อีดงอุค กับ 21 ปีในวงการบันเทิง ก่อนจะมาเป็นจิ้งจอกเก้าหางใน Tale of the Nine Tailed

ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนซีรีส์ยุคใหม่หรือยุคบุกเบิก คงต้องมีสักครั้งที่เคยผ่านตาผลงานของ ‘อีดงอุค’ มาบ้าง เพราะตลอด 21 ปีในวงการบันเทิง เขามีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของการแสดงนั้นเป็นการเลือกรับงานที่ค่อนข้างหลากหลาย ผ่านมาแล้วทุกบทบาท ไม่ว่าจะเป็นดราม่า โรแมนติก คอเมดี้ แฟนตาซี ทริลเลอร์ หรือแม้กระทั่งสยองขวัญ นอกจากนี้ก็ยังมีงานพิธีกรที่เป็นงานในช่วงหลังซึ่งเขาทำได้ดีไม่แพ้กัน

อีดงอุค นักแสดงมากความสามารถ วัย 39 ปี เริ่มต้นเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยตำแหน่งชนะเลิศเวทีประกวดนายแบบ V-NESS Model Contest ปี 1999 หลังจากนั้นก็ได้ประเดิมงานชิ้นแรกในปีเดียวกันกับซีรีส์ Best Theater – There’s the World Outside the Road ทางช่อง MBC ซึ่งงานนี้กลายเป็นใบเบิกทางให้อีดงอุคได้ร่วมเป็นหนึ่งในนักแสดงของซีรีส์วัยรุ่นอย่าง School 2 และ School 3 ที่เป็นผลงานแจ้งเกิดของนักแสดงหลายๆ คนในวงการบันเทิง ไม่ว่าจะเป็น คิมแรวอน โจอินซอง ฮาจีวอน ฯลฯ

หลังจากนั้นอีดงอุคก็ยังได้รับโอกาสทางการแสดงมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในปี 2005 ที่โอกาสครั้งสำคัญเดินทางมาถึง เมื่อเขาได้รับบทนำใน My Girl ซีรีส์ที่ประสบความสำเร็จในระดับเอเชีย รวมถึงในประเทศไทยที่ได้รับความนิยมอย่างมากเช่นเดียวกัน

ด้วยพล็อตเรื่องที่ต่อให้สร้างกี่ครั้งก็ยังโดนใจคนดูอยู่เสมอ เมื่อหญิงสาวยากจนปลอมตัวไปอยู่ในบ้านเศรษฐีเพื่อเงิน แล้วสุดท้ายก็ได้แต่งงานกัน รวมไปถึงรายละเอียดอื่นๆ ที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ลงตัวทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นทีมนักแสดงร่วม, โลเคชันสวยๆ อย่างเกาะเชจู, รวมไปถึงเพลงประกอบซีรีส์ที่โด่งดังสุดๆ พร้อมกับที่ในช่วงเวลานั้นกระแสวัฒนธรรมเกาหลีเริ่มส่งออกนอกประเทศมากขึ้น จึงทำให้อีดงอุคขึ้นแท่นเป็นท็อปสตาร์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ตามมาด้วยผลงานอีกนับไม่ถ้วนทั้งภาพยนตร์และซีรีส์ เช่น Arang, Scent of a Woman, The Fugitive of Joseon, Hotel King, Blade Man, Bubble Gum โดยเฉพาะซีรีส์ที่เหมือนเป็นการเกิดใหม่อีกครั้งในวัย 35 ปีอย่าง Goblin ที่อีดงอุครับบทนำเป็นยมทูต ซึ่งเขาเคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาต้องการรับบทยมทูตมากๆ ตั้งแต่ได้อ่านเรื่องย่อก่อนที่ คิมอึนซุก (ผู้เขียนบท Goblin) จะเขียนบทเสร็จ บทยมทูตในซีรีส์เรื่องนี้ท้าทายตัวเขาในการพัฒนางานแสดง ทั้งมิติตัวละคร เส้นเรื่อง ความแฟนตาซี และการที่ยมทูตกับโทแกบีมาอาศัยอยู่ด้วยกัน ประกอบกับความต้องการร่วมงานกับนักเขียนคิมอึนซุก ทำให้อีดงอุคเตรียมตัวเยอะมากเพื่อให้เชื่อว่าเขาจะรับบทนี้ได้ดีที่สุด

อ่านต่อ สำรวจจักรวาล ‘คิมอึนซุก’ ผู้เขียนบทซีรีส์ Goblin, Descendants of the Sun, The King: Eternal Monarch

หรือ Strangers From Hell ผลงานซีรีส์ที่เป็นการล้างภาพจำเดิมๆ ของอีดงอุคออกจนหมดสิ้น ด้วยการรับบททันตแพทย์สุดหลอน รวมไปถึงซีรีส์แฟนตาซีเรื่องล่าสุดที่กำลังออกอากาศอยู่ในตอนนี้ Tale of the Nine Tailed ครั้งแรกที่ตัวละครสำคัญอย่างจิ้งจอกเก้าหางเป็นเพศผู้!

ตลอด 21 ปีในวงการบันเทิง อีดงอุคพิสูจน์ความสามารถด้วยการรับบทบาทที่ท้าทายตัวเองมาอย่างต่อเนื่อง โดยเขาเคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า “ถ้าหากเลือกรับงานที่เป็นภาพจำเดิมๆ หรือคาแรกเตอร์ซ้ำๆ มันจะรู้สึกเหมือนกับถูกฝังอยู่กับสิ่งนั้น ในระหว่างที่ผมก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองถนัดหรือเหมาะกับคาแรกเตอร์แบบไหน ผมก็คิดว่าจะลองท้าทายตัวเองด้วยการรับบทที่หลากหลายแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ”

และในบทความนี้เราได้เลือกเอาผลงานเด่นๆ ที่ไม่ควรพลาดของอีดงอุคให้คอซีรีส์ได้ลองไปหาชมกันต่อ

Blade Man (2014)

หลังจากรับงานแสดงมามากมายหลายเรื่อง แต่ก็ยังไม่พ้นบทบาทแนวเมโลดราม่าที่ซ้ำเดิม อีดงอุคจึงเลือกจะไปสู่ซีรีส์สายแฟนตาซีที่เขาไม่เคยทำมาก่อน กับการรับบทเป็น จูฮงบิน ประธานบริษัทเกมเลือดร้อนที่แม้ชีวิตจะมีพร้อมทุกอย่าง แต่ก็มีเรื่องราวในอดีตที่คอยกัดกินจิตใจตลอดมา เมื่อมีใครมาทำให้โกรธ ความเจ็บปวดที่สุมอยู่ในใจกลายเป็นมีดแหลมที่งอกออกมาจากร่างกาย พร้อมพลังพิเศษเหนือมนุษย์ที่ทำลายได้ทุกอย่าง

Goblin (2016)

ซีรีส์โดยนักเขียนชื่อดัง คิมอึนซุก โดยอีดงอุครับบทยมทูตผู้มาตามล่าวิญญาณที่หายไป แต่เรื่องราวกลับตาลปัตรเมื่อเขาได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำให้ภาพเหตุการณ์ในอดีตอันปวดร้าวของตัวเองย้อนกลับมา ซึ่งเหตุการณ์นั้นกลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมที่ทำให้ทุกคนต้องเจ็บปวด

บทยมทูตใน Goblin นั้นเป็นบทที่อีดงอุคอยากเล่นมากๆ ถึงกับยอมเดินทางไปพบเพื่อพูดคุยกับนักเขียนคิมอึนซุกด้วยตัวเอง จนกระทั่งได้บทนี้มาอยู่ในมือสมใจ ซึ่งเขาก็ไม่ได้ทำให้ผู้ชมผิดหวังเลย เพราะบทยมทูตในซีรีส์เรื่องนี้มีบางฉากบางตอนที่ต้องแสดงออกถึงอารมณ์ที่ซับซ้อน แต่อีดงอุคก็โชว์ศักยภาพของตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่

Life (2018)
ซีรีส์ตามติดชีวิตหมอ ตีแผ่เบื้องหลังธุรกิจโรงพยาบาลที่ไม่ได้ขาวสะอาดอย่างที่คิด ครั้งนี้อีดงอุครับบทเป็น เยจินอู แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉินมาดอบอุ่น เขาอุทิศชีวิตเพื่อช่วยเหลือผู้คนด้วยอุดมการณ์อันแรงกล้า แต่เมื่อระบบบริหารในโรงพยาบาลเห็นตัวเลขสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด เหล่าแพทย์จึงต้องร่วมมือกันเพื่อต่อกรกับระบบธุรกิจ ก่อนที่จะเกิดเป็นปัญหาสั่นคลอนอาชีพของผู้คนในโรงพยาบาลไปมากกว่านี้

Life เป็นผลงานของนักเขียน อีซูยอน ที่สร้างความประทับใจให้คอซีรีส์สายสืบสวนมาแล้วใน Stranger ทั้งสองซีซัน

Touch Your Heart (2019)
ซีรีส์ที่เป็นการกลับมารับบทคู่กันอีกครั้งของอีดงอุคและยูอินนา หลังจากแฟนๆ ได้สัมผัสกับเคมีสุดมหัศจรรย์ของทั้งคู่มาแล้วในซีรีส์ Goblin คราวนี้อีดงอุคเลือกที่จะปล่อยวางความเครียดมาสู่บทบาทแนวโรแมนติกคอเมดี้ดูบ้าง โดยรับบทเป็น ควอนจองรก ทนายความผู้แสนเย็นชาและรักในความสมบูรณ์แบบ แต่เก่งมาจากไหนก็ต้องแพ้ให้กับ โอยุนซอ นักแสดงตกอับที่มาฝึกงานทนายความเพื่อหวังจะกลับไปเป็นดาวอีกครั้ง เป็นซีรีส์ที่ดูง่าย คลายเครียด และเสิร์ฟความฟินให้ผู้ชมยิ้มกันได้ทุกตอน

Strangers From Hell (2019)

มาต่อกันที่ซีรีส์แนวทริลเลอร์ที่สร้างมาจากเว็บตูนชื่อเดียวกัน Strangers From Hell กับเรื่องราวที่ว่าด้วยชีวิตของหนุ่มบ้านนอกที่เข้ามาในกรุงโซลเพื่อหางานทำ และเมื่อเขาได้ย้ายเข้าไปอยู่ในหอพักแห่งหนึ่ง เรื่องราวสุดประหลาดของเพื่อนบ้านก็เกิดขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน

ต้องบอกว่าบทบาทของอีดงอุคในเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในเวอร์ชันต้นฉบับ แต่เป็นตัวละครที่เสริมขึ้นมาเพื่อเพิ่มมิติความหลอนในเวอร์ชันซีรีส์ให้คนดูรู้สึกขนลุกขนพองมากยิ่งขึ้น โดยเขารับบทเป็น ซอมุนโจ ทันตแพทย์ผู้มีพฤติกรรมประหลาดไม่แพ้เหล่าเพื่อนบ้านคนอื่นๆ ซึ่งบทบาทนี้คือการฉีกภาพจำของทุกบทบาทที่เคยเล่นมาเลยทีเดียว

Tale of the Nine Tailed (2020)

และซีรีส์เรื่องล่าสุดที่เรียกว่าเป็นการก้าวไปอีกขั้นกับการท้าทายตัวเองด้วยบทจิ้งจอกเก้าหาง ตัวละครที่มีที่มาจากตำนานพื้นบ้านของเกาหลี ซึ่งโดยปกติแล้วตัวละครนี้มักจะต้องเป็นผู้หญิง แต่นี่คือครั้งแรกที่เป็นการพลิกตำนานโดยให้จิ้งจอกเก้าหางเป็นผู้ชาย

โดยอีดงอุคได้ให้สัมภาษณ์ถึงการตัดสินใจรับบทนี้เอาไว้ว่า “ผมรู้สึกสนุกมากตอนที่ได้อ่านบท เพราะซีรีส์เรื่องนี้เป็นเหมือนการผสมผสานหลายๆ แนวเข้าด้วยกันมากกว่าที่จะมุ่งมาทางแฟนตาซีเพียงอย่างเดียว อีกอย่างคือผมชอบคอนเซปต์ของเรื่องที่เขียนบทให้จิ้งจอกเก้าหางเป็นผู้ชาย เพราะมันเป็นความคิดสร้างสรรค์ที่อาจจะช่วยเปลี่ยนภาพจำเดิมๆ ของปีศาจตนนี้ได้”

นอกจากซีรีส์แล้ว อีดงอุคก็ไม่หยุดพัฒนาตัวเองอยู่แค่ด้านการแสดงเพียงเท่านั้น เพราะเขายังได้ลองทำหน้าที่พิธีกรซึ่งเป็นงานที่ใฝ่ฝันมาตลอดด้วย โดยเริ่มต้นจากการเป็นผู้ดำเนินรายการในเซอร์ไววัลสุดฮอต Produce X 101 ซึ่งเป็นรายการที่ทำให้ได้รับความรักจากคนดูอย่างมาก ด้วยไหวพริบที่ปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว เป็นธรรมชาติ และภาพลักษณ์พี่ชายสุดอบอุ่นที่มอบให้กับผู้เข้าแข่งขันทุกๆ คน

ซึ่งหากใครที่เคยชมรายการ Produce X 101 จะรู้ดีว่ามีหลายฉากหลายตอนที่เผยช่วงเวลาขณะที่อีดงอุคใส่ใจดูแลเด็กๆ อย่างใกล้ชิดแม้กระทั่งในห้องซ้อม รวมทั้งการให้ข้อคิดและกำลังใจกับผู้เข้าแข่งขันอยู่เสมอ และแม้รายการจะจบไปแล้ว แต่ความสัมพันธ์ฉันพี่น้องของพวกเขาก็ยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้

และอีกบทบาทที่อีดงอุคอยากจะทำมาตลอดก็คือการเป็นพิธีกรรายการทอล์กโชว์ ซึ่งสิ่งที่ปรารถนาก็กลายเป็นจริงกับรายการ Lee Dong Wook Wants to Talk ออกอากาศครั้งแรกในเดือนธันวาคม 2019 โดยได้เพื่อนรักร่วมวงการอย่าง กงยู มาร่วมรายการเป็นตอนแรก

อีดงอุคเคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความฝันที่อยากจะมีรายการทอล์กโชว์เป็นของตัวเองมาตลอดไว้ว่า “ตอนเด็กๆ ผมเป็นคนที่ค่อนข้างพูดน้อยและเก็บตัว ผมจึงพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงนิสัยเหล่านั้นในช่วงที่เริ่มต้นทำงาน ผมเริ่มปรับปรุงตัวเองและฝึกทักษะในการพูดคุยมากขึ้น เพราะผมอยากรู้ว่าตัวเองจะเป็นพิธีกรที่ดีได้ไหม และจะทำให้ผู้ชมหัวเราะได้หรือไม่

“ผู้ชมมักจะได้เห็นผมผ่านคาแรกเตอร์ต่างๆ ทางการแสดงมาโดยตลอด ซึ่งการเป็นพิธีกรรายการทอล์กโชว์ครั้งนี้จะทำให้ทุกคนสัมผัสได้ถึงตัวตนจริงๆ ของผม เพราะการเป็นพิธีกรคือความฝันของผมตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นเด็ก ดังนั้นการได้ทำรายการ Lee Dong Wook Wants to Talk จึงเหมือนกับความฝันที่เป็นจริงสำหรับผมเลยล่ะ”

จากผลงานที่ผ่านมาทั้งหมด พิสูจน์ได้ว่าอีดงอุคคือนักแสดงคุณภาพอีกหนึ่งคนของวงการบันเทิง ที่นอกจากจะทำได้ดีในสายอาชีพนักแสดงของตัวเองแล้ว เขาก็ยังเดินหน้าท้าทายความสามารถกับประสบการณ์ใหม่ในด้านอื่นๆ อยู่เสมอ ไม่หยุดที่พัฒนาตัวเองให้ก้าวไปข้างหน้า ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นคุณสมบัติอันดีที่ทุกคนควรเรียนรู้ไม่ว่าจะอยู่ในสายอาชีพใดก็ตาม

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง: