วันนี้ (14 ตุลาคม) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า วันนี้พรรคร่วมสังเกตการณ์ชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎรที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพราะจากการชุมนุมเมื่อวานนี้ ยังเกิดคำถามเรื่องสิทธิมนุษยชนเนื่องจากมีการจับกุมโดยไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาก่อน และมีการต่อสู้ระหว่างจับกุม และส่วนตัวได้เดินทางไปยังกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 เพื่อไปประกันตัวแกนนำและได้เจรจาตำรวจ
ทั้งนี้จากการที่ได้เข้าไปเยี่ยมแกนนำทั้ง 21 คนเมื่อวานนี้ พิธาระบุว่า ในแกนนำ 21 คน มีคนมีโรคประจำตัว 5 คน และมี 1 คนเป็นเยาวชนอายุ 17 ปี แต่ได้รับการดูแลตามความเหมาะสม โดยกลุ่ม ส.ส. ได้ยื่นประกันตัวแกนนำทั้ง 21 คนในช่วงเวลา 04.00 น. ที่ผ่านมา โดยยังไม่มีการตัดสินใจจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบถึงการปล่อยตัวแกนนำที่ถูกคุมขัง ทั้งยังเปิดเผยว่า หากไม่มีการปล่อยตัวก็จะเป็นการส่งศาล เพราะไม่ได้เป็นการกักตัวชั่วคราว 48 ชั่วโมง
ทั้งนี้หากต้องขึ้นชั้นศาลจริงๆ ส.ส. พรรคก้าวไกลพร้อมให้ความช่วยเหลือเช่นกัน ตามความหนักเบาของโทษแต่ละคน ซึ่งพรรคก้าวไกลจะเตรียมทีมทนายเข้าช่วยเหลือด้านกฎหมาย และหากวันนี้มีการจับกุมแกนนำอีกครั้ง พิธาย้ำว่า ส.ส. ก้าวไกลพร้อมช่วยเหลือทางกฎหมาย แต่ส่วนตัวยังคาดหวังจะไม่เกิดขึ้น โดยจะตั้งวอร์รูมที่พรรคก้าวไกลเพื่อตามสถานการณ์ชุมนุมด้วย
ส่วนวันนี้เป็นการประกาศการชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุม 2 ฝ่าย จึงขอเป็นกำลังใจให้ตำรวจ และหวังว่าจะเป็นตำรวจของประชาชน และจะบริหารสถานการณ์ต่างๆ ให้วันนี้ผ่านไปได้ด้วยดี ซึ่งวันนี้คาดว่า ส.ส. พรรคก้าวไกลจะร่วมชุมนุมสังเกตการณ์ในวันนี้ด้วย เพราะเป็นเอกสิทธิ์ ส.ส. ซึ่งจากการประเมินชุมนุมเมื่อวานนี้ยังไม่สามารถประมาทได้ แต่เชื่อว่าหากทุกคนมีสติรำลึกถึงเหตุการณ์ 14 ตุลาคมในอดีต จะไม่มีเหตุความรุนแรงเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว
ทั้งนี้พิธากล่าวด้วยว่า เมื่อเช้าขับรถผ่านเห็นว่ามีการประกาศชุมนุมอย่างสงบสันติ และไม่มีทางจะปะทะแน่นอน โดยฝากย้ำถึงเจ้าหน้าที่รัฐให้มีสติ และขอให้รัฐถอยเพื่อไม่ทำให้ประเทศถึงทางตัน หากได้เรียนรู้บทเรียนอะไรบางอย่าง พร้อมยอมรับกังวลเรื่องมาตรฐานการดูแลผู้ชุมนุม 2 ฝ่าย เห็นได้จากเหตุการณ์เมื่อวานนี้เปรียบเทียบกับเหตุการณ์หน้าตึกไทยซัมมิท เป็นต้น
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า