หลังการตัดใจอำลา ‘เมลวูด’ สนามซ้อมในตำนานที่อยู่คู่ทีม ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล มาอย่างยาวนานกว่า 70 ปี ทีมแชมป์พรีเมียร์ลีกก็ได้ฤกษ์ในการขึ้นบ้านใหม่กับศูนย์ฝึกสุดทันสมัยที่ย่านเคิร์กบีไปแล้วเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
และดูเหมือนว่าศูนย์ฝึกแห่งใหม่นี้จะทำให้หลายคนแอบลืมบ้านหลังเก่าที่เคยผูกพันกันมาหลายรุ่นนักฟุตบอลเลยทีเดียว
ศูนย์ฝึกใหม่ในนาม AXA Training Centre ซึ่งตั้งตามชื่อสปอนเซอร์รายใหญ่ของสโมสรที่ให้การสนับสนุนชุดแข่งของทีมอยู่เดิม และตัดสินใจเพิ่มแพ็กเกจใหม่ให้ครอบคลุมถึงศูนย์ฝึกที่ใช้งบประมาณในการก่อสร้างสูงถึง 50 ล้านปอนด์ด้วย
แนวคิดหลักของศูนย์ฝึกแห่งนี้คือการ ‘รวมศูนย์’ ของทีมลิเวอร์พูลเอาไว้ในที่เดียวกัน เพื่อให้อคาเดมีและทีมชุดใหญ่ได้อยู่ในพื้นที่เดียวกัน แต่จะมีเส้นบางๆ คั่นกลางเอาไว้ด้วยการแบ่งพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นทางเข้าศูนย์ฝึกคนละจุด, ห้องรับประทานอาหารคนละที่, ยิม, ห้องแต่งตัว รวมถึงสนามซ้อม
คนที่เสนอหลักคิดนี้คือ เจอร์เกน คล็อปป์ ผู้จัดการทีมคนปัจจุบัน ที่ต้องการให้ผู้เล่นเยาวชนได้เกิดความรู้สึกที่อยากจะก้าวผ่านเส้นบางๆ นั้น และเปลี่ยนสถานะจากผู้เล่นในอคาเดมีเพื่อเป็นผู้เล่นในทีมชุดใหญ่
เป็นการจุดไฟใส่ความฝันของทุกคนอย่างตั้งใจ
แล้วศูนย์ฝึกแห่งนี้ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง
บรรยากาศในศูนย์ฝึกแห่งใหม่ที่เปิดใช้อย่างเป็นทางการแล้ว
Photo: @LFC / Twitter
- หัวใจสำคัญของบ้านเล็กหลังใหม่นี้คือ สนามฟุตบอลขนาดเท่ากับสนามแอนฟิลด์จำนวน 3 สนาม สำหรับผู้เล่นทั้งทีมชุดใหญ่และอคาเดมี
- สนามฝึกซ้อมสำหรับผู้รักษาประตูโดยเฉพาะ
- สนามฟุตบอลชายหาด (สำหรับนักเตะบราซิล?)
- คอร์ตวอลเลย์บอล
- คอร์ตเทนนิส
- คอร์ตปาเดลเทนนิส (กีฬาลูกผสมระหว่างเทนนิส, สควอต และปิงปอง! เป็นกีฬาโปรดของคล็อปป์ที่ชอบตีแข่งกับ เพพไพน์ ลินเดอร์ส มือขวาคนเก่ง)
- ห้องโถงที่มีการจำลองสภาพอากาศความร้อน 40 องศาเซลเซียส, ความชื้น 90 เปอร์เซ็นต์ และระดับออกซิเจนที่ต่ำ เพื่อให้ลูกทีมสามารถฝึกซ้อมในสภาพสุดโหด ซึ่งจะเพิ่มพูนความอึดและถึกของนักเตะลิเวอร์พูล
- สระว่ายน้ำขนาดใหญ่
- สระวารีบำบัด
- ฟิตเนสขนาดใหญ่ที่สามารถมองสนามซ้อมผ่านกระจกบานยักษ์ได้ ซึ่งช่วยสร้างแรงจูงใจให้แก่นักฟุตบอล โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บ
เรียกได้ว่าศูนย์ฝึกแห่งนี้มีทุกสิ่งทุกอย่างที่สโมสรฟุตบอลระดับโลกพึงมี ซึ่งคล็อปป์และฝ่ายบริหารของสโมสรตัดสินใจเด็ดเดี่ยวอย่างยิ่งในการทิ้งความทรงจำที่เมลวูดเอาไว้ข้างหลัง เพื่อจะก้าวไปสู่อนาคตที่ดีกว่าด้วยศูนย์ฝึกที่พร้อมกว่า
เหมือนการตัดสินใจของ บิลล์ แชงคลีย์ ที่ขอให้มีการปรับปรุงเมลวูดครั้งใหญ่หลังเข้ารับตำแหน่งในปี 1959 ซึ่งกลายเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับสโมสร เป็นต้นกำเนิดฟุตบอลในสไตล์ Pass-and-Move ที่นำลิเวอร์พูลไปสู่ความยิ่งใหญ่
อย่างไรก็ดี ศูนย์ฝึกแห่งนี้ยังมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แต่น่ารัก ที่ถูกซ่อนอยู่อีกมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นทางเข้าศูนย์ฝึกที่จะมีการสลักชื่อของนักฟุตบอลระดับตำนานของสโมสรเอาไว้ที่ก้อนอิฐบนทางเดิน ซึ่งมีตั้งแต่ฮีโร่ในยุคอดีตจนถึงปัจจุบันอย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, ห้องทำงานของผู้จัดการทีมที่จะมีภาพของผู้จัดการทีมทุกคนแขวนไว้บนผนัง พร้อมข้อความสร้างแรงบันดาลใจจาก เซอร์เคนนี ดัลกลิช ‘ราชาแห่งแอนฟิลด์’
ทุกมุมของศูนย์ฝึกจะประดับด้วยภาพของนักฟุตบอลระดับตำนานทุกคน ให้เห็นถึงผู้ที่ช่วยก่อร่างสร้างความยิ่งใหญ่ให้แก่ลิเวอร์พูลในทุกยุคสมัย
บริเวณโชว์โทรฟีของสโมสรที่สามารถวางถ้วยแชมป์จำลองทุกรายการที่สโมสรเคยได้ รวมถึงแชมป์ยูโรเปียนคัพ 6 ใบ และแชมป์พรีเมียร์ลีกที่เพิ่งได้มาในฤดูกาลที่แล้ว
ประตูเจมส์ มิลเนอร์ กิมมิกเล็กๆ ของศูนย์ฝึกแห่งใหม่ของลิเวอร์พูลที่เคิร์กบี
Photo: Liverpool FC
และทีเด็ดกับประตูเจมส์ มิลเนอร์ ที่เป็นประตูสำหรับการเข้าห้องพักของนักฟุตบอลทีมชุดใหญ่ ซึ่งเป็นไอเดียสนุกๆ ที่ได้มาจากการเสนอของนักเตะจอมเก๋าของทีม
บันไดลับ The Secret Scouting Stair เอาไว้ให้ว่าที่นักเตะใหม่ย่องเข้ามาในศูนย์ฝึก
Photo: Liverpool FC
รวมถึงบันไดลับที่อยู่ในพื้นที่การทำงานของทีมแมวมอง ที่จะทำให้ว่าที่นักเตะใหม่ของทีมได้แอบเข้ามาในศูนย์ฝึกอย่างลับๆ
สิ่งสุดท้ายที่มีความหมายที่สุดคือ แคปซูลกาลเวลา หรือไทม์แคปซูล ที่มีการบรรจุของมากมายเอาไว้ในนั้น เช่น กรอบแว่นของคล็อปป์, ถุงมือของ อลิสสัน เบ็คเกอร์, หนังสือโปรแกรมของเกมสำคัญๆ, หนังสือรำลึกถึง 96 ชีวิตของแฟนบอลเดอะ ค็อป ที่จากไปในโศกนาฏกรรมที่สนามฮิลส์โบโรห์, รองเท้าฟุตบอล, ผ้าพันคอ, เสื้อชุดแชมป์พรีเมียร์ลีก และอีกมากมาย
แคปซูลความทรงจำที่จะถูกเก็บไว้เพื่อรอวันเปิดในอีก 50 ปีข้างหน้า
Photo: @LFC / Twitter
กล่องนี้จะถูกเก็บเอาไว้เป็นเวลา 50 ปี โดยมีกำหนดจะเปิดออกในปี 2070 เพื่อเป็นการบอกเล่าให้เหล่าคนรุ่นหลังของลิเวอร์พูลได้รับรู้ถึงเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้น
ว่ากาลครั้งหนึ่ง ณ ที่แห่งนี้ คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความยิ่งใหญ่ของสโมสรแห่งเมอร์ซีย์ไซด์ และเรื่องราวเก่าๆ นั้นจะไม่มีวันถูกลบเลือน
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
- https://www.theguardian.com/football/2020/nov/17/liverpool-open-new-training-ground-secret-stairway-and-james-milner-door
- https://www.telegraph.co.uk/football/2020/11/17/secret-scouting-stair-jurgen-klopps-glasses-time-capsule-welcome/
- https://www.liverpoolfc.com/news/training-ground/415776-scrapped-plans-salzburg-small-details-how-the-axa-training-centre-was-designed
- บริษัทที่ออกแบบศูนย์ฝึกแห่งนี้คือ McLaughlin & Harvey โดยเริ่มต้นแผนการมากว่า 4 ปี
- ศูนย์ฝึกแห่งนี้ใช้เวลาก่อสร้าง 722 วัน โดยเดิมมีกำหนดจะย้ายเข้าตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา แต่ล่าช้ากว่ากำหนดเนื่องจากเกิดการระบาดของโควิด-19 ก่อน
- หากขับรถจากเมลวูดมาถึงศูนย์ฝึกใหม่ที่เคิร์กบีจะใช้เวลา 15 นาที
- เพื่อหาแรงบันดาลใจในการสร้างศูนย์ฝึกแห่งนี้ ลิเวอร์พูลศึกษาอคาเดมีชั้นนำของโลกทุกแห่ง และถูกชะตากับลีเฟอริง อคาเดมีของทีมเรดบูล ซัลซ์บวร์ก ซึ่งเป็นสโมสรที่ปั้น ซาดิโอ มาเน, นาบี เกตา และ ทาคุมิ มินามิโนะ 3 นักเตะชุดใหญ่ในปัจจุบัน จึงเลือกใช้เป็นต้นแบบ