การแข่งขันร้านค้าปลีกในประเทศไทยน่าจะสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะร้านค้าปลีกขนาดย่อม การสร้าง Point of Sale ที่แตกต่างและเข้าถึงได้ง่าย รวมถึงความหลากหลายของสินค้าที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในพื้นที่นั้น เป็นสูตรผสมที่สำคัญอย่างมาก
เสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานกรรมการบริษัท ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด หรือ CJ กล่าวว่า เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับ CJ การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จึงเป็นจิ๊กซอว์สำคัญ โดยขณะนี้ CJ อยู่ระหว่างปรับโครงสร้างภายในองค์กรและยกระดับมาตรฐานภายในให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ และคาดว่าในไตรมาส 2 ปีนี้ จะแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ และในไตรมาส 2/65 คาดว่าจะสามารถยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้
ทั้งนี้ เสถียรและกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของ บมจ.คาราบาวกรุ๊ป หรือ CBG ได้เข้าร่วมลงทุนใน CJ เมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว ในสัดส่วนรวมประมาณ 90% อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมจะลดสัดส่วนเป็นเท่าไร ขึ้นอยู่กับการจัดโครงสร้างภายในอีกครั้ง
วัตถุประสงค์การระดมทุนหลักคือการขยายสาขา และพัฒนาเทคโนโลยีด้านการบริหารจัดการภายใน เนื่องจากเป็นปัจจัยสำคัญในการบริหารจัดการให้ CJ สามารถแข่งขันกับธุรกิจค้าปลีกอื่นๆ ได้
“หัวใจสำคัญหลักของร้านค้าปลีกก็คือการบริหาร Supply Chain หากไม่สามารถบริการจัดการได้ ก็จะเหมือนยาขมหม้อใหม่ ส่วนคู่แข่งที่เทียบเคียงกันได้คือ Lotus Express และ Mini Big C”
เสถียรกล่าวว่า ใน 3 ปี CJ จะขยายสาขาเพิ่มอีก 1,000 สาขา เน้นรุกในพื้นที่ภาคกลาง เหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ จากปัจจุบันมีสาขาอยู่ราว 500 กว่าสาขา กระจายอยู่ใน 30 จังหวัดทั่วประเทศ
ขณะเดียวกัน แผน 3 ปี CJ ตั้งเป้าหมายยอดขายแตะ 5 หมื่นล้านบาท ขณะที่ปี 2563 มียอดขาย 1.7 หมื่นล้านบาท มีกำไรสุทธิราว 1 พันล้านบาท ส่วนปี 2654 ตั้งเป้าหมายยอดขายที่ 2 หมื่นล้านบาท
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล