ทุกท่านคงเคยได้ยินประโยคนี้มาก่อน ท่านเคยคิดไหมว่าจริงหรือไม่ และหากเป็นจริงแล้ว อะไรเป็นเหตุ และอะไรเป็นผล เล่นหุ้นทำให้รวย หรือต้องรวยถึงจะเล่นหุ้นได้ วันนี้เราจะมาลงลึกถึงเรื่องนี้กันครับ
สาเหตุที่ประโยคนี้มีที่มา ในอดีตมีหลายเรื่องด้วยกัน แต่วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว ซึ่งพอจะสรุปได้ดังนี้
- ในอดีตหลายสิบปีก่อน การเปิดบัญชีกับบริษัทหลักทรัพย์ จำเป็นต้องมีเงินฝากธนาคารนับแสนบาท เพื่อที่จะแสดงให้บริษัทหลักทรัพย์เห็นว่ามีเงินทุนเพียงพอในการลงทุน และคุ้มค่ากับการที่จะมีเจ้าหน้าที่การตลาด (Marketing) มาช่วยซื้อขายหลักทรัพย์ให้ ในปัจจุบัน การเปิดบัญชีไม่ได้เป็นอย่างนั้นอีกแล้ว ด้วยการปรับตัวของสถาบันการเงินเข้าสู่ยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านทางอินเทอร์เน็ตและมือถือ เช่น บริการของเซ็ตเทรด และการเปิดบัญชีหลักทรัพย์ออนไลน์โดยไม่มีวงเงินขั้นต่ำ และใช้เอกสารไม่มาก ทำให้เรื่องเหล่านี้ง่ายดายปานพลิกฝ่ามือ
- ในอดีต นักลงทุนต้องลงทุนซื้อหลักทรัพย์ (หุ้น) โดยตรงเท่านั้น ปัจจุบันมีทางเลือกในการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวม ที่หลายๆ บริษัทจัดการกองทุนรวมอนุญาตให้ลงทุนโดยไม่จำกัดเงินลงทุนขั้นต่ำ
- หลายคนอาจเคยคิดว่าการลงทุนเป็นเรื่องยาก และต้องใช้ความรู้สูง คนจนไม่มีโอกาสที่จะเรียนรู้ แต่จริงๆ แล้ว หากนักลงทุนไม่มีเวลาศึกษา ในวันนี้ก็มีทางเลือกมากมาย ไม่ว่าจะลงทุนผ่านทางกองทุนรวมที่มีผู้จัดการลงทุนบริหารให้ หรือ ETF ซึ่งเป็นกองทุนที่ผลตอบแทนเป็นไปตามดัชนีของตลาดหลักทรัพย์ หรือแม้แต่บริการ Robo Advisor ที่มีหลายๆ ที่ให้บริการ โดยมีเงินลงทุนขั้นต่ำต่อเดือนเพียงไม่กี่พันบาทเท่านั้น
จริงๆ มันกลับกลายเป็นว่า หุ้นควรจะเป็นสิ่งที่ทุกคนมีไว้ติดกระเป๋าของทุกครอบครัวต่างหาก จนแทบจะเป็นปัจจัยที่ห้า เพราะ
- ด้วยภาวะทางเศรษฐกิจในปัจจุบันที่โลกมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจต่ำ รวมไปถึงปัญหาประชากรสูงวัย ทำให้อัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์ตกต่ำลง โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก และอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาล ยิ่งทำให้เราไม่สามารถเอาแต่ฝากเงินอีกแล้ว การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ในระยะยาวจะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า แต่ต้องแลกกับความเสี่ยงในระยะสั้นที่สูงขึ้น
- กำไรจากการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ รวมไปถึงการซื้อขายกองทุนรวม ในปัจจุบันยังได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้อีกด้วย จึงเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ ส่วนเงินปันผลจะเสียภาษีหัก ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 10 แต่อาจจะขอคืนภาษีบางส่วนได้เวลาที่ยื่นภาษีปลายปี
- การลงทุนในตลาดหุ้นมีผลตอบแทนโดยเฉลี่ยสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ จึงเป็นการลงทุนที่ดีในระยะยาว แต่การลงทุนฝากเงินในธนาคารหรือซื้อพันธบัตรในปัจจุบันมักให้ผลตอบแทนต่ำจนบางครั้งต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อเสียอีก ซึ่งจะทำให้มูลค่าของเงินเก็บลดลงในระยะยาว
ถ้าเรามาดูประวัติของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ หลายท่านก็ไม่ได้เริ่มต้นจากชีวิตที่ร่ำรวยมาก เช่น ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะยากจน ด้วยความขยันขันแข็ง จึงทำให้มีโอกาสศึกษาต่อจนจบปริญญาเอก และได้ทำงานในภาคการเงิน และต้องตกงานจากวิกฤติต้มยำกุ้งใน ปี พ.ศ. 2540 ในวัย 42 ปี
จากวันที่ตกงานมายี่สิบกว่าปี วันนี้กลับมามีทรัพย์สินนับหลายพันล้านบาท นั่นเป็นเพราะเอาเงินเก็บที่มีไปลงทุนในหุ้นที่เหมาะสมในช่วงที่มีการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง และเลือกการลงทุนโดยการศึกษาข้อมูลในการลงทุนอย่างจริงจัง และคุณหนุ่ม Money Coach หรือคุณจักรพงษ์ เมษพันธุ์ ที่เริ่มต้นจากติดลบเสียด้วยซ้ำ ทางบ้านติดหนี้สินกว่า 18 ล้านบาทในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง จนมีอิสรภาพทางการเงินในปัจจุบัน นั่นก็เพราะศึกษาและลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท รวมทั้งหุ้นเช่นกัน
ท่านจึงไม่ควรจะรอให้รวยถึงจะลงทุนในหุ้นได้ และควรเริ่มลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่วันนี้ เพื่อที่จะมีโอกาสรวยในอนาคตครับ
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล