จีนปฏิเสธข้อเสนอล่าสุดจากไต้หวันที่แสดงความพร้อมเจรจาเพื่อสมานฉันท์กับจีน โดยปักกิ่งระบุว่ารัฐบาลไต้หวันใช้อุบายตื้นๆ และพยายามยั่วยุปลุกปั่นด้วยการหาทางเผชิญหน้ากับจีนทุกครั้งที่สบโอกาส
ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์เนื่องในโอกาสวันปีใหม่วานนี้ (1 มกราคม) ประธานาธิบดี ไช่อิงเหวิน ระบุว่าไต้หวันพร้อมที่จะเจรจาอย่าง ‘มีความหมาย’ กับจีน ตราบใดที่จีนเต็มใจที่จะยุติการเผชิญหน้า
ทั้งนี้ จีนได้ตัดกลไกการเจรจาอย่างเป็นทางการกับไต้หวันตั้งแต่ปี 2016 หลังจากที่ไช่อิงเหวินได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีไต้หวันสมัยแรก โดยจีนมองว่าไช่เป็นผู้สนับสนุนการแบ่งแยกดินแดน และตั้งใจที่จะประกาศเอกราชอย่างเป็นทางการ
จีนถือว่าไต้หวันเป็นดินแดนของจีน โดยถึงแม้ไต้หวันมีรัฐบาลปกครองตนเองในระบอบประชาธิปไตย แต่ไต้หวันไม่เคยประกาศเอกราชอย่างเป็นทางการจากจีนแผ่นดินใหญ่
หลังจากที่ไช่ยื่นข้อเสนอเจรจาดังกล่าว สำนักงานกิจการไต้หวันของจีนได้ออกแถลงการณ์ในช่วงค่ำวันเดียวกัน ระบุว่าไม่มีทางเปลี่ยนความจริงที่ว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน และการที่รัฐบาลไต้หวันปฏิเสธไม่ยอมรับความจริงนั้นคือต้นเหตุของความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างสองฝ่าย
แถลงการณ์ระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2016 พรรคหมินจิ้นตั่ง (DPP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของไต้หวัน กระทำการอันยั่วยุอย่างต่อเนื่อง ด้วยการหาทางแยกตัวเป็นเอกราช เผชิญหน้ากับจีนแผ่นดินใหญ่ทุกครั้งที่สบโอกาส และจงใจสร้างการเผชิญหน้าข้ามช่องแคบไต้หวัน
“เราขอเรียกร้องให้พรรค DPP หยุดใช้อุบายตื้นๆ ที่หลอกลวงประชาชน” สำนักงานกิจการไต้หวันระบุในแถลงการณ์
ทั้งนี้ ไช่ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีไต้หวันสมัยที่ 2 ด้วยชัยชนะถล่มทลายในปีที่แล้ว จากการที่เธอให้คำมั่นว่าจะยืนหยัดต่อต้านจีน พร้อมปกป้องประชาธิปไตยและความมั่นคงของไต้หวัน โดยเธอกล่าวซ้ำในหลายโอกาสว่า ไต้หวันเป็นประเทศเอกราชแล้ว โดยมีชื่อทางการว่า สาธารณรัฐจีน
ความตึงเครียดระหว่างไต้หวันกับจีนเพิ่มสูงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา จากการที่จีนยกระดับกิจกรรมทางการทหารใกล้กับเกาะไต้หวัน รวมถึงการนำเครื่องบินรบบินข้ามเส้นมัธยะ (Median Line) หรือเส้นแบ่งเขตบริเวณช่องแคบไต้หวัน ซึ่งทำหน้าที่เป็นแนวกันชนอย่างไม่เป็นทางการ
จีนแสดงความไม่พอใจที่สหรัฐฯ เพิ่มการสนับสนุนไต้หวัน พร้อมประกาศกร้าวว่าจะตอบโต้การสมรู้ร่วมคิดระหว่างสหรัฐฯ กับไต้หวัน โดยรัฐบาลปักกิ่งมองว่าการดำเนินการดังกล่าวถือเป็นการส่งสัญญาณก่อนที่ไต้หวันจะประกาศเป็นเอกราชอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นฟางเส้นสุดท้ายสำหรับจีน
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง: