วานนี้ (7 กุมภาพันธ์) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ระลอกใหม่ ภาพรวมจังหวัดต่างๆ สามารถควบคุมการระบาดได้ดี ยังมีรายงานการติดเชื้อที่จังหวัดสมุทรสาคร ตาก และกรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยสมุทรสาครยังพบผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง แต่มีแนวโน้มลดลงหลังดำเนินการควบคุมตามแผน ขณะนี้ได้ใช้มาตรการ Bubble and Sealed ให้แรงงานทำงานอยู่ในโรงงานและภายในที่พัก ไม่ให้ปะปนแพร่กระจายเชื้อไปในชุมชน หากเจ็บป่วยนำออกไปรักษา และยังคัดกรองในโรงงานขนาดเล็กหรือในชุมชนบางแห่งเพื่อค้นหาผู้ป่วย ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมและดำเนินการตามแผนอย่างต่อเนื่อง
นพ.โอภาส กล่าวต่อไปว่า ส่วนที่จังหวัดตากยังพบการติดเชื้อในชุมชน แสดงว่ายังมีการพบปะระหว่างคนไทยและเมียนมาทั้ง 2 ฝั่ง กรณีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ชาวเมียนมา อายุ 75 ปี ที่พักอาศัยในอำเภอแม่สอด พบติดเชื้อใน 4 ครอบครัว รวม 11 ราย ทำให้มีการกระจายไปในชุมชน จำเป็นต้องยกระดับการควบคุมพื้นที่ให้เข้มข้นมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การเดินทางข้ามไป-มาของชาวเมียนมาและพบปะกันอยู่ ทำให้การควบคุมยากขึ้นและพบผู้ป่วยเป็นกลุ่มๆ เป็นระยะ
ขณะที่ กทม. ยังพบแรงงานต่างด้าวทำงานบ้านติดเชื้อแบบไม่มีอาการ และแพร่เชื้อไปยังนายจ้าง ต้องกำชับหลีกเลี่ยงการพบปะกับเพื่อนโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย ลดการเดินทาง และงดการรับประทานอาหารร่วมกันเป็นวงใหญ่ เพราะอาจแพร่เชื้อให้คนที่บ้านและที่ทำงาน
นพ.โอภาส กล่าวต่อไปอีกว่า ส่วนกรณีพาสปอร์ตวัคซีน ซึ่งตามกฎอนามัยระหว่างประเทศใช้เป็นหลักฐานให้เกิดความมั่นใจว่าผู้เดินทางจะไม่นำเอาเชื้อโรคเข้าสู่ประเทศ เช่น โรคไข้เหลือง ที่พบมากในอเมริกาใต้และแอฟริกา ถ้าจะเข้าประเทศไทยต้องฉีดวัคซีนและมีหนังสือรับรองคือสมุดปกเหลือง ตามกติกาสากลขององค์การอนามัยโลก (WHO) ส่วนโรคโควิด-19 การป้องกันเชื้อจากต่างประเทศคือการกักตัว 14 วัน การจะใช้มาตรการพาสปอร์ตวัคซีนแทนการกักตัวต้องมั่นใจว่าวัคซีนป้องกันการติดเชื้อได้ 100% มีข้อมูลว่าฉีดแล้วอยู่ได้นานแค่ไหน แต่ปัจจุบันวัคซีนป้องกันโควิด-19 ยังวิจัยไม่เสร็จ เป็นการใช้ในภาวะฉุกเฉิน
“WHO แนะนำว่ายังไม่ควรกำหนดให้ใช้เอกสารรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 หรือพาสปอร์ตวัคซีน มาเป็นเงื่อนไขในการอนุญาตเข้าประเทศ เนื่องจากยังขาดข้อมูลหลักฐานเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโควิด-19 ว่าฉีดแล้วจะไม่แพร่โรค ฉีดแล้วจะอยู่นานแค่ไหน หรือต้องฉีดซ้ำอีกกี่เข็ม เป็นต้น แต่ในอนาคตถ้ามีประสิทธิภาพเพียงพอ อาจมีความเป็นไปได้ที่จะนำพาสปอร์ตวัคซีนมาเป็นข้อกำหนด แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป” นพ.โอภาส กล่าวในที่สุด
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล