วันนี้ (10 ธันวาคม) พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวที่สำนักงานตำรวจนครบาลถึงมาตรการรับมือการชุมนุมว่า เนื่องจากในวันนี้มีการชุมนุมแบ่งเป็น 3 จุดคือ กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย ขออนุญาตชุมนุมหน้าสำนักงานองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย, กองทุนพัฒนาอาชีพคนพิการ ขออนุญาตชุมนุมหน้ากระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ขออนุญาตชุมนุมบริเวณอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา โดยมีเงื่อนไขให้ผู้จัดการชุมนุมควบคุมผู้ชุมนุมให้อยู่บนทางเท้าและรั้วกั้นที่เจ้าหน้าที่กำหนดไว้ ห้ามใช้ป้ายข้อความดูหมิ่น ยุยงให้เกิดความวุ่นวาย และห้ามเคลื่อนย้ายกลุ่มผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ที่ขออนุญาตไว้ รวมถึงห้ามเข้าใกล้พื้นที่สำคัญอย่างทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภาเกิน 50 เมตร ที่สำคัญคือการชุมนุมต้องเป็นไปโดยสงบ ปราศจากอาวุธ
พ.ต.อ. กฤษณะ ระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่ในการวางอุปกรณ์เพื่อควบคุมการชุมนุมและป้องกันเหตุตามจุดต่างๆ ที่มีความจำเป็นตามยุทธวิธี เช่น รั้วลวดหนาม และตู้คอนเทนเนอร์ และจะมีการพิจารณาปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ แต่หากผู้ที่เข้าไปรื้อไม่ใช่เจ้าหน้าที่อาจต้องมีการรวบรวมหลักฐานดำเนินการต่อไป ยืนยันว่าการปฏิบัติหน้าที่ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย
ส่วนกรณีที่เมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดเหตุปาระเบิดในบริเวณอนุสรณ์สถาน 14 ตุลานั้น พล.ต.ต. ปิยะ เปิดเผยว่าเรื่องนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการตรวจสอบของสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม และเจ้าหน้าที่ EOD ได้เข้าตรวจสอบวัตถุระเบิดว่าใช้ไปป์บอมบ์ตามที่มีการกล่าวอ้างก่อนหน้านี้หรือไม่ ซึ่งยังไม่มีการยืนยัน จากนี้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุมและประชาชน
ทั้งนี้ สำหรับมาตรการรับมือการขุมนุมทั้ง 3 จุด เจ้าหน้าที่ได้ปิดเส้นทางสัญจรบริเวณถนนลูกหลวง ตั้งแต่แยกเทเวศร์-แยกเทวกรรม, ถนนสามเสน ตั้งแต่แยกเทเวศร์-แยกสี่เสาเทเวศร์, ถนนนครราชสีมา ตั้งแต่แยกประชาเกษม-แยกวังแดง, ถนนราชดำเนิน ตั้งแต่แยกมัฆวานรังสรรค์-แยกสวนมิสกวัน, ถนนพิษณุโลก ตั้งแต่แยกมิสกวัน-แยกพาณิชยการ และถนนนครปฐมตลอดสาย
เพื่อความสะดวกของประชาชน จึงขอให้การหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีการปิดจราจร ได้แก่ ถนนกรุงเกษม, ถนนนครสวรรค์, ถนนหลานหลวง, ถนนจักรพรรดิพงษ์, ถนนวิสุทธิ์กษัตริย์, ถนนราชดำเนินนอก, ถนนศรีอยุธยา, ถนนราชวิถี, ถนนสุโขทัย, ถนนพระราม 5, สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า, สะพานพระราม 8, สะพานกรุงธน หรือสะพานซังฮี้
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์