วันนี้ (20 กุมภาพันธ์) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์, ณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรค, ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ยกทีม ส.ส. พรรคก้าวไกล แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลทั้ง 10 คนในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติไว้วางใจให้รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินต่อ
พิธากล่าวว่า วันนี้เป็นวันสรุปผลอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในปีนี้ อย่างที่ตนเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนไปแล้วว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจคือการที่เราในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งได้รับมอบอำนาจอธิปไตยจากพี่น้องประชาชนในการตรวจสอบรัฐบาลควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินให้ปราศจากการทุจริต ปราศจากการเอื้อพวกพ้อง ปราศจากการนำเอาหลักนิติรัฐ นิติธรรมของประเทศไปแลกกับการช่วยเหลือแค่บุคคลบางกลุ่ม
พิธากล่าวต่อไปว่า ผลที่ออกมาเรายืนยันว่าได้ตั้งใจอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลตลอด 4 วันที่ผ่านมาอย่างสุดความสามารถ การอภิปรายของ ส.ส. พรรคร่วมฝ่ายค้านและพรรคก้าวไกลทำให้เห็นว่าเราได้กรีดแผลลงไปในสภาสำเร็จแล้ว แผลนั้นได้สะท้อนให้เห็นความจริงที่เกิดขึ้นในสังคม ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านการศึกษา ปัญหาด้านแรงงาน โดยหลังจากนี้จะเป็นยุทธการโรยเกลือ เพื่อย้ำในแผลที่เราได้กรีดไว้แล้วในสภาจากการบริหาราชการแผ่นดินที่ล้มเหลวของรัฐบาลและละเมิดหลักนิติรัฐ นิติธรรม ของรัฐมนตรี โดยจะมีกระบวนการทำงานต่อเนื่องในการดำเนินคดีต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือต่อศาลในการควบคุมการบริหาราชการแผ่นดินให้เป็นไปตามความต้องการของประชาชน
ขณะที่ชัยธวัชกล่าวถึงกรณีที่มี ส.ส. พรรคก้าวไกลจำนวนหนึ่งโหวตสวนมติพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า กำลังตรวจสอบรายชื่อ ยืนยันกับพี่น้องประชาชนที่สนับสนุนพรรคก้าวไกลว่าจะไม่นิ่งนอนใจในกรณีที่มี ส.ส. พรรคก้าวไกลไปโหวตไว้วางใจรัฐมนตรี ในเวลานี้เราไม่อยากเตะหมูเข้าปากหมา การไล่ ส.ส. ออกตอนนี้เป็นการเข้าทางต่อกระบวนการของผู้มีอำนาจ เราจะลงโทษโดยการไม่ให้เข้าร่วมกิจกรรมของพรรค และสิทธิพิเศษอำนาจหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร เราขอโทษต่อพี่น้องประชาชนที่เลือก ส.ส. เหล่านั้นมา โดยจะเป็นบทเรียนในการคัดสรรรผู้สมัครเพื่อให้ได้บุคลากรที่มีความเหมาะสมในการทำงานการเมืองด้านประชาธิปไตย หลังจากนี้พรรคก้าวไกลจะเดินหน้าทำงานปักธงทางความคิดเปิดรับผู้สมัครที่สนใจทำงานการเมืองกับเรา เพื่อสานต่ออุดมการณ์ทางประชาธิปไตยเข้ามาเป็นผู้แทนของประชาชน
“สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า ยังมีเรื่องของอำนาจ ผลประโยชน์ นี่เป็นสภาพแวดล้อมที่เป็นการเมืองแบบเก่า แต่ที่เราทำตั้งแต่เป็นสมัยพรรคอนาคตใหม่ ก็คือการเข้ามาเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลง” ชัยธวัชกล่าว
ทั้งนี้พิธากล่าวทิ้งท้ายถึงกรณีที่มี ส.ส. พรรคจำนวนหนึ่งโหวตสวนมติพรรคร่วมฝ่ายค้าน ลงคะแนนไว้วางใจให้รัฐบาลว่า ตนผิดหวังแต่ไม่ผิดคาด พรรคก้าวไกลมีกระบวนการที่มีคณะกรรมการวินัยที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในการทำงาน หลังจากนี้จะเปิดรับสมัครผู้ที่สนใจมาทำงานการเมืองร่วมกันเพื่อเตรียมเสริมทัพ เสริมทีมที่จะทำงานต่อไป สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่พรรคแบบเราที่ทำงานด้วยอุดมการณ์ทางการเมืองต้องเจอ และขอบคุณสำหรับสมาชิกของพรรคที่ทำงานโดยไม่หวังผลตอบแทน ที่ทำให้เราได้เป็นเหมือนกลไกที่ขับเคลื่อนประชาธิปไตย ขอบคุณที่คะแนนเสียงที่สนับสนุนพรรคก้าวไกลตั้งแต่อดีตพรรคอนาคตใหม่ เพื่อที่จะทำงานขับเคลื่อนปักธงทางความคิดต่อไป
ขณะที่ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการประชุมเพื่อลงมติในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล
จุรินทร์ในฐานะหัวหน้าพรรคกล่าวถึงกรณีมี ส.ส. ของพรรคบางคนใช้สิทธิ์งดออกเสียงว่า เท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้นมี 3 คน และให้เลขาธิการพรรครับไปดำเนินการ
เมื่อสื่อมวลชนสอบถามว่า การลงมติลักษณะนี้ถือเป็นการขัดมติพรรคร่วมหรือไม่ และจะมีผลกระทบกับพรรคอย่างไร จุรินทร์กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่สามารถตอบได้ว่าจะกระทบอะไรมากน้อยแค่ไหนอย่างไร แต่สำหรับเรื่องในพรรค ก็ได้ให้เลขาธิการพรรครับไปในการดำเนินการ
“ในพรรคเราก็พูดกันเสมอว่าถ้ามีอะไรก็พูดกันภายใน ไม่จำเป็นก็ไม่เอามาพูดข้างนอก แต่ว่าเรื่องนี้มันก็เป็นเรื่องที่พรรคจะต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งก็คุยกับเลขาธิการพรรคแล้ว ท่านก็คงไปดำเนินการทั้งหมดว่าจะไปทำอะไรอย่างไร แต่ก็ขอให้เป็นเรื่องภายใน” จุรินทร์ กล่าว
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า