สถานการณ์การขับเคี่ยวในพื้นที่ต่างๆ ของการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกทวีความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อ ‘ระยะห่าง’ ระหว่างทีมนั้นมีไม่มาก และผลการแข่งขันที่เป็นใจหรือไม่เป็นใจเพียงแค่ไม่เกิน 3 นัดสามารถพลิกชะตาชีวิตได้ทันที
ยกตัวอย่างเช่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ไล่ตามลิเวอร์พูลขึ้นมาเป็นรองจ่าฝูง โดยต่างกันเพียงแค่ประตูได้เสีย หรืออาร์เซนอลที่เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนยังถูก แซม อัลลาร์ไดซ์ ปรามาศว่าเป็นทีมลุ้นหนีตกชั้นคือกัน แต่หลังชนะรวด 3 นัดตอนนี้กลับมามีลุ้นทำอันดับไปรายการสโมสรฟุตบอลยุโรปอีกครั้ง
อย่างไรก็ดี ระยะห่างระหว่างทีมนั้นเป็นคนละเรื่องกับการรักษาระยะห่างระหว่างคนของนักฟุตบอล และดูเหมือน ‘ภาพหลุด’ 2 ใบที่ถูกเปิดเผยบนโลกอินเทอร์เน็ตจะสร้างความขุ่นเคืองใจให้แก่ชาวอังกฤษไม่ใช่น้อย ไม่ว่าจะเป็นแฟนฟุตบอลหรือไม่ก็ตาม
กรณีแรกเป็นภาพของนักฟุตบอล 4 รายอันประกอบไปด้วย เอริก ลาเมลา ในฐานะเจ้าภาพ, เซร์คิโอ เรกีลอน และ โจวานนี โล เชลโซ จากทีมท็อตแนม ฮอตสเปอร์ กับมานูเอล ลานซินี กองกลางจากทีมเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่ถ่ายภาพร่วมกันกับสมาชิกครอบครัวและเพื่อนๆ ของทั้งสองฝ่าย
นับจำนวนคนในภาพดังกล่าวได้ 15 คน โดยแต่ละคนไม่ได้มีการสวมหน้ากากป้องกัน ไม่มีการรักษาระยะห่าง และที่สำคัญที่สุดคือเป็นการจัดปาร์ตี้ ซึ่งเป็นรวมตัวกันของคนจำนวนมากที่ขัดต่อกฎข้อบังคับของการรักษาระยะห่าง ทั้งๆ ที่สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในลอนดอนรุนแรงถึงขั้นถูกจัดให้อยู่ในระดับ Tier 4 และมีจำนวนผู้ติดเชื้อภายในประเทศมากเกินกว่าวันละ 50,000 ราย
เมื่อภาพดังกล่าวหลุดขึ้นมาทางด้าน โชเซ มูรินโญ ในฐานะนายใหญ่ของทีมสเปอร์ส ได้มีการตำหนิต่อการฝ่าฝืนข้อบังคับ และมีการฟาดไม้เรียวเบาๆ ด้วยการตัดชื่อลาเมลา ปีกดีกรีทีมชาติอาร์เจนตินา ออกจากทีมในเกมนัดล่าสุดที่พวกเขาเอาชนะลีดส์ ยูไนเต็ดได้ 3-0 ขณะที่เรกีลอน มีชื่อเป็นเพียงตัวสำรองโดยไม่ได้ลงสนาม ส่วนโล เซลโซ ยังลงสนามไม่ได้เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่
“ผมอยากจะบอกว่าผมผิดหวังมากกว่า” มูรินโญ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่อยากรู้ว่าเขาโกรธเคืองหรือไม่ “เรารู้กันดีว่าเราคุยอะไรกันเป็นการภายใน ซึ่งเราคงจะไม่มาบอกคุณว่ามันเกิดอะไรขึ้นภายใน ผลกระทบอะไรที่ตามมา และเรามีวิธีการรับมือกับความน่าประหลาดใจในเชิงลบครั้งนี้อย่างไร
“ทุกสโมสรพยายามอย่างดีที่สุดแล้วในการจะทำให้นักฟุตบอลทุกคนปลอดภัย แต่มันก็มีช่วงเวลาส่วนตัวในชีวิตที่เราไม่สามารถควบคุมได้”
ขณะที่ทางด้านโฆษกของทีมสเปอร์สกล่าวว่า สโมสรผิดหวังต่อการกระทำของนักฟุตบอลของทีมที่ฝ่าฝืนกฎ ซึ่งมีการระบุเอาไว้อย่างชัดเจนและไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งทุกคน ‘มีความรับผิดชอบ’ ที่จะต้องปฏิบัติตามให้ดี
ลาเมลา ในฐานะเจ้าภาพของงานถูกลงโทษรุนแรงที่สุดด้วยการตัดชื่อออกจากทีมเป็นเกมที่สองติดต่อกันในศึกฟุตบอลลีกคัพ รอบรองชนะเลิศที่จะพบกับเบรนต์ฟอร์ด ในคืนวันอังคารนี้
‘เขาไม่มีชื่อ’ The Special One ตัดบทนักข่าวที่สอบถามถึงปีกชาวอาร์เจนไตน์ และเมื่อถูกสอบถามเพิ่มเติมก็ตอบอย่างมีอารมณ์ว่า “มันไม่ใช่เรื่องที่ผมจะบอกคุณ”
ด้านเวสต์แฮม ยูไนเต็ดเองก็มีการจัดการกับกรณีของลานซินี เป็นการภายในเช่นกัน และ ‘ย้ำถึงความรับผิดชอบ’ ที่พึงมีของทุกคนเช่นกัน
อย่างไรก็ดี นักเตะที่ถูกขนานนามในเวลานี้ว่า Covidiot (มาจากคำว่า Covid + Idiot) ไม่ได้มีแค่นี้ เพราะยังมี เบนจามิน เมนดี แบ็กซ้ายของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ถูกเผยภาพว่าเป็นเจ้าภาพในการจัดงานปาร์ตี้ที่บ้านด้วยเช่นกัน
เบนจามิน เมนดี เป็นอีกคนที่ฝ่าฝืนกฎจัดงานปาร์ตี้ปีใหม่โดยไม่รักษาระยะห่าง
โดยตามรายงานข่าวที่ปรากฏในสื่อ ทางด้านแบ็กซ้ายทีมชาติฝรั่งเศสวัย 26 ปีได้เชิญเชฟ และเพื่อนสนิทของแฟนสาว 2 คนมาร่วมงานปีใหม่ที่บ้าน และแน่นอนว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎ
ในเกมนัดล่าสุดที่พบกับเชลซี เขาจึงถูกดรอปเป็นตัวสำรองไปก่อน เพียงแต่ทางด้าน เป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดการทีมชาวสเปนให้มุมมองอีกด้านว่า อย่าเพิ่งด่วนตัดสินลูกทีมของเขาแรงเกินไป
หนึ่ง คือนักฟุตบอลของแมนฯ ซิตี้ทุกคนนั้นได้รับการตรวจหาเชื้อทุกวันอยู่แล้ว และผลการตรวจของเมนดีออกมาเป็นลบเสมอ
สอง คือเป๊ปเชื่อว่ามีคนอีกจำนวนมากที่จัดงานฉลองในคืนปีใหม่เช่นกัน
และสาม เขาเชื่อว่านักฟุตบอลของเขาเองรับผิดชอบต่อสังคมเฉกเช่นเดียวกับทุกคนในอังกฤษหรือในโลก ที่รักษากฎระยะห่างทางสังคม
แต่สิ่งที่น่าสนใจคือแมนฯ ซิตี้ เป็นหนึ่งในทีมที่ประสบปัญหาเรื่องนักฟุตบอลติดโควิด-19 โดยอย่างน้อยมีกรณีของ กาเบรียล เชซุส และ ไคล์ วอล์กเกอร์ ที่ติดเชื้อและต้องเข้ารับการกักตัว ซึ่งทำให้สโมสรยื่นคำร้องขอเลื่อนเกมกับเอฟเวอร์ตัน เมื่อวันที่ 28 ธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากนั้นยังมีผู้เล่นอีก 3 คนที่ไม่มีชื่อในเกมดังกล่าวด้วย รวมถึง เอริค การ์เซีย กองหลังดาวรุ่ง และสตาฟฟ์อีก 1 คนที่ติดเชื้อและต้องกักตัวด้วยเช่นกัน
การออกมาปกป้องเมนดีของเป๊ป จึงเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจอยู่เหมือนกัน
เพื่อไม่ให้เกิดการแหกกฎของนักฟุตบอล ซึ่งควรจะเป็น ‘ตัวอย่างที่ดีของสังคม’ แต่กลับมีกรณีการแหกกฎให้เห็นมาตั้งแต่ช่วงล็อกดาวน์ ทำให้เวลานี้ได้เริ่มมีการเรียกร้องให้สมาคมฟุตบอลพิจารณาถึงบทลงโทษขั้นรุนแรง เช่น การลงโทษแบน 3 นัดทันทีหากฝ่าฝืนกฎการรักษาระยะห่าง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกัน หรืออย่างน้อยบรรเทาการระบาดของโควิด-19
แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ทำใจยอมรับได้ง่าย โดยเฉพาะกับนักฟุตบอลที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากต่างแดน มีวัฒนธรรมคนละอย่าง ความคิดคนละแบบ มาตรฐานของคำว่าความรับผิดชอบต่อสังคมนั้นย่อมไม่เท่าเทียมกันอยู่แล้ว
แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่จะนำมาใช้เป็นข้ออ้างได้
เพราะโควิด-19 ไม่ว่าจะยากดีมีจนมันไม่เลือก การเผลอไผลเพียงนิดเดียวก็อาจนำไปสู่การระบาดครั้งใหญ่ ที่สุดท้ายแล้วทุกคนในสังคมต้องเจ็บและยอมรับมันอย่างเลือกไม่ได้
ทุกคน – รวมถึงนักฟุตบอล หรือแม้แต่คนหาเช้ากินค่ำ – จึงต้องทำตามกฎของโลกในยุคโรคระบาด
ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อทุกคน รวมถึงคนที่คุณรักด้วย
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- www.telegraph.co.uk/football/2021/01/03/covidiot-footballers-deserve-three-match-bans/
- www.theguardian.com/football/2021/jan/03/manchester-city-to-hold-investigation-after-benjamin-mendy-hosts-nye-party-covid-rules
- www.theguardian.com/football/2021/jan/02/tottenham-condemn-three-players-for-christmas-party-covid-rules-breach
- ในช่วงล็อกดาวน์เคยมีกรณีอื้อฉาวของนักฟุตบอลที่แหกกฎหลายราย รวมถึง แจ็ค กรีลิช เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งของแอสตัน วิลลา ที่ถูกจับได้ว่าไปปาร์ตี้บ้านเพื่อน และขากลับดันขับรถชน
- นักฟุตบอลที่แหกกฎบ่อยที่สุดคือ ไคล์ วอล์กเกอร์ ที่เคยจัดปาร์ตี้ (มีสาวบริการมาจอยด้วย…) และเคยไปเยี่ยมครอบครัวอีก 2 ครั้ง
- ในช่วงปีใหม่ยังมี ลูกา มิลิโวเยวิช กัปตันทีมคริสตัล พาเลซ ที่จัดงานปาร์ตี้กับ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช เพื่อนร่วมทีมชาติเซอร์เบีย