×

สำรวจจักรวาล ‘คิมอึนซุก’ ผู้เขียนบทซีรีส์ Goblin, Descendants of the Sun, The King: Eternal Monarch

16.10.2020
  • LOADING...
สำรวจจักรวาล ‘คิมอึนซุก’ ผู้เขียนบทซีรีส์ Goblin, Descendants of the Sun, The King: Eternal Monarch

HIGHLIGHTS

  • Descendants of the Sun ทำเรตติ้งสูงสุด 40% ส่งออกไปฉายใน 32 ประเทศ โดยซีรีส์เรื่องเดียวส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อเศรษฐกิจเกาหลีใต้มากกว่า 1 ล้านล้านวอน (ราว 27,000 ล้านบาท) ความสำเร็จยิ่งใหญ่เป็นสะพานวาร์ปคิมอึนซุกไปอยู่แถวหน้าของวงการนักเขียนบทซีรีส์เกาหลี
  • จักรวาลของคิมอึนซุก ผู้เขียนบทซีรีส์ Goblin, Descendants of the Sun, The King: Eternal Monarch แวดล้อมด้วยเรื่องราวแบบไหน นักแสดง ผู้กำกับคู่บุญคือใคร เราหาคำตอบมาให้แล้ว

คิมอึนซุก คือนักเขียนซีรีส์โรแมนติกที่ผู้ชมคุ้นเคยกันดีกับผลงานอย่าง Secret Garden, Descendants of the Sun, Goblin, The King: Eternal Monarch เธอคือหนึ่งในเบื้องหลังงานสร้างที่ทำให้ซีรีส์เกาหลีได้รับความนิยมในระดับสากล และถ้าจะมีคำถามว่านักเขียนบทซีรีส์ระดับท็อปของเกาหลีคือใคร ชื่อของเธอน่าจะเป็นคำตอบแรกๆ ที่ได้ยิน

รายการ Heard It Through the Grapevine ของช่อง Channel A เคยรายงานว่าตอนที่คิมอึนซุกเริ่มเขียนบทครั้งแรก เธอได้รับเงินเดือนประมาณ 7 แสนวอนต่อเดือน (ราว 18,900 บาท) แต่เมื่อมีชื่อเสียงโด่งดัง โดยเฉพาะช่วงที่เขียนบทซีรีส์ Descendants of the Sun เธอได้รับค่าเขียนบทอย่างน้อยๆ อีพีละ 30 ล้านวอน (ราว 8.14 แสนบาท) และในตอนนี้คาดเดากันว่าค่าเขียนบทของเธอพุ่งสูงถึงอีพีละ 100 ล้านวอน (ราว 2.7 ล้านบาท)

หลังจากความสำเร็จของ Descendants of the Sun ผลงานของคิมอึนซุกทุกเรื่องกลายเป็นสิ่งที่แฟนซีรีส์รอคอย และเธอไม่เคยทำให้ผิดหวัง ทั้งซีรีส์ Goblin ที่สร้างปรากฏการณ์ได้รับเรตติ้งสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของช่องเคเบิล รองจาก Reply 1988 ในระหว่างที่ออกอากาศ, Mr. Sunshine ที่กลายเป็นกระแสส่งให้นักแสดงในเรื่องเป็นพรีเซนเตอร์สินค้ามากมาย

อาจจะมีที่เกิดจุดพลิกผันใน The King: Eternal Monarch ซีรีส์เรื่องล่าสุดของเธอในปีนี้ที่ทำเรตติ้งในเกาหลีไม่ได้อย่างหวัง แต่ในตลาดต่างประเทศ ซีรีส์เรื่องนี้กลับทำเรตติ้งได้ยอดเยี่ยมจนเป็นเหมือนคำปลอบใจให้ผลงานชิ้นล่าสุดของเธอ

ด้วยผลงานเกือบ 20 ปีในวงการ จึงน่าสนใจว่าจักรวาลของนักเขียนคิมอึนซุกแวดล้อมด้วยเรื่องราวแบบไหน นักแสดง ผู้กำกับคู่บุญคือใคร และเธอสะท้อนตัวละครออกมาอย่างไรในการที่จะช่วยอธิบายบริบทสังคมเกาหลีซึ่งเปลี่ยนไปตามกาลเวลาผ่านซีรีส์เหล่านี้

 

(บน) Lovers in Paris (2004), Lovers in Prague (2005)
(ล่าง) Fly High (2006)

 

คิมอึนซุก เกิดปี 1973
คิมอึนซุกคือเจเนอเรชันเอ็กซ์ที่เกิดในปี 1973 และเติบโตเป็นวัยรุ่นในยุค 80-90 ซึ่งเป็นช่วงสำคัญในการเปลี่ยนแปลงของวงการโทรทัศน์เกาหลีที่มีการปรับรูปแบบซีรีส์ให้อยู่ที่ 12-24 อีพีเพื่อให้ง่ายต่อการส่งออกไปยังผู้ชมต่างประเทศ เรียกได้ว่าเป็นคลื่นแรกๆ ของซีรีส์เกาหลีที่พัดออกจากคาบสมุทร

หลังเรียนจบปริญญาตรีจาก Seoul Arts College ในสาขาการเขียนโดยตรง เธอเขียนบทซีรีส์เรื่องแรก South of the Sun ในปี 2003 ซึ่งนับว่าเป็นผลงานเดบิวต์ที่ออกตัวได้ดี ตามมาด้วยซีรีส์ไตรภาค Lovers เริ่มต้นที่ซีรีส์โรแมนติกดราม่า Lovers in Paris ซึ่งได้รับความนิยมและทำเรตติ้งสูงสุด 57.6% ทำให้คิมอึนซุกได้รับรางวัลบทซีรีส์ยอดเยี่ยมจากเวที Baeksang Arts Awards ในปีนั้น และแม้ว่า Lovers in Prague (2005) และ Lovers (2006) จะไม่ได้ประสบความสำเร็จเท่า แต่ก็ยังรักษาความนิยมได้ดี และทำให้เธอกลายเป็นนักเขียนหน้าใหม่ที่มาแรงของวงการ

ในปี 2006 คิมอึนซุกได้ชิมลางการเขียนบทภาพยนตร์เรื่อง Fly High ซึ่งตัวภาพยนตร์ทำรายได้ไม่ดีนัก และคำวิจารณ์ก็ออกไปในเชิงลบ นั่นจึงอาจกลายเป็นแผลในใจบางอย่าง เพราะหลังจากนั้นเธอก็ไม่เคยกลับมาเขียนบทภาพยนตร์อีก 

 

(บน) The Heirs (2013), A Gentleman’s Dignity (2012)
(ล่าง) Secret Garden (2010)

 

ที่สุดของของซีรีส์โรแมนติกพาฝันและโลกจินตนาการ
Secret Garden นับเป็นจุดเริ่มต้นผลงานของคิมอึนซุกในยุค 10 ปีล่าสุด โดยได้ ฮยอนบิน มาเป็นนักแสดงนำคู่กับ ฮาจีวอน ตัวซีรีส์เป็นแนวโรแมนติกแฟนตาซีพาฝันที่ว่าด้วยเรื่องราวของเจ้าของบริษัทสุดเพอร์เฟกต์กับสตันท์สาวที่สลับร่างกันในร้านชาลึกลับกลางป่า จนกลายเป็นซีรีส์รักต่างฐานะที่ถูกใจแฟนๆ ทั่วเอเชีย และทำให้ Secret Garden กวาดรางวัลใหญ่บนเวที Baeksang Arts Awards ทั้งซีรีส์ยอดเยี่ยม นักแสดงหน้าใหม่หญิงยอดเยี่ยม ฮยอนบินได้รับรางวัลแดซัง และคิมอึนซุกกับรางวัลบทซีรีส์ยอดเยี่ยม

ความชัดเจนในการเป็นซีรีส์พาฝันสังเกตได้จากโปสเตอร์ที่มีทั้งปราสาท การล่องลอยบนท้องฟ้า ดังนั้นการได้ดูซีรีส์เรื่องนี้ก็พอจะพาผู้หญิงหนีหายจากโลกความเป็นจริงไปอยู่ในโลกจินตนาการพร้อมกับฮยอนบินที่สุดแสนจะเพอร์เฟกต์ในลุคแบดบอยนิดๆ

A Gentleman’s Dignity ซีรีส์โรแมนติกคอเมดี้ ผลงานลำดับต่อมาของคิมอึนซุก ได้นักแสดงนำอย่าง จางดงกอน มาร่วมงาน เขาให้สัมภาษณ์ว่าเพราะเป็นงานของนักเขียนคิมอึนซุกและผู้กำกับชินอูชอล จึงตัดสินใจรับบทนี้หลังจากรับแต่งานภาพยนตร์มาสิบกว่าปี เรื่องราวของ A Gentleman’s Dignity เกี่ยวกับเพื่อนรัก 4 คนที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่มัธยมจนถึงวัย 40 และมีหน้าที่การงานรวมถึงความสัมพันธ์ในชีวิตคู่แตกต่างกันไป ซึ่งยังคงเป็นงานโรแมนติกปนอารมณ์ขันที่แสดงลายเซ็นชัดเจนในด้านนี้ของนักเขียนคิมอึนซุก

The Heirs เป็นผลงานที่คงมาตรฐานการเขียนบทไว้ได้คงเส้นคงวา และยังคงเป็นแนวโรแมนติกดราม่าที่คิมอึนซุกถนัด ยิ่งได้ อีมินโฮ และพัคชินฮเย มาเป็นนักแสดงนำ รับบทลูกชายมหาเศรษฐีกับลูกสาวของแม่บ้าน ซึ่งในซีรีส์ The Heirs เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวละครของคิมอึนซุก ซึ่งปกติมักจะเป็นหญิงสาววัยทำงานไปแล้ว แต่ในเรื่องนี้ฉีกไปเป็นชีวิตของเด็กไฮสคูลในโรงเรียนลูกคุณหนู แต่กระนั้นบทซีรีส์ยังคงแบบแผนซินเดอเรลลาที่นางเอกอยู่ในสถานะต่ำต้อย แต่เจิดจรัสอยู่ท่ามกลางแวดวงสังคมชั้นสูง และจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งตามขนบ

 

Descendants of the Sun (2016) 

 

จุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ที่ซีรีส์ Descendants of the Sun ที่คิมอึนซุกลดทอนพล็อตความเป็นซินเดอเรลลาด้วยการปรับให้นางเอกของเรื่องอยู่ในสถานะไม่เป็นรองทางสังคม ซงฮเยคโย รับบท คังโมยอน ศัลยแพทย์หัวใจที่อาสาไปทำงานต่างประเทศร่วมกับกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ และได้พบรักกับ ซงจุงกิ ที่รับบท กัปตันยูชีจิน หัวหน้าหน่วยอัลฟา ซีรีส์รักระหว่างรบเรื่องนี้นับว่าผสมผสานแอ็กชันดราม่าบวกเรื่องการเมืองการทหารได้น่าสนใจ แต่อย่างหนึ่งที่ต้องยอมรับในฝีมือของคิมอึนซุกคือการขยี้ความโรแมนซ์ที่ตรงกับวลี ‘ดูไปจิกหมอนไป’ ซึ่งเป็นลายเซ็นที่ยากจะลอกเลียนแบบ

Descendants of the Sun ทำเรตติ้งสูงสุด 40% ส่งออกไปฉายใน 32 ประเทศ และซีรีส์เรื่องเดียวส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อเศรษฐกิจเกาหลีใต้มากกว่า 1 ล้านล้านวอน (ราว 27,000 ล้านบาท) ความสำเร็จยิ่งใหญ่เป็นสะพานวาร์ปคิมอึนซุกไปอยู่แถวหน้าของวงการนักเขียน โดยผลงานนับจากซีรีส์เรื่องนี้นอกจากสะท้อนความสามารถที่ไม่หยุดยั้งแล้วยังแสดงให้เห็นทิศทางใหม่ของอุตสาหกรรมซีรีส์เกาหลีที่พร้อมเสิร์ฟไปสู่ผู้ชมทั่วโลก

 

Goblin (2016-2017)

 

ความเปลี่ยนแปลงหลังจาก Descendants of the Sun
Goblin เป็นผลงานของคิมอึนซุกที่ยังคงแนวโรแมนติกแฟนตาซี แต่ความโดดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้คือการผนวกเอาความดราม่า คอเมดี้ และความวายหน่อยๆ จากคู่นักแสดงนำชาย ผสมผสานด้วยแอ็กชันและตำนานของเกาหลีที่ว่าด้วย ด็อกแกบี ยมทูต และวิญญาณต้องสาป แต่เมื่อทั้งหมดมารวมตัวกันแล้วกลับลงตัวอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ Goblin ยังเป็นซีรีส์เรื่องแรกที่คิมอึนซุกแตะเนื้อหาย้อนอดีตอย่างที่ไม่เคยปรากฏในงานของเธอมาก่อน ซึ่งในส่วนนี้ยังเป็นตัวขมวดปมเรื่องให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น

อีดงอุคให้สัมภาษณ์ว่าเขาต้องการรับบทยมทูตมากๆ ตั้งแต่ได้อ่านเรื่องย่อก่อนที่คิมอึนซุกจะเขียนบทเสร็จ บทยมทูตในซีรีส์เรื่องนี้ท้าทายตัวเขาในการพัฒนางานแสดง ทั้งมิติตัวละคร เส้นเรื่อง ความแฟนตาซี และการที่ยมทูตกับด็อกแกบีมาอาศัยอยู่ด้วยกัน ประกอบกับความต้องการร่วมงานกับนักเขียนคิมอึนซุก ทำให้เขาเตรียมตัวเยอะมากเพื่อให้เชื่อว่าเขาจะรับบทนี้ได้ดีที่สุด

ส่วนกงยูที่ปฏิเสธบทนำของคิมอึนซุกมาตลอด 5 ปีก็ยังคงปฏิเสธบทด็อกแกบีในครั้งแรก จนเมื่อได้พบกับคิมอึนซุกพร้อมผู้กำกับอีอึงบก จึงยอมเปลี่ยนใจมารับบทนำในเรื่องนี้ และทำให้ในปีนั้น Goblin คว้ารางวัลใหญ่ของ Baeksang Arts Awards คือรางวัลแดซังที่มอบให้กับคิมอึนซุก และกงยูที่ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม

 

Mr. Sunshine (2018)


Mr. Sunshine การทำงานร่วมกันแบบแฮตทริกต่อเนื่องระหว่างคิมอึนซุกและผู้กำกับอีอึงบกในซีรีส์พีเรียดที่พาย้อนกลับไปสมัยโชซอน ก่อนเกาหลีภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น เมื่อเด็กชายคนหนึ่งหนีออกจากประเทศไปเติบโตที่ดินแดนอื่นและกลับมาในฐานะทหารอเมริกัน เขาได้เข้าไปข้องเกี่ยวกับขบวนการกู้ชาติที่มีสมาชิกคนสำคัญคือผู้หญิงสูงศักดิ์ที่เขาหลงรักตั้งแต่แรกเห็น

ความน่าสนใจของซีรีส์เรื่องนี้คือการผนวกรวมเรื่องการเมือง ความรักชาติ แอ็กชัน ประวัติศาสตร์ เข้ามาอยู่กับความโรแมนติกได้ลงตัว และนับเป็นผลงานซีรีส์ย้อนยุคเต็มตัวเรื่องแรกของคิมอึนซุก ซึ่งเธอเคยให้สัมภาษณ์ว่าตอนที่หาข้อมูลในเรื่อง Goblin เธอได้พบความสนใจในประวัติศาสตร์ยุคโชซอนช่วงใกล้ล่มสลายและตกเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่นราวปลายปี 1800 จนถึงช่วงต้นของ 1900 เธอได้นำช่วงเวลาคับขันด้านการเมืองการปกครองมาถ่ายทอดผ่านพล็อตที่ซับซ้อน ทั้งยังสอดแทรกประวัติศาสตร์ โดยอ้างอิงถึง ‘ชินมิยังเกียว’ การเข้ามาของทหารอเมริกันในขณะนั้นได้อย่างสมจริง

 

The King: Eternal Monarch (2020)

 

และประวัติศาสตร์ในช่วงการเปลี่ยนผ่านเกาหลีภายใต้อาณัติของญี่ปุ่นก็ถูกคิมอึนซุกนำกลับมาใช้อีกครั้งในซีรีส์เรื่อง The King: Eternal Monarch เมื่อโลกแตกออกเป็นคู่ขนาน ผู้ครอบครองขลุ่ยมันพาชินจ๊อกจะข้ามกาลเวลาและโลกคู่ขนานได้จนทำให้ชายหนุ่มและหญิงสาวจากคนละโลกมาพบรักกัน

นักเขียนคิมอึนซุกเลือกใช้ความจริงในประวัติศาสตร์มาเป็นพล็อตเรื่องได้อย่างท้าทายในเชิงการเมืองการปกครอง โดยเล่าถึงโลกคู่ขนานระหว่างสาธารณรัฐเกาหลีที่ปกครองโดยประธานาธิบดี หลังจากราชวงศ์โชซอนล่มสลายในปี 1907 ขณะที่โลกอีกใบยังคงเป็นจักรวรรดิเกาหลีที่มีกษัตริย์อีกนเป็นประมุข มีนายกรัฐมนตรีและระบบรัฐสภารับผิดชอบการทำงานเพื่อประเทศ

โดยจุดเปลี่ยนที่ทำให้เกิดโลกคู่ขนานเริ่มตั้งแต่ช่วงชีวิตขององค์ชายโซฮยอน ซึ่งโลกใบหนึ่งได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ต่อจากพระบิดา ขณะที่โลกความเป็นจริงนั้นองค์ชายเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาในปี 1645 การที่คิมอึนซุกเลือกช่วงชีวิตขององค์ชายโซฮยอนเป็นจุดเปลี่ยนให้กับโลกคู่ขนาน น่าจะเป็นเพราะสมมติฐานที่ว่าหากองค์ชายโซฮยอนได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ต่อจากพระบิดา ความรู้ ความสามารถ และความคิดที่จะปฏิรูประบบการปกครองประเทศจะทำให้เกาหลีเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจจะทำให้เกาหลีไม่ต้องตกอยู่ใต้อาณานิคมของญี่ปุ่น ตามมาด้วยการไม่ถูกแบ่งประเทศออกเป็นเกาหลีเหนือและใต้

นอกจากประเด็นการเมืองการปกครอง คิมอึนซุกยังใช้ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษมาอธิบายเรื่องการข้ามเวลา นับว่าเป็นความท้าทายของนักเขียนเองที่เลือกจะมองหาเส้นทางใหม่ๆ ในการเล่าเรื่องราวซึ่งเต็มไปด้วยความซับซ้อน ตัวละครมีมิติ เงื่อนปมที่ซ่อนอยู่แทบจะทุกฉาก อ้างอิงทฤษฎีที่มีอยู่จริง ประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เพื่อที่จะทำให้ The King: Eternal Monarch เป็นผลงานสะท้อนพัฒนาการของตัวเธอเอง รวมถึงวงการซีรีส์เกาหลี ซึ่งแม้ว่าเสียงตอบรับในเกาหลีจะไม่ดีนัก แต่สำหรับหลายๆ ประเทศ ซีรีส์เรื่องนี้กลับได้รับความนิยมอย่างมาก

 

ภาพ: tvN, Song Hye-kyo


ชินอูชอลและอีอึงบก ผู้กำกับคู่บุญของคิมอึนซุก
คิมอึนซุกทำงานกับผู้กำกับหลากหลาย แต่บุคคลสำคัญๆ ที่อยู่คู่กับความสำเร็จของเธอคือผู้กำกับชินอูชอลและอีอึงบก

ชินอูชอลทำงานคู่กับคิมอึนซุกมาราวๆ 10 ปี ตั้งแต่ไตรภาค Lovers ลากยาวมาจนถึง A Gentleman’s Dignity โดยมีผลงานเรตติ้งแรงระดับตำนานคือ Lovers in Paris และ Secret Garden

ส่วนผู้กำกับที่มาแรงเหลือเกินในตอนนี้อย่างอีอึงบกก็ต้องเรียกว่าแจ้งเกิดอย่างยิ่งใหญ่พร้อมซีรีส์ Descendants of the Sun เพราะหลังจากความสำเร็จในครั้งนั้น ผลงานกำกับทุกเรื่องของเขาก็ยิ่งเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ทั้ง Goblin ที่ผสมผสานทักษะการกำกับที่หลากหลาย หรือ Mr. Sunshine ที่งานโปรดักชันจัดเต็มในระดับมาตรฐานสากล รวมถึงซีรีส์ที่กำลังอยู่ระหว่างกระบวนการ Sweet Home และ Mount Jiri ที่แม้ว่าจะไม่ได้ทำงานร่วมกับนักเขียนคิมอึนซุกแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นที่จับตามอง

 

(บน) The King: Eternal Monarch, (ล่าง) Goblin 

 

ตัวละครผู้หญิงในโลกซีรีส์ของคิมอึนซุก
ตัวละครผู้ชายของคิมอึนซุกค่อนข้างสมบูรณ์แบบ แทบทุกเรื่องจะเป็นผู้ชายมีฐานะ การศึกษาดี สังคมดี หรือแม้จะเคยยากลำบากอย่างไร แต่ก็อยู่ในสถานะผู้ชายที่ผู้หญิงคู่ควร เราไม่ค่อยเห็นตัวละครชายของคิมอึนซุกที่บิดเบี้ยวหรืออยู่ในโหมดดาร์ก ซึ่งก็ตรงตามขนบซีรีส์เกาหลีที่ตัวละครควรเป็นแบบอย่างเชิงมายาคติให้สังคม


สำหรับตัวละครผู้หญิง น่าสนใจว่ามีหลายเรื่องที่อยู่ในสถานะด้อยกว่า แต่ก็มีตัวตนที่เป็นคนจิตใจดีและให้ความสำคัญกับการศึกษา อย่างตัวละครจีอึนทักใน Goblin ที่แม้ว่าจะต้องทำงานพิเศษหาค่าเทอมด้วยตัวเอง แต่ก็ตั้งใจเรียนจนสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ หรือตัวละครชาอึนซังใน The Heirs ที่เรียนเก่งจนสอบได้ที่ 53 ของชั้นปี ส่วนตัวละครคังโมยอนใน Descendants of The Sun ก็เป็นถึงศัลยแพทย์หัวใจ รวมทั้งโกแอชินใน Mr. Sunshine หญิงสาวสูงศักดิ์ที่แอบไปเรียนภาษาอังกฤษ เรียนเขียนอ่านหนังสือ ทั้งที่ผู้หญิงในยุคโชซอนควรจะเตรียมตัวเป็นภรรยาของขุนนางสักคน

ความเชื่อมโยงในตัวละครผู้หญิงของคิมอึนซุกยังสะท้อนผ่านคาแรกเตอร์ที่มีความห้าว ไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอที่ต้องคอยให้ใครมาปกป้อง รวมไปถึงการแต่งตัวของตัวละคร เช่น จองแทอึล ใน The King: Eternal Monarch มักจะใส่กางเกงยีนส์กับรองเท้าผ้าใบ ซึ่งเหมาะสมกับอาชีพตำรวจ, จีอึนทักใน Goblin ก็มักใส่จัมเปอร์ทับด้วยโค้ตและกางเกงขายาว, โกแอชินใน Mr. Sunshine มักอยู่ในชุดผู้ชายเพื่อความทะมัดทะแมงในการออกทำภารกิจ หรือกิลราอิมใน Secret Garden ก็เป็นนางเอกที่ไว้ผมสั้น อยู่ในชุดทะมัดทะแมงเสมอด้วยอาชีพสตันท์ของเธอ

ในแง่มุมหนึ่ง ผู้หญิงของคิมอึนซุกจึงเป็นคล้ายภาพสะท้อนของผู้หญิงในสังคมเกาหลีที่เปลี่ยนแปลงสถานภาพในสังคมมาจนถึงปัจจุบัน

 

(บน) Secret Garden, (ล่าง) Mr. Sunshine

 

แม้ตอนนี้ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับบทซีรีส์เรื่องใหม่ของคิมอึนซุก แต่เราเชื่อว่าเธอจะนำเสนอความแปลกใหม่และท้าทายต่อไป และสำหรับใครที่เริ่มต้นติดตามซีรีส์เกาหลี การไล่ดูผลงานของเธอนับจากปีแรกๆ มาจนถึงปัจจุบันก็เป็นคล้ายบทบันทึกที่บอกเล่าความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั้งในแง่กระบวนการผลิตซีรีส์ไปจนถึงความซับซ้อนและข้อมูลเชิงลึกในการเขียนบท และสะท้อนภาพการเปลี่ยนแปลงของสังคมเกาหลีที่เกิดขึ้นในช่วง 10-20 ปีที่ผ่านมาได้อย่างชัดเจน

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:

FYI

ผลงานซีรีส์ทั้งหมดของนักเขียนคิมอึนซุก

  • The King: Eternal Monarch (SBS / 2020) 
  • Mr. Sunshine (tvN / 2018) 
  • Goblin (tvN / 2016-2017) 
  • Descendants of the Sun (KBS2 / 2016) 
  • The Heirs (SBS / 2013)
  • A Gentleman’s Dignity (SBS / 2012)
  • Secret Garden (SBS / 2010)
  • The City Hall (SBS / 2009)
  • On Air (SBS / 2008)
  • Lovers (SBS / 2006)
  • Lovers in Prague (SBS / 2005)
  • Lovers in Paris (SBS / 2004)
  • South Of the Sun (SBS / 2003)
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising