปิดเผยยอดขายไตรมาสสุดท้ายของปี 2020 รวมถึงผลประกอบการภาพรวม ซึ่งติดอยู่ในแดนลบตามคาดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ไม่ใช่กรณีของ Hermès ที่ยังคงสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้นในปีที่อุตสาหกรรมแฟชั่นกำลังเจอกับวิกฤตเศรษฐกิจ
ล่าสุดทางแบรนด์ออกมาเผยว่าตลาดเอเชียแปซิฟิกที่โตขึ้น 47.4% โดยเฉพาะยอดขายในประเทศจีน ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และไทย แถมราคาหุ้นของแบรนด์ยังเพิ่มขึ้น 32% ในปี 2020 จากกระแสการซื้อสินค้าแฟชั่นเพื่อการลงทุนที่กำลังมาแรง
อย่างไรก็ตาม รายได้รวมของแบรนด์ในปี 2020 ลดลงเพียงแค่ 6% เนื่องจากในไตรมาสที่ 2 ซึ่งเป็นช่วงที่โรคโควิด-19 กำลังระบาดใหม่ๆ รายได้ของ Hermès Group ตกลงสูงถึง 41% เนื่องจากหลายร้านทั่วโลกต้องปิดตัวลงชั่วคราวตามมาตรการล็อกดาวน์ในหลายประเทศทั่วโลก แต่ทันที่แบรนด์กลับมาเปิดให้บริการหน้าร้านอีกครั้ง เหล่าลูกค้าที่เหนียวแน่นของแบรนด์ก็พร้อมใจกันกลับมาซื้อสินค้าของแบรนด์ จนทางบริษัทสามารถจ่ายเงินโบนัสเพื่อเป็นการตอบแทนพนักงานที่มีส่วนช่วยให้ยอดขายของแบรนด์กลับมาดีเช่นเดิม
ในปีที่ผ่านมาคนดังหลายคนเริ่มกลับมามองเห็นมูลค่าของแบรนด์ Hermès มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น คาร์ดิ บี ที่เริ่มเป็นหนึ่งในนักสะสมกระเป๋ารุ่น Birkin เช่นเดียวกับ ไคลี เจนเนอร์ ที่ซื้อกระเป๋า Hermès ให้เธอเป็นของขวัญ และรุ่น Kelly ใบจิ๋วอีกหนึ่งใบให้หนูน้อย สตอร์มี เว็บสเตอร์ สะพายไปโรงเรียน และไมเคิล บี. จอร์แดน ที่เพิ่งซื้อหุ้นของแบรนด์ให้กับ ลอรี ฮาร์วีย์ เป็นของขวัญวันวาเลนไทน์ครั้งแรกของทั้งคู่ รวมไปถึงสินค้าไวรัลอย่างรองเท้า Birkenstock ที่นำหนังของกระเป๋ารุ่นดังมาทำรองเท้ารุ่น Birkinstocks และขายในราคาคู่ละประมาณ 1-2 ล้านบาท
ภาพ: Edward Berthelot / Getty Images
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: