CNBC เปิดเผยว่า ตลอดปี 2020 ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ ได้ใช้จ่ายเงินมากกว่าหลายล้านดอลลาร์ในการล็อบบี้สภาคองเกรสในหลากหลายกรณีปัญหา ตั้งแต่ปมการเลือกตั้ง ไปจนถึงปมขัดแย้งการลี้ภัยเข้าประเทศ
โดยเฉพาะกลุ่ม Big 5 ประกอบด้วย Amazon, Apple, Facebook, Google และ Microsoft ซึ่งใช้จ่ายเงินล็อบบี้ในปีที่ผ่านมาราว 61.09 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1,832 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้ว 1.8%
เมื่อจำแนกรายบริษัท Facebook คือบริษัทที่มีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้สูงที่สุดในบรรดากลุ่มบริษัทเทคโนโลยีที่ 19.68 ล้านดอลลาร์ หรือราว 590 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 17.8% ซึ่งในไตรมาส 4 ที่ผ่านมา ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ถูกใช้ไปกับประเด็นการปฏิรูปลิขสิทธิ์ การเลือกตั้ง นโยบายด้านคอนเทนต์ นโยบายด้านการลี้ภัย และการจัดเก็บภาษีระหว่างประเทศ
อันดับสองตกเป็นของ Amazon ที่มีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้มากถึง 17.86 ล้านดอลลาร์ หรือราว 535 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2019 ที่ 10.7% โดยในช่วงไตรมาส 4/63 พวกเขาได้ล็อบบี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเด็นการปฏิรูปไปรษณีย์ ทรัพย์สินทางปัญญา และเฮลท์แคร์ เป็นต้น
ขณะที่ Google มีค่าใช้จ่ายในการล็อบบี้ที่ 7.53 ล้านดอลลาร์ หรือราว 225 ล้านบาท ลดลงจากปี 2019 ที่ราว 36.2% โดยประเด็นของการล็อบบี้ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับกฎการโฆษณาบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ความเป็นส่วนตัวของนักเรียนบนช่องทางดิจิทัล การใช้งานระบบ Contact Tracing ในช่วงที่เกิดโรคระบาด ตลอดจนกฎหมายด้านการแข่งขัน
ส่วนบริษัทที่ตกเป็นเป้าโจมตีของรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดก่อนหน้านี้โดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ อย่าง ByteDance (TikTok) มีค่าใช้จ่ายในการล็อบบี้สูงราว 2.58 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 77.3 ล้านบาท แม้จะไม่ได้เป็นจำนวนที่มากเทียบเท่าบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ แต่ก็พบว่าเพิ่มสูงขึ้นถึง 855.6% เมื่อเทียบกับปี 2019 ที่พวกเขามีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ทั้งสิ้นแค่ 3 แสนดอลลาร์เท่านั้น
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง: