สุขภาพที่ดีเป็นสินทรัพย์ที่มนุษย์ทุกคนพึงมี แต่ที่ผ่านมายังพบคนไทยจำนวนมากที่เข้าถึงสิทธิสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคได้อย่างยากลำบาก แม้จะได้รับสิทธิบัตรทองก็ยังเข้าถึงการรักษาได้อย่างล่าช้า ทั้งการวิ่งวุ่นหาโรงพยาบาลที่เปิดรับสิทธิก็ดี หรือจำนวนคิวที่มากมาย ทำให้การไปโรงพยาบาลแต่ละครั้งจะต้องใช้เวลารอคิวกันเป็นวัน พอได้ยินแบบนี้แล้ว ต่อให้เรามีสิทธิเข้าถึงบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (P&P) ซึ่งเป็นสิทธิประโยชน์เดียวในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่จัดให้กับประชาชนไทยทุกคนมีสิทธิ ก็คงไม่อยากเสียเวลาเป็นวันไปกับการนั่งรอคิว
หรือเรามีสิทธิแต่กำลังจะพลาดใช้สิทธิหรือเปล่า?
ประเด็นสำคัญของเรื่องนี้คือ แท้จริงแล้วคนไทยทุกคนมีสิทธิเข้าถึงบริการสุขภาพอย่างเท่าเทียม ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 และ พ.ร.บ. หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ซึ่งปัจจุบันคนไทยทุกคนได้รับสิทธิบัตรทองอย่างครอบคลุมแล้ว แต่ด้วยการสื่อสารให้ทั่วถึงแก่ผู้มิสิทธิก็ดี หรือหากทราบสิทธิแล้ว การเข้ารับบริการที่หน่วยบริการอาจมีปัญหาติดขัด จึงทำให้คนไทยจำนวนมากพลาดสิทธิป้องกันก่อนเกิดโรคไปอย่างน่าเสียดาย
ด้วยเหตุนี้เอง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จึงได้ร่วมมือกับ ธนาคารกรุงไทย เดินหน้าโครงการพัฒนาระบบบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ภายใต้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติด้วย Krungthai Digital Health Platform ผ่าน ‘เป๋าตัง สุขภาพ’ หรือ ‘Health Wallet’ บนแอปพลิเคชัน เป๋าตัง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนทุกคน เพิ่มช่องทางการเข้าถึงบริการสุขภาพได้อย่างสะดวกและปลอดภัย พร้อมตรวจสอบสิทธิ นัดหมายหน่วยบริการล่วงหน้า แจ้งเตือน และยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชน
‘เป๋าตัง สุขภาพ’ (Health Wallet) เข้าถึงทุกสิทธิการรักษาง่ายเพียงปลายนิ้ว
บอกกันก่อนว่า นี่เป็นเพียงการเปิดตัวเฟสแรกของ ‘เป๋าตัง สุขภาพ’ (Health Wallet) บนแอปฯ เป๋าตัง จึงเปิดให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ รับสิทธิได้ก่อน ทาง สปสช. และธนาคารกรุงไทย กำลังเร่งขยายการให้บริการไปยังประชาชนคนไทยทั่วประเทศ รวมถึงขยายสิทธิการให้บริการบนแอปฯ เป๋าตังเพิ่มเติม
ซึ่งผู้มีสิทธิสามารถรับสิทธิประโยชน์บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 16 รายการ ไม่ว่าจะเป็น วัคซีน, คัดกรองความเสี่ยงในกลุ่มภาวะโรคเมตาบอลิก, คัดกรองมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก, วางแผนครอบครัว คุมกำเนิด, คัดกรองสุขภาพผู้สูงอายุ, กระตุ้นพัฒนาการเด็ก, ฝากครรภ์, ตรวจสุขภาพหญิงหลังคลอด และคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นต้น เพื่อเข้ารับบริการในโรงพยาบาล สถานพยาบาล และหน่วยบริการจำนวน 346 แห่งในกรุงเทพฯ
ขั้นตอนการใช้งานและตรวจรับสิทธิทำได้ง่ายๆ เพียงดาวน์โหลดแอปฯ เป๋าตัง ได้ที่ App Store และ Play Store โดยยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้า กรอกข้อมูลส่วนบุคคล เพียงเท่านี้ก็ใช้งาน ‘เป๋าตัง สุขภาพ’ (Health Wallet) และเข้าถึงสิทธิประกันสุขภาพของตนเองได้ทันที
ดาวน์โหลดแอปฯ เป๋าตัง ได้ที่ App Store และ Play Store
เมื่อเข้าไปยังหน้าหลักของ ‘เป๋าตัง สุขภาพ’ (Health Wallet) จะพบข้อมูลของเรา สามารถตรวจสอบได้ว่ารับสิทธิในรายการใดได้บ้าง ซึ่งแต่ละคนจะได้รับสิทธิต่างกันตามอายุและเพศ เป็นไปตามเงื่อนไขที่ สปสช. กำหนด เมื่อกดรับสิทธนั้นๆ ยังสามารถเลือกหน่วยบริการ เพื่อนัดหมายเข้ารับบริการได้ทันที ไม่ต้องโทรถาม ไม่ต้องโทรจองคิวให้เสียเวลา และยังค้นหาหน่วยบริการเพื่อตรวจสอบสิทธิให้บริการได้
หน้าหลักของ ‘เป๋าตัง สุขภาพ’ (Health Wallet)
การนัดหมายเพื่อเข้ารับบริการ จะต้องนัดหมายล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน โดยระบบจะขึ้นวัน เวลา ที่สามารถจองคิวได้ สามารถกด ‘นัดหมาย’ ได้เลย เมื่อทำการนัดหมายเสร็จสิ้น หากกลับมาที่หน้าหลักของ ‘เป๋าตัง สุขภาพ’ (Health Wallet) จะมีข้อมูลการนัดหมายปรากฏ ในส่วนของข้อมูลเกี่ยวกับหน่วยบริการถือว่าครบถ้วน ตั้งแต่การลิงก์ไปยัง Google Maps เพื่อแนะนำเส้นทางการเดินทาง ที่อยู่ เวลาเปิด-ปิด และเบอร์โทรศัพท์หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ตรวจสอบสิทธิได้ทันที แต่ละคนจะได้รับสิทธิต่างกันตามอายุและเพศ
เมื่อถึงวันนัดหมาย หากลืมนำบัตรประชาชนไป ก็เปิดหน้าหลักของ ‘เป๋าตัง สุขภาพ’ (Health Wallet) ทางหน่วยบริการจะสแกน QR Health ID ที่ยืนยันตัวตนแทนบัตรประชาชน หรือแค่แจ้งเลขที่บัตรประชาชนก็สามารถใช้บริการตามวันและเวลาที่นัดได้แล้ว และยังชำระค่าบริการส่วนเกินที่อยู่นอกเหนือสิทธิผ่าน Wallet ได้ทันที ที่สำคัญดูประวัติการใช้สิทธิย้อนหลังได้อีกด้วย
สแกน QR Health ID ยืนยันตัวตนแทนบัตรประชาชนได้
เข้าถึงระบการดูแลสุขภาพอย่างทั่วถึง ยกระดับบริการบัตรทอง
คำถามต่อมาคือ แล้วผู้ที่เคยได้รับสิทธิบัตรทองกรณีที่หน่วยบริการถูกยกเลิกสัญญาทาง สปสช. มีการจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร นายแพทย์ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ชี้แจงในงานแถลงข่าว โครงการพัฒนาระบบบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ด้วย Krungthai Digital Health Platform ที่ Krungthai Innovation Lab อาคารสำนักงานใหญ่ ว่า “ผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ที่มีนัดรับยาต่อเนื่อง สามารถจองคิวเลือกหน่วยบริการใกล้บ้านเพื่อรับยาผ่านแอปฯ เป๋าตังได้ ซึ่งวิธีนี้จะสะดวกทั้งกับผู้ป่วยและหน่วยบริการที่ทราบล่วงหน้า จะได้เตรียมยาไว้ให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้”
(ซ้าย) นายแพทย์ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)
(ขวา) ผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย
ส่วนเรื่องความปลอดภัยของประวัติผู้ใช้บริการนั้น โรงพยาบาล สถานพยาบาล และหน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการ สามารถใช้ระบบ Krungthai Digital Health Platform ในการบริหารจัดการผู้ได้รับสิทธิ บริหารงานบุคลากร ซึ่งจะช่วยลดความผิดพลาดการบันทึกข้อมูลของโรงพยาบาลในระบบการส่งเคลมค่าใช้จ่ายให้กับ สปสช. ได้แบบเรียลไทม์ น่าจะเป็นวิธีแก้ปัญหาให้การเบิกจ่ายเป็นไปอย่างรวดเร็ว มองอีกมุม การเข้าถึงข้อมูลได้อย่างเรียลไทม์เช่นนี้ ช่วยให้หน่วยบริการสามารถบริหารจัดการและควบคุมปริมาณยาหรือวัคซีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
THE STANDARD เชื่อว่า การเปิดตัว ‘เป๋าตัง สุขภาพ’ (Health Wallet) ในเฟสแรก ถือเป็นกระดุมเม็ดแรกที่จะนำไปสู่จุดเริ่มต้นของการให้บริการสุขภาพแนวใหม่โดยยึดที่ตัวผู้ใช้บริการเป็นหลัก ตั้งแต่การที่ สปสช. ได้ให้ประชาชนจองสิทธิฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ผ่าน Health Wallet ไปแล้ว 15,000 สิทธิ ซึ่งครั้งนี้จะเปิดสิทธิบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคอีก 16 รายการ โดยมีธนาคารกรุงไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับระบบสาธารณสุขของประเทศ
ผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวในงานแถลงข่าวว่า “ธนาคารได้ใช้ระบบ Krungthai Digital Health Platform เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนผู้ขึ้นทะเบียนบัตรทอง และประชาชนที่ได้รับสิทธิสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้เข้าถึงบริการด้านสุขภาพ ซึ่งเป็นสิทธิการรักษาพยาบาลของภาครัฐที่มอบให้กับประชาชนในการดูแลสุขภาพของตนเองตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยสูงอายุ จะช่วยให้หน่วยบริการจัดบริการอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดความแออัด สามารถให้บริการได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลต่อคุณภาพการให้บริการ และความพึงพอใจของประชาชน สอดคล้องกับภารกิจของธนาคารกรุงไทยที่พัฒนาไปสู่ดิจิทัล เพื่อให้ดิจิทัลอยู่ในชีวิตประจำวันของลูกค้า เพราะลูกค้าธนาคารกรุงไทยคือคนไทยทุกคน”
‘เป๋าตัง สุขภาพ’ (Health Wallet) น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการมีสุขภาพที่ดีของคนไทย หากทุกคนสามารถเข้าถึงสิทธิได้ ใช้สิทธิป้องกันก่อนเกิดการรักษาได้อย่างสะดวกและง่ายดาย จำนวนคนสุขภาพดีย่อมมีเพิ่มมากขึ้น เมื่อประเทศมีทรัพยากรมนุษย์ที่แข็งแรง ไม่เจ็บป่วย ก็เท่ากับได้วางรากฐานของอนาคตที่มั่นคง นำไปสู่ก้าวต่อไปของการพัฒนาที่ยั่งยืนได้อย่างแน่นอน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์