นับถอยหลังเข้าสู่โค้งสุดท้ายสำหรับผู้มีรายได้ที่ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษี อาจจะต้องเร่งวางแผนการลงทุนในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตามที่รัฐบาลกำหนดให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี สามารถลงทุนได้ภายในไม่เกินวันที่ 30 ธันวาคมนี้ เพื่อเป็นค่าลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปีภาษี 2563
ปีนี้มีการปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในกลุ่มค่าลดหย่อนทางภาษีเพิ่มเติม เช่น กลุ่มค่าลดหย่อนหมวดการลงทุน ได้มีมาตรการส่งเสริมการลงทุนในรูปแบบการออมรูปแบบใหม่ คือ กองทุนรวมเพื่อการออม (Super Savings Fund: SSF) รวมถึงมีการปรับหลักเกณฑ์เงื่อนไขค่าลดหย่อนของกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund: RMF) และค่าลดหย่อนในกลุ่มประกันชีวิตและประกันสุขภาพ
นอกจากนี้ รัฐบาลได้มีการออกมาตรการเพื่อให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านโครงการ ‘ช้อปดีมีคืน’ โดยสามารถนำค่าสินค้าและค่าบริการภายในประเทศมาใช้สิทธิค่าลดหย่อนภาษีเงินได้ตามที่จ่ายจริงสูงสุด 30,000 บาท สำหรับปีภาษี 2563 นี้อีกด้วย
เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีภาษี 2563 ที่จะยื่นเสียภาษีในช่วงเดือนมีนาคมปี 2564 บทความนี้ได้สรุปหลักเกณฑ์และเงื่อนไขค่าลดหย่อน เพื่อให้ได้พิจารณาวางแผนการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีสำหรับปีภาษี 2563 กัน โดยแบ่งตามหมวดสิทธิค่าลดหย่อน ดังนี้
จากที่ได้กล่าวมาข้างต้น บทความนี้เป็นเพียงแนวทาง เพื่ออัปเดตสิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี 2563 โดยสรุปเฉพาะประเด็นที่น่าสนใจ เพื่อให้ผู้อ่านได้นำไปใช้เป็นแนวทางพิจารณาประกอบการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของตนเอง ทั้งนี้ ผู้อ่านควรศึกษาและทำความเข้าใจในหลักเกณฑ์และเงื่อนไขต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้สามารถใช้สิทธิลดหย่อนและยื่นภาษีฯ ได้อย่างถูกต้องครบถ้วน
ข้อมูลรายการสิทธิประโยชน์ทางภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและรายการลดหย่อนภาษีประจำปี 2563
จัดทำและเรียบเรียง ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2563
ภาพประกอบ: ฉัตรชัย เฉยชิต
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล