×

แอลเอ เลเกอร์ส vs. ไมอามี ฮีต: ศึก NBA Finals 2020 เมื่อทีมซูเปอร์สตาร์พบกับทีมดาวรุ่งที่ตอนนี้ต้องการชัยชนะเท่านั้น

30.09.2020
  • LOADING...
แอลเอ เลเกอร์ส vs.ไมอามี ฮีต ศึก NBA Finals 2020

HIGHLIGHTS

5 mins read
  • NBA FInals 2020 เป็นการพบกันระหว่างไมอามี ฮีต กับ แอลเอ เลเกอร์ส 
  • นับเป็นการกลับมาพบกันระหว่าง เลอบรอน เจมส์ กับทีมที่แยกทางกับเขาเมื่อปี 2014 
  • ไมอามี ฮีต แม้จะไม่สามารถหาสตาร์ระดับเดียวกับเจมส์มาทดแทนได้ แต่ด้วยดาวรุ่งอย่าง ไทเลอร์ ฮีโร, แบม อเดบาโย และ ดันแคน โรบินสัน ที่มาพร้อมกับความมั่นใจเหนืออายุ ด้วย Mindset ที่จะต้องชนะตอนนี้เท่านั้น 
  • ฝั่ง เลอบรอน เจมส์ ยังคงเป็นฝ่ายที่ดูเหนือกว่าในการเตรียมลงแข่ง NBA Finals ครั้งที่ 10 ในชีวิตของเขา และอยู่ห่างจากการคว้าแชมป์สมัยที่ 4 เพียงแค่ชัยชนะอีก 4 เกมเท่านั้น 

เช้าวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ตามเวลาประเทศไทย จะเป็นการแข่งขันเกมแรกของ NBA Finals ซีรีส์ประจำปี 2020 โดยปีนี้เป็นการพบกันระหว่างแอลเอ เลเกอร์ส ทีมมือหนึ่งของสายตะวันตก พบกับไมอามี ฮีต ทีมอันดับที่ 5 จากฝั่งตะวันออก 

 

โดยการพบกันครั้งนี้เป็นการโคจรมาพบกันระหว่าง เลอบรอน เจมส์ ที่พาทีมเลเกอร์สเข้าชิงฯ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2010 พบกับไมอามี ฮีต ทีมที่เขาจากลามาเมื่อปี 2014 และเป็นการกลับสู่ NBA Finals เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เจมส์ย้ายออกจากทีม 

 

ก่อนที่ศึก NBA Finals 2020 จะเริ่มต้นขึ้น THE STANDARD จะพาไปค้นหาสิ่งที่น่าติดตาม ก่อนที่กรรมการจะโยนลูกบาสลอยขึ้นสู่อากาศในเช้าวันพฤหัสบดีนี้ 

 

เลอบรอน เจมส์ และ แอนโทนี เดวิส พบกับดาวรุ่งที่ประมาทไม่ได้ของไมอามี ฮีต 

 

แอลเอ-เลเกอร์ส vs. ไมอามี ฮีตศึก NBA Finals 2020 เมื่อทีมซูเปอร์สตาร์พบกับทีมดาวรุ่ง

 

แม้ว่าหลายสื่อในอเมริกาจะให้ฝั่งของพวกเขาเหนือกว่าด้วยรายชื่อของซูเปอร์สตาร์ อย่าง เลอบรอน เจมส์ ผู้ที่มีโอกาสเป็น MVP อันดับที่ 1 จากการจัดอันดับของบริษัทรับพนันอย่างถูกกฎหมายในอเมริกา​ และ แอนโทนี เดวิส ที่ถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 2 

 

ส่วนในอันดับที่ 3 และ 4 คือ จิมมี บัตเลอร์ และ แบม อเดบาโย จากไมอามี ฮีต แต่คนที่เป็นที่พูดถึงมากที่สุดจากเกมที่ไมอามีเอาชนะบอสตัน เซลติกส์ ได้ในรอบชิงแชมป์สายที่ผ่านมาคือ ไทเลอร์ ฮีโร ชูตติ้งการ์ดวัย 20 ปี ที่โชว์ฟอร์มและความมั่นใจได้เหนือตัวเลขอายุของเขามาก 

 

โดยทางบทวิเคราะห์ของ NBA เกี่ยวกับศึก Finals ในปีนี้ระบุว่า 

 

“ไมอามี ฮีต ฝ่าฟันเส้นทางที่เรียกได้ว่ายากลำบากกว่าเลเกอร์ส ด้วยการเอาชนะมิลวอกี้ บักส์ และเซลติกส์ โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความมั่นใจของดาวรุ่ง โดยพวกเขาพึ่งพาความสามารถของ ไทเลอร์ ฮีโร, แบม อเดบาโย และ ดันแคน โรบินสัน ซึ่งทั้งสามไม่เคยเกรงกลัวต่อแรงกดดันที่เกิดขึ้นในสนาม 

 

“แทนที่พวกเขาจะยอมรับว่าพวกเขาต้องรอคอยที่จะเติบโตขึ้นไปเป็นนักกีฬาที่ยิ่งใหญ่ กลับกัน Mindset ของฮีตในตอนนี้คือต้องชนะตอนนี้เท่านั้น 

 

“ซึ่งเป็น Mindset ที่เป็นประโยชน์อย่างมากต่อไมอามีในซีรีส์นี้ ที่พวกเขาไม่สามารถต่อกรกับเลเกอร์สได้ หากวัดกันที่ศักยภาพของนักกีฬาภายในทีมแบบตัวต่อตัว” 

 

ไมอามี ฮีต ยุคหลัง เลอบรอน เจมส์ vs. แอลเอ เลเกอร์ส ยุคหลัง โคบี ไบรอันต์ 

 

แอลเอ เลเกอร์ส vs.ไมอามี ฮีตศึก NBA Finals 2020 เมื่อทีมซูเปอร์สตาร์พบกับทีมดาวรุ่ง2

 

สิ่งหนึ่งที่ทั้งสองทีมมีเหมือนกันในการโคจรมาพบกับในศึก NBA Finals ครั้งนี้คือ การเข้าสู่รอบชิงฯ ครั้งแรกนับตั้งแต่สตาร์ดังของทั้งสองทีมย้ายออก หรือเกษียณตัวออกจากทีม จนเรียกได้ว่ายุติ Dynasty หรือยุคสมัย ที่พวกเขาร่วมสร้างด้วยกันมา 

 

เริ่มจากฝั่งของเลเกอร์ส ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาสามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงฯ ศึก NBA Finals ได้คือเมื่อปี 2010 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเขาสามารถคว้าแชมป์ได้สำเร็จ จากการที่ โคบี ไบรอันต์ พาทีมเอาชนะเซลติกส์ไป 4-3 เกม ก่อนที่เขาจะเกษียณจากทีมในปี 2016 ด้วยผลงานแชมป์ 5 สมัยกับเลเกอร์ส 

 

ซึ่งการเข้าสู่จุดจบของ Dynasty ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของอเมริกันเกม เพราะทุกการสิ้นสุดคือจุดเริ่มต้นสิ่งใหม่เสมอ และนั่นคือช่วงเวลาที่ไมอามี ฮีต ของ เลอบรอน เจมส์ เริ่มก้าวเข้าสู่ยุคสมัย Big 3 ระหว่างปี 2011-2014 

 

ในช่วงเวลานั้นไมอามี ฮีต เข้าชิงฯ ศึก NBA Finals 4 ปีติดต่อกัน และสามารถคว้าแชมป์ 2 สมัยติดต่อกันได้สำเร็จในปี 2012 และ 2013 ด้วยนักกีฬา 3 คนที่กลายเป็นตำนานที่มีชื่อว่า Big 3 ที่ประกอบไปด้วย เลอบรอน เจมส์, ดเวน เวด และ คริส บอช 

 

แต่หลังจากที่พวกเขาแพ้ในรอบชิงฯ ปี 2014 ยุคสมัยของ Big 3 ก็จบลง ด้วยการที่เจมส์ย้ายไปร่วมทีมคลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ และ 2 ปีถัดมา ดเวนย้ายไปร่วมทีมชิคาโก บูลส์ และคริสก็เกษียณด้วยเหตุผลทางการแพทย์ 

 

ปี 2018 หลังจากที่เจมส์ย้ายมาร่วมทีม จึงเปรียบเสมือนการจุดประกายความหวังให้แฟนเลเกอร์สหวนคือสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง และในปีที่ 2 เขาก็สามารถพาทีมเข้าสู่รอบชิงฯ ได้สำเร็จ 

 

โดยเป็นการโคจรมาพบกับเงาแห่งความสำเร็จในอดีตที่มีชื่อว่าไมอามี ฮีต ที่เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ในวันที่เจมส์ย้ายออกจากทีม และตั้งเป้าจะเริ่มต้นยุคสมัยใหม่ด้วยการเอาชนะผู้ที่ร่วมสร้าง Dynasty 

 

ประวัติศาสตร์ที่รอคอย เลอบรอน เจมส์ หลังจากที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงฯ NBA ได้เป็นสมัยที่ 10 

 

แอลเอ เลเกอร์ส vs.ไมอามี ฮีตศึก NBA Finals 2020 เมื่อทีมซูเปอร์สตาร์พบกับทีมดาวรุ่ง 3

 

แน่นอน เป้าหมายหลักของ เลอบรอน เจมส์ คือการชูถ้วยแชมป์เป็นสมัยที่ 4 แต่นอกเหนือจากการคว้าแชมป์ในปีนี้ ยังมีสถิติอีกมากที่รอคอยให้เขาทำลาย หากเลเกอร์สสามารถเก็บชัยชนะได้ 4 เกมใน NBA Finals ปีนี้ 

 

คิงเจมส์ในวัย 35 ปี และการลงแข่งขันฤดูกาลที่ 17 ในอาชีพของเขา เขาสามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงฯ ได้เป็นครั้งที่ 10 ในชีวิต โดยนับเป็นนักบาสเกตบอลคนที่ 4 ที่สามารถทำได้ต่อจาก คารีม อับดุล จับบาร์ กับ บิลล์ รัสเซลล์ ที่เข้าชิงฯ มา 12 ครั้ง และ แซม โจนส์ 11 ครั้ง 

 

โดยในปีนี้หากเขาสามารถคว้าแชมป์ NBA และคว้ารางวัล MVP ผู้เล่นทรงคุณค่าในรอบชิงฯ​ มาได้ เหมือนกับที่เขาทำมา 3 ครั้งที่ผ่านมา เขาจะกลายเป็นนักกีฬาคนแรกในประวัติศาสตร์ของ NBA ที่คว้าแชมป์ NBA และคว้ารางวัล MVP ผู้เล่นทรงคุณค่าในรอบชิงฯ ได้จากการลงเล่นให้ทั้งหมด 3 ทีม 

 

โดยก่อนหน้านี้มีเพียง คารีม อับดุล จับบาร์ และ คาไว เลียวนาร์ด ที่สามารถทำได้กับ 2 ทีม 

 

นอกจากนี้เขายังจะกลายเป็นนักกีฬาคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ของ NBA ที่สามารถคว้าแชมป์จากทีมที่ 3 ที่เขาลงเล่นต่อจาก จอห์น ซัลลีย์ (พิสตัน, บูลส์ และเลเกอร์ส) และ โรเบิร์ต ฮอร์รี (ร็อกเกตส์, สเปอร์ และเลเกอร์ส) 

 

คีย์แบตเทิลสำคัญที่จะเป็นตัวตัดสินผู้ชนะในซีรีส์ 

 

แอลเอ เลเกอร์ส vs.ไมอามี ฮีตศึก NBA Finals 2020 เมื่อทีมซูเปอร์สตาร์พบกับทีมดาวรุ่ง 4

 

ก่อนหน้านี้เราได้พูดถึงศักยภาพดาวรุ่งของไมอามี ฮีต ไปบ้างแล้ว แต่ทีมชุดนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ดาวรุ่งที่จะมาสร้างความเปลี่ยนแปลง แต่มีผู้เล่นที่มีประสบการณ์สูงอย่าง อังเดร อิกัวดาลา ซึ่งเป็นหนึ่งในสองสมาชิกของไมอามี ฮีต ชุดนี้ที่ผ่านการเล่นในรอบชิงฯ มาแล้ว 

 

โดยนี่จะเป็นการเข้าชิงฯ ศึก NBA Finals ปีที่ 6 ติดต่อกันของเขา และจะเป็นปีที่ 5 ที่เขาพบกับ เลอบรอน เจมส์ ในรอบชิงฯ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาได้พบเจอกันในสีเสื้อของโกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส 

 

ขณะที่ แบม อเดบาโย เซ็นเตอร์ของไมอามี ถือเป็นคีย์แมนสำคัญที่เลเกอร์สต้องหาทางป้องกัน ด้วยความแข็งแกร่งและความเร็วที่เขามี และจากผลงานในเกมที่เอาชนะเซลติกส์มาในรอบชิงแชมป์สาย เกมที่ 6 ด้วยการทำ 32 คะแนน และ 14 รีบาวด์ อเดบาโยจะเป็นอีกหนึ่ง X Factor ที่เลเกอร์สละเลยไม่ได้ 

 

ฝั่งของเลเกอร์ส หัวใจสำคัญอยู่ที่การประสานงานของเจมส์และแอนโทนีด้วยดีกรี และความสำเร็จที่พวกเขาผ่านมา รวมทั้งการผ่านเข้าสู่รอบชิงฯ ในฐานะอันดับ 1 ของสาย แชมป์ในปีนี้ขึ้นอยู่กับพวกเขาว่าจะสามารถทำได้ตามที่ทีมและแฟนกีฬาเลเกอร์สคาดหวังหรือไม่ 

 

สำหรับการแข่งขัน NBA Finals เกมแรกจะแข่งขันกันในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ เวลา 08.00 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยจะแข่งขันแบบวันเว้นวันไปอย่างน้อย 4 เกมภายใต้บรรยากาศที่แตกต่างจากปกติ เนื่องจากเขาต้องแข่งขันกันใน Bubble ที่ดิสนีย์เวิลด์ รัฐฟลอริดา เนื่องจากวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง: 

 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X