ในที่สุด อาร์เซน เวนเกอร์ ก็ได้กลับคืนสู่วงการฟุตบอลอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ เพียงแต่ไม่ใช่ในฐานะของโค้ชหรือผู้จัดการทีมไหน เพราะการกลับมาครั้งนี้ของปราชญ์ลูกหนังชาวฝรั่งเศสเป็นการเปิดตัวหนังสืออัตชีวประวัติของตัวเองเล่มใหม่ในชื่อ My Life in Red and White: My Autobiography
โดยหลังจากที่มีการแย้มเนื้อหาบางส่วนออกมาเป็นทีเซอร์ให้แฟนฟุตบอลได้ตื่นเต้นกันมาตลอด 2 สัปดาห์ ก็ได้มีงานเปิดตัวหนังสืออย่างเป็นทางการในกิจกรรมที่ชื่อ ‘An Evening with Arsene Wenger’ ณ โรงละครพาลาเดียม (Palladium) ใจกลางกรุงลอนดอน โดยมีแฟนๆ และผู้สนใจเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง
เรียกได้ว่ากระแสความนิยมในตัวของอดีตผู้จัดการทีมอาร์เซนอลในหัวใจของชาวกูนเนอร์ยังคงเหมือนเดิมไม่เสื่อมคลาย
และหนึ่งในภาพที่น่าประทับใจคือการที่มีแฟนๆ ร้องตะโกน “One Arsene Wenger” ในระหว่างที่พิธีกรกล่าวต้อนรับกุนซือในดวงใจของพวกเขา
อย่างไรก็ดี ภาพและความทรงจำที่สวยงามในวันนี้กลับนำไปสู่ปัญหาครั้งใหญ่ในอังกฤษ โดยเฉพาะต่อรัฐบาลที่ถูกตั้งคำถามจากหลายฝ่ายถึง ‘มาตรฐาน’ ของมาตรการป้องกันโควิด-19
หนึ่งในคนที่ส่งเสียงอันดังออกมาคือ เพียร์ส มอร์แกน ผู้ประกาศโทรทัศน์ชื่อดังซึ่งเป็นที่รับรู้ในวงกว้างว่าเป็นแฟนบอลอาร์เซนอลตัวยง แต่ได้โพสต์ภาพบรรยากาศในโรงละครพาลาเดียมพร้อมกับข้อความว่า
“ทำไมถึงมีคนเข้ามาเต็มโรงละครพาลาเดียมในงานของอาร์เซน เวนเกอร์ได้ แต่แฟนฟุตบอลกลับไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาชมเกมข้างนอกได้ แม้กระทั่งการนั่งชมแบบมีระยะห่างทางสังคม ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ”
How can the London Palladium be packed like this last night for an event with Arsene Wenger, but football fans aren’t allowed to watch matches outside even socially distanced?
I’m completely bemused. 👇 pic.twitter.com/updEL3KvV2— Piers Morgan (@piersmorgan) October 13, 2020
เพียร์ส มอร์แกน อดตั้งคำถามไม่ได้ว่าขณะที่งานเปิดตัวหนังสือในโรงละครมีผู้เข้าร่วมแน่นขนัด แต่การแข่งฟุตบอลกลับเปิดให้แฟนบอลเข้าไปนั่งชมบ้างไม่ได้?
เช่นเดียวกันกับ แกรี ลินิเกอร์ อดีตศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษและพิธีกรรายการฟุตบอลชื่อดัง Match of the Day ที่ผิดหวังกับสิ่งที่ได้เห็น “มันไม่มีเหตุผลเลย คุณสามารถได้ยินการพูดคุยเรื่องฟุตบอลในอารีนาในร่ม แต่คุณไม่สามารถชมเกมฟุตบอลแบบมีการจำกัดจำนวนผู้ชมได้ในสนามกลางแจ้ง”
คำถามของมอร์แกน เป็นคำถามคาใจของคนอีกมากมาย โดยเฉพาะบุคคลในวงการกีฬาที่เจ็บปวดจากการที่รัฐบาลอังกฤษปฏิเสธที่จะกดปุ่มไฟเขียวให้แฟนๆ กลับเข้ามาชมการแข่งขันในสนามได้ และทำให้วงการกีฬาได้รับความเดือดร้อนไปทั่วทุกหย่อมหญ้า ไม่ว่าจะเป็นในวงการฟุตบอล, รักบี้, แข่งม้า หรือการแข่งขันกีฬาใดๆ ก็ตาม
โดยเฉพาะในวงการฟุตบอลระดับรองจากพรีเมียร์ลีกอย่างฟุตบอลลีก (ลีกอาชีพระดับชั้นที่ 2-4) ซึ่งเวลานี้มีความกังวลว่าหากยังไม่มีแฟนบอลกลับเข้ามาชมเกมในสนามได้ อาจจะทำให้หลายสโมสรต้องถึงขั้นยุบสโมสร เพราะไม่สามารถรับมือกับปัญหาทางการเงินที่รุนแรงได้จริงๆ
เรียกได้ว่าจะตาย…กันอยู่แล้ว
ในขณะที่กิจกรรมอื่นๆ อย่างการจัดแสดงดนตรี คอนเสิร์ต หรืองานแสดงศิลปะ รวมถึงการเปิดตัวหนังสือของเวนเกอร์ ซึ่งไม่ได้จัดอยู่ในประเภทของการแข่งขันกีฬากลับสามารถจัดงานได้โดยไม่มีปัญหา
สำหรับกิจกรรมการเปิดตัวหนังสือของเวนเกอร์นั้นทางรัฐบาลและโรงละครได้มีการชี้แจงว่าได้มีการปฏิบัติตามมาตรการของรัฐบาลเกี่ยวกับการป้องกันไวรัส และการรักษาระยะห่างอย่างเคร่งครัด โดยผู้เข้าร่วมต้องปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดไว้
และสิ่งแรกที่คำนึงถึงคือความปลอดภัยของทุกคน ซึ่งทำให้มีการปรับพื้นที่นั่งในโรงละครใหม่ให้มีระยะห่างมากขึ้นด้วยตามมาตรการที่รัฐบาลกำหนด
แต่นั่นก็ไม่อาจทำให้สยบคำถามว่าแล้วบรรทัดฐานอยู่ตรงไหนกันแน่? เพราะจากภาพที่ปรากฏก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้หากจะมีคนไม่เข้าใจ
อย่างไรก็ดีสถานการณ์โรคโควิด-19 ในอังกฤษปัจจุบันกลับมาทวีความรุนแรงอีกครั้ง โดยเฉพาะในเมืองลิเวอร์พูล ซึ่งถูกจัดเข้าระดับที่ 3 (Tier 3) ซึ่งมีสัญลักษณ์สีแดงที่หมายถึงพื้นที่ที่วิกฤตที่สุด นอกจากจะเข้มงวดในเรื่องมาตรการป้องกันโรคแล้ว จะมีการสั่งปิดสถานประกอบการบางประเภท เช่น ผับหรือบาร์
นั่นทำให้แม้จะมีความพยายามในการเรียกร้องให้แฟนฟุตบอลกลับเข้ามาชมเกมในสนามอีกครั้ง แต่สถานการณ์ที่เป็นจริงดูจะไม่เอื้ออำนวยแต่อย่างใด เนื่องจากการเปิดให้แฟนบอลเข้าชมเกมหมายถึงการที่แฟนบอลจะต้องเดินทางเป็นจำนวนมากในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้พฤติกรรมในการเชียร์ในสนามยังหมายถึงความเสี่ยงที่จะมีการแพร่เชื้อผ่านทางน้ำลายหรือละอองขนาดเล็กอีกด้วย
ความหวังของแฟนกีฬาโดยเฉพาะแฟนฟุตบอลอังกฤษที่จะกลับเข้าสู่สนามอีกครั้งจึงต้องรอคอยต่อไปก่อน
ไม่น่าใช่ในเร็วๆ นี้ และบางทีอาจจะนานกว่าที่คิดหากสถานการณ์การระบาดยังดำเนินไปแบบนี้
โดยที่ปราชญ์ลูกหนังอย่างเวนเกอร์เองก็ไม่อาจช่วยอะไรได้ เพราะมันเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องช่วยกัน ไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- www.telegraph.co.uk/football/2020/10/13/anger-crowd-ban-sport-grows-arsene-wenger-performs-packed-london/
- www.esquire.com/uk/culture/books/a34346876/arsene-wenger-life-in-red-and-white-insights/
- ในหนังสือเวนเกอร์ได้เปิดเผยว่าสมัยเด็กๆ เขาเป็นแฟนบอลทีมเรอัล มาดริด
- แต่เขาอาจจะเป็นไม่กี่คนในโลกที่ปฏิเสธโอกาสในการคุมทีม ‘ราชันชุดขาว’ ถึง 2 ครั้ง ไม่นับทีมชั้นนำอื่นๆ อย่าง ยูเวนตุส, เปแอสเช, ทีมชาติฝรั่งเศส, ทีมชาติญี่ปุ่น และทีมชาติอังกฤษ!
- เมื่อครั้งที่อาร์เซนอลกู้ยืมเงินมาเพื่อสร้างสนามใหม่ เอมิเรตส์สเตเดียม (ชื่อเดิมแอชเบอร์ตันโกรฟ) หนึ่งในเงื่อนไขที่ธนาคารผู้ปล่อยกู้ระบุเอาไว้คือ เวนเกอร์จะต้องอยู่คุมทีมอาร์เซนอลต่อไปอีกอย่างน้อย 5 ปี