หลังจาก นายเดวิน แพทริก เคลลีย์ ลงมือก่อเหตุสะเทือนขวัญใช้อาวุธปืนกราดยิงผู้บริสุทธิ์ภายในโบสถ์เฟิร์สแบพติสต์ ในเมืองซูเธอร์แลนด์ สปริงส์ มลรัฐเท็กซัส เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 26 คน บาดเจ็บอีก 20 คน ในจำนวนนี้ 10 คนยังอยู่ในภาวะวิกฤต นับเป็นเหตุกราดยิงครั้งที่รุนแรงที่สุดของรัฐเท็กซัส
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบประวัติการหลบหนีจากศูนย์จิตเวชในนิวเม็กซิโก เมื่อปี 2012 หลังจากถูกตั้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายภรรยาและลูกเพียงไม่กี่เดือน อีกทั้งยังลักลอบพกอาวุธปืนเข้าฐานทัพอากาศฮอลโลแมน และใช้อาวุธปืนนั้นข่มขู่บรรดาครูฝึกและผู้บังคับบัญชาของเขา
นอกจากนี้ โจ แท็กคิต ผู้ดูแลเขตวิลสัน ยังเผยว่านายเดวินเคยมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่โบสถ์แห่งนี้แล้ว แต่กลับไม่ได้รับการต้อนรับ เนื่องจากบาทหลวงและคนส่วนใหญ่มองว่าเขาเป็นบุคคลอันตรายและมีอารมณ์ร้าย
เจ้าหน้าที่ตำรวจยังสืบทราบอีกว่า นายเดวินมักจะมีปากเสียงกับแม่ยาย ชอบโพสต์ภาพอาวุธปืนลงในเฟซบุ๊ก รวมถึงคำต่อต้านพระเจ้าและแถลงการณ์ต่างๆ ที่สนับสนุนให้คนมีสิทธิ์เข้าถึงปืน โดยก่อนที่จะลงมือก่อเหตุ เขาได้ส่งข้อความข่มขู่แม่ยายด้วยความโกรธ ไม่แน่ว่าเขาอาจคิดว่าแม่ยายกำลังอยู่ในโบสถ์แห่งนั้นด้วยก็ได้
นายเดวินกลับมาที่โบสถ์อีกครั้งในช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ที่ผ่านมาพร้อมอาวุธปืน ก่อนที่จะกราดยิงใส่ผู้บริสุทธิ์ภายในโบสถ์ นับเป็นเหตุกราดยิงอีกครั้งหลังจากเหตุกราดยิงที่เทศกาลดนตรีลาสเวกัสเพียง 5 สัปดาห์เท่านั้น
ท้ายที่สุดเขาถูกพบว่าเสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์ส่วนตัวของเขา โดยมีแผลจากการถูกพลเมืองไล่ตามยิงสกัดที่บริเวณช่องท้องและลำตัวอย่างละนัด รวมถึงมีรอยกระสุนบริเวณขมับ เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าเขาอาจเสียชีวิตจากการปลิดชีพตัวเอง
Photo: AFP
อ้างอิง:
