เกาะติดชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร
00.10 น. รุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ขึ้นปราศรัยบนเวที โดยยืนยันถึงข้อเรียกร้อง 10 ข้อ พร้อมกล่าวถึงเหตุผลที่จำเป็นต้องมีการทำตามข้อเรียกร้องดังกล่าว เพื่อปฏิรูปสถาบันให้อยู่คู่กับสังคมไทย พร้อมยืนยันจุดยืนว่า คนทุกคนต้องเท่าเทียมกันและอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน
23.55 น. มีการเปิดคลิปวิดีโอที่ด้านหน้าเวที ประกอบบทเพลง ความฝันอันสูงสุด ที่มีเนื้อหากล่าวถึงการต่อสู้ของบุคคลและองค์กรเพื่อต่อต้านเผด็จการและแสวงหาประชาธิปไตย อาทิ นวมทอง ไพรวัลย์ กลุ่ม นปช. และเหตุการณ์สูญเสียทางการเมือง ระหว่างนั้นประชาชนได้ร่วมกันชูสามนิ้วด้วย
23.10 น. อานนท์เปิดเผยว่า พรุ่งนี้ (20 กันยายน) จะมีพิธีปักหมุดคณะราษฎรหมุดที่สอง ซึ่งถูกหล่อด้วยทองเหลืองขนาด 11 นิ้ว พร้อมกล่าวว่า “คณะราษฎร 2563 ได้ก่อเกิดอย่างเป็นทางการที่สนามราษฎรแห่งนี้แล้ว”
ทนายอานนท์ปราศรัย 19 ก.ย. เสนอ 10 ข้อเรียกร้อง เพราะอยากเห็นสถาบันอยู่คู่กับสังคมไทย
22.53 น. อานนท์ นำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ขึ้นปราศรัยเวที 19 กันยายน ที่ท้องสนามหลวง ระบุถึงการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ให้อยู่เหนือการเมืองและอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ
พร้อมเปิดเผยว่า การปฏิรูปสามารถทำได้ผ่านระบบรัฐสภา โดยได้คุยกับ เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ เบื้องต้นว่า จะรวบรวมรายชื่อเพื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมยกเลิกกฎหมายที่ขยายพระราชอำนาจจนเกินระบอบประชาธิปไตย และยืนยันว่า จะพูดถึงเรื่องสถาบัน แม้ต้องติดคุกก็ยอม
อานนท์ยืนยันว่า ข้อเสนอ 10 ข้อ และ 1 ความฝัน ไม่มีอื่นใดนอกจากอยากเห็นสถาบันอยู่คู่กับสังคมไทยอย่างแท้จริง ไม่มีใครเหนือกว่าใคร และทุกคนอยู่ใต้กฎหมายเดียวกัน
เกาะติดชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร
22.00 น. วาดดาว-ชุมาพร แต่งเกลี้ยง นักกิจกรรมเพื่อความหลากหลายทางเพศ ขึ้นเวทีปราศรัยเรียกร้องในประเด็นความเท่าเทียมทางเพศที่กล่าวถึงการตอกย้ำและแบ่งแยกเพศสภาพ โดยเล่าผ่าน ‘จดหมายจากร่างกายของเรา’ ที่ร่างจากกลุ่มผู้ที่เชื่อในความเป็นธรรมทางเพศที่ไม่เปิดเผยรายชื่อ
เนื้อหาสาระกล่าวถึงประเด็นการถูกกระทำของผู้หญิง โดยที่ร่างกายของผู้หญิงถูกคุกคามจากการกระทำในบริบทต่างๆ จากสังคมชายเป็นใหญ่
รวมถึงเพศสภาพทั้งหญิง ชาย และเพศหลากหลาย ที่ถูกกดขี่ภายใต้โครงสร้างสังคมที่ไม่เป็นธรรมทางเพศ โดยเรียกร้องให้เกิดความเท่าเทียมในการใช้ชีวิตร่วมกัน และยกเลิกโครงสร้างชายเป็นใหญ่
หมู่อาร์มเรียกร้องปฏิรูปกองทัพ สะท้อนปัญหาทหารเกณฑ์เสียชีวิตจำนวนมาก
ส.อ. ณรงค์ชัย อินทรกวี หรือหมู่อาร์ม ขึ้นปราศรัยเกี่ยวกับการปฏิรูปกองทัพ เรียกร้องให้รัฐบาลจ่ายสิทธิสวัสดิการให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ และนำเสนอปัญหาที่มีทหารเกณฑ์จำนวนมากที่ต้องเสียชีวิตด้วยการทารุณกรรมหรือการธำรงวินัยเกินกว่าเหตุและไม่สามารถตรวจสอบได้
ทั้งนี้ หมู่อาร์มยังฝากคำขอร้องไปถึงทหารและตำรวจว่า จงยืนเด่นโดยท้าทายเคียงข้างประชาชน และอย่าทำร้ายประชาชนอีก รวมทั้งยังกล่าวถึง IO ที่โปรดจงให้ความจริงกับประชาชน และยังบอกว่าจะสู้จนกว่าทุกคนจะเท่าเทียมกัน
เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเกี่ยวกับการชุมนุมในวันนี้และพรุ่งนี้ว่า
- พรุ่งนี้จะเดินไปทำเนียบฯ โดยใช้ถนนราชดำเนินกลาง
- การชุมนุมจะมีโอกาสเพิ่มจำนวนวันหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการประเมินสถานการณ์
- ทุกอย่างที่ทำล้วนทำด้วยสันติวิธี ยืนยันว่า ตนเองไม่ได้มีอาวุธใดๆ ทั้งสิ้น
- ยืนยันถึงข้อเรียกร้อง 10 ข้อ
สำหรับกรณีที่เจ้าหน้าที่ให้ยุติการชุมนุม พริษฐ์ตั้งคำถามว่า จะให้ยุติด้วยเหตุผลอะไร หากทำด้วยสันติวิธี
ส่วนเรื่องการตัดโซ่กุญแจประตูมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พริษฐ์ถามกลับว่า แล้วมีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียหายจากการตัดโซ่กุญแจหรือไม่?
21.43 น. เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ ให้สัมภาษณ์หลังเวทีการชุมนุมระบุว่า การชุมนุมในวันพรุ่งนี้ (20 กันยายน) ให้รอจับตาเซอร์ไพรส์ในเวลา 06.00 น. และบิ๊กเซอร์ไพรส์ในเวลา 08.00 น.
21.11 น. รุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน หลังการทำกิจกรรมบนเวทีปราศรัย ผ่านมาแล้วกว่า 5 ชั่วโมงว่า ภาพรวมจนถึงตอนนี้ ที่คนมาเข้าร่วมชุมนุมฟังการปราศรัย มากมาย สะท้อนว่ามีคนเห็นด้วย กับ ข้อเรียกร้อง 10 ข้อ
ขอให้จับตาดู ไฮไลท์ บนเวทีตั้งแต่ 21.30 เป็นต้นไป พร้อมย้ำมีกลยุทธดึงผู้ชุมนุมให้อยู่ร่วมกันที่สนามหลวงจนเช้า
ส่วนกิจกรรมตอนเช้าวันพรุ่งนี้ (20 กันยายน) จะเคลื่อนขบวน จากสนามหลวง ในเวลา 08.00 เพื่อไปทำเนียบรัฐบาล ซึ่งทางแกนนำประเมินว่า คงมีประทะกับตำรวจ แต่คงไม่รุนแรง และไม่คิดว่า ตำรวจจะถึงขั้นใช้แก๊สน้ำตา ยืนยันว่าไปให้ถึง ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้น
BREAKING: ตำรวจร้องศาลแพ่ง ขอให้มีคำสั่งให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่สนามหลวง ยืนยัน ไม่ใช้กำลังสลายการชุมนุม
วันนี้ (19 กันยายน) พล.ต.ต ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงสรุปผลการปฏิบัติงานและความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ ตลอดทั้งวัน ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการปิดเส้นทางการจราจรรวมทั้งสิ้น 8 เส้นทาง ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ได้แก่
- เชิงสะพานพระปิ่นเกล้า
- ถนนราชดำเนินใน
- ถนนสนามไชย
- แยกจปร.
- ถนนท้ายวัง
- ถนนมหาราช
- ถนนท่าพระจันทร์
- ถนนหน้าพระธาตุ
- ถนนหน้าพระลาน
โดยปิดการจราจรเพื่อให้กระทบกับผู้ใช้รถใช้ถนนน้อยที่สุด พร้อมยืนยันว่า หลังจากนี้จะไม่มีการปิดเส้นทางการจราจรเพิ่ม และในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้จะเปิดการจราจรตามปกติ
ส่วนกรณีที่ผู้ชุมนุมทำลายรั้วเหล็กรอบพื้นที่สนามหลวงเพื่อเข้าไปภายในพื้นที่ พล.ต.ต. ปิยะ กล่าวว่า เป็นการชุมนุมโดยมิชอบด้วยกฎหมายและไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากช่วงเวลาที่ผู้ชุมนุมฝ่าเข้าไปเป็นช่วงที่สนามหลวงเปิดทำการเพื่อสาธารณประโยชน์ ซึ่งขณะนี้ฝ่ายกฎหมายของ กรุงเทพมหานครได้พิจารณาองค์ประกอบข้อกฎหมายและพฤติการณ์ของคดี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน พ.ต.อ. กฤษณะ กล่าวว่า นอกจากการชุมนุมไม่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อ่านหนังสือคำสั่งให้มวลชนยุติการชุมนุมเวลา 16.00 น. แต่ได้รับการเพิกเฉยจากกลุ่มผู้ชุมนุม ล่าสุดตำรวจได้ไปร้องศาลแพ่ง ขอให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่แล้ว แต่เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ จึงทำได้แค่ลงบันทึกประจำวันที่ สน.พหลโยธิน
ขณะที่การเตรียมความพร้อมของตำรวจในวันรุ่งขึ้นยังไม่สามารถบอกได้ เนื่องจากต้องรอการติดตามสถานการณ์การชุมนุมตลอดทั้งคืนอย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดกำลังดูแลพื้นที่รวม 3 โซน ได้แก่ พื้นที่รอบธรรมศาสตร์ใช้กำลังรวมทั้งสิ้น 21 กองร้อย ถนนราชดำเนินกลางตั้งแต่แยกสะพานผ่านพิภพจนถึงแยก จปร. ใช้กำลังรวมทั้งสิ้น 6 กองร้อย และถนนราชดำเนินกลางตั้งแต่แยก จปร. สะพานมัฆวานรังสรรค์ไปจนถึงถนนราชดำเนินนอกหรือบริเวณหน้าพระรูปทรงม้าใช้กำลังรวมทั้งสิ้น 6 กองร้อย ส่วนยอดผู้ชุมนุมจากการประเมินของตำรวจขณะนี้มีทั้งสิ้น 18,000 คน
สำหรับกระแสข่าวที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัว อานนท์ นำภา หนึ่งในแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม พล.ต.ต. ปิยะ ยืนยันว่า ยังไม่มีการรวบแกนนำแต่อย่างใด
โจชัว หว่อง ทวีตสนับสนุนชุมนุมธรรมศาสตร์ ชี้คนไทยกำลังสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้ง
20.12 น. โจชัว หว่อง แกนนำเรียกร้องประชาธิปไตย และตัวแทนกลุ่มคนรุ่นใหม่ในฮ่องกง ทวีตข้อความสนับสนุนการชุมนุมของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมในประเทศไทยว่า
“แม้ว่าฝนจะตกหนัก แต่คนไทยหลายหมื่นคนก็ได้จัดการชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2014 ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและอนาคตของพวกเขาในวันนี้ เห็นได้ชัดว่าด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่ลดละต่อที่ที่พวกเขารัก ประชาชนผู้กล้าในประเทศไทยกำลังสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้ง
“ผมรู้สึกสะเทือนใจกับสิ่งที่ผู้หญิงวัย 68 ปี พูดว่า ‘ฉันมาที่นี่เพื่อต่อสู้เพื่ออนาคตของลูกหลาน ฉันหวังว่าเมื่อฉันตาย พวกเขาจะกลายเป็นอิสระ’ เพื่อประชาธิปไตยของเรา #หัวใจของชาวฮ่องกงจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร”
19.59 น. ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ โดยขอให้ พล.อ. ประยุทธ์ รับฟังข้อเรียกร้อง มีความจริงใจ และสามารถที่จะแก้ปัญหาการเมืองไปพร้อมๆ กับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาอื่นๆ ได้
19.33 น. ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า เดินทางมาถึงสนามหลวง ร่วมชุมนุมกับแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม
19.22 น. รถห้องน้ำที่นำมาให้บริการประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมขณะนี้เต็มแล้ว 2 คัน ใช้ได้เพียงคันเดียว ทำให้มวลชนต้องต่อแถวยาวพอสมควร
19.10 น. แอมมี่ The Bottom Blues และไผ่ ดาวดิน ขึ้นเวทีแสดง โดยเริ่มต้นด้วยการเชิญชวนทุกคนร้องเพลงชาติ พร้อมกับชู 3 นิ้ว จากนั้นก็เล่นเพลง ‘เพื่อมวลชน’
เมื่อเวลา 18.20 น. ซูฮัยมิน ลือแบซา นศ.ม.อ.ปัตตานี สมาชิก สนท.ภาคใต้ ขึ้นปราศรัยระบุว่า จังหวัดชายแดนภาคใต้คือพื้นที่ตกร่องการพัฒนา โดยเฉพาะในช่วงรัฐบาลของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมเผยความฝันคือ การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
เวลา 18.50 น. “ถ้าไม่มี ส.ว. เลือกตั้งชาตินี้ พล.อ. ประยุทธ์ ก็ไม่มีวันได้เป็นนายกฯ” ธานี สะสม กล่าวภายหลังปราศรัยถึงที่มาของ 250 ส.ว. ที่ธานีระบุว่า นี่คือสิ่งเดียวที่ทำให้ พล.อ. ประยุทธ์ ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
18.42 น. ธานี สะสม ตัวแทนกลุ่มคนเสื้อแดง ปราศรัยกล่าวถึงการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ตนไม่เคยเห็นเด็กนักเรียนออกมาต่อสู้จนกระทั่งครั้งนี้ และยังกล่าวถึงปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นภายหลังการรัฐประหาร ปี 2557
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ย้ำว่า ส.ส. พรรคก้าวไกลจะมาติดตามดูแลการชุมนุมปกป้องสิทธิเสรีภาพการชุมนุมของประชาชน และรับพลังก่อนจะร่วมประชุมรัฐสภา วาระญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 6 ญัตติ ในวันที่ 23-24 กันยายนนี้
เวลา 18.20 น. ซูฮัยมิน ลือแบซา นักศึกษา ม.อ.ปัตตานี สมาชิก สนท.ภาคใต้ ขึ้นปราศรัยระบุว่า จังหวัดชายแดนภาคใต้คือพื้นที่ตกร่องการพัฒนา โดยเฉพาะในช่วงรัฐบาลของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมทั้งเผยความฝันของตนเองคือ การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
17.39 น. ปิยบุตร แสงกนกกุล เดินทางมาร่วมชุมนุม พร้อมลงชื่อแก้รัฐธรรมนูญที่บูธ iLaw บริเวณข้างศาลพระแม่ธรณีบีบมวยผม ริมสนามหลวงด้านโรงแรมรัตนโกสินทร์ ขณะที่มีผู้ชุมนุมเข้ามาขอถ่ายภาพเป็นจำนวนมาก
รองโฆษก ตร. ยืนยันไม่มีการจับกุม 4 นักศึกษาที่ สภ.คลองหลวง ตามที่มีปรากฏในสื่อออนไลน์
วันนี้ (19 กันยายน) พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่มีการโพสต์ข้อความลงในสื่อโซเชียลมีเดียว่ามีการจับกุมตัวนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในเขตพื้นที่ สภ.คลองหลวง จังหวัดปทุมธานี จำนวน 4 คน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 นั้น
ขอเรียนชี้แจงในประเด็นดังกล่าวว่า ได้รับรายงานจาก สภ.คลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ว่ายังไม่ได้มีการจับกุมตัวนักศึกษาตามที่มีการกล่าวอ้างเเต่อย่างใด เป็นเพียงข่าวลวงที่ออกมาทำให้ประชาชนเกิดความสับสน
ทั้งนี้ขอให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูลให้ดีเสียก่อนทำการโพสต์หรือแชร์ข้อมูลต่างๆ โดยให้รับฟังข้อมูลข่าวสารจากทางราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น
17.28 น. มวลชนปักหลักหน้าเวทีอย่างต่อเนื่องเพื่อรอฟังการปราศรัยจากแกนนำ โดยขณะนี้ได้เริ่มทดสอบเครื่องเสียงที่ทยอยติดตั้งตั้งแต่ช่วงบ่าย
17.19 น.
มวลชนปักหลักฟังปราศรัยบนเวทีบริเวณท้องสนามหลวง โดยบนเวทีปราศรัย รุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หัวหน้ากลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมประกาศว่า อีกสักครู่เวทีปราศรัยจะพร้อมแล้ว ขณะเดียวกันทีมงานได้พับเก็บรั้วสีเขียวที่ล้อมอยู่บริเวณรอบสนามหลวง เพื่อให้มวลชนสามารถเดินทางเข้า-ออกได้อย่างสะดวกมากขึ้น
ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงผู้ชุมนุมคือความปลอดภัย ยิ่งเห็นข่าวมีคนบุกไปทำร้ายแกนนำผู้ชุมนุมก็ค่อนข้างเป็นห่วง ขอเรียกร้องเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานให้ดูแลความปลอดภัยของผู้ชุมนุมในระดับเข้มข้น เพื่อป้องกันกลุ่มคนที่อาจต้องการสร้างสถานการณ์
ราเมศกล่าวต่อว่า จากการที่เกิดเหตุการณ์ที่ประตูทางเข้าออกมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่า แม้ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่เชื่อว่าการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่จะตรงไปตรงมา และอยากให้ทั้งผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติอยู่ในกรอบของกฎหมายบ้านเมือง
16.52 น. รถปราศรัยเคลื่อนที่กลับมารวมกับเวทีใหญ่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้นำรถเข้าไปฝ่าแนวกั้นเพื่อนำมวลชนยึดสนามหลวงฝั่งหน้าศาลฎีกา
ช่อ-พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า กล่าวว่า มาร่วมชุมนุมวันนี้ในฐานะประชาชน และคาดหวังว่าประชาชนจะเป็นพลังที่ไม่มีใครขวางกั้นได้ พร้อมขอให้รับฟังเสียงประชาชน เชื่อว่าการชุมนุมครั้งนี้จะส่งสัญญาณให้รัฐบาลและรัฐสภา
16.39 น.
กลุ่มผู้จัดการชุมนุมขอความร่วมมือผู้ชุมนุมถอยร่นกลับมาให้ห่างจากแนวกั้นของตำรวจที่ตรึงกำลังอยู่อย่างน้อย 150 เมตร โดยบริเวณแนวกั้นมีการติดข้อกฎหมายมาตรา 7 วรรค 1 ที่ระบุว่า การจัดชุมนุมสาธารณะในรัศมี 150 เมตรจากพระบรมมหาราชวัง พระราชวัง ฯลฯ จะกระทำมิได้ และมาตรา 27 หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ
16.35 น.
เจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มทยอยวางกำลังในพื้นที่สนามหลวง ขณะเดียวกันยังมีการเคลื่อนขบวนรถบรรทุกน้ำหลายคันมาจอดบริเวณรอบพื้นที่
เจ้าหน้าที่ตำรวจขอผู้ชุมนุมให้ยุติการชุมนุมภายใน 1 ชั่วโมง หวั่นการระบาดโควิด-19
15.10 น. ท่ามกลางการชุมนุมของประชาชนที่เคลื่อนตัวจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มายังสนามหลวง ตำรวจจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ตรงมาหากลุ่มมวลชน พร้อมประกาศขอให้ยุติการชุมนุมภายใน 1 ชั่วโมง พร้อมให้เหตุผลเรื่องความอันตรายการระบาดของโรคโควิด-19
“การชุมนุมจะต้องระมัดระวังเรื่องโควิด-19 โดยต้องมีมาตรการเว้นระยะห่างเพื่อความปลอดภัยของทุกคน, ผมเข้าใจน้องๆ ที่มาชุมนุม แต่เราจะทำตามกรอบกฎหมายที่ให้ไว้ตามพระราชบัญญัติการชุมนุมและเรื่องเกี่ยวกับสาธารณสุขเท่านั้น”
16.29 น.
บรรยากาศที่ท้องสนามหลวงขณะนี้ ระหว่างรอแกนนำและทีมงานจัดตั้งเวที มีผู้ชุมนุมบางคนเริ่มนำว่าวมาเล่นบริเวณสนามหลวง ฝั่งหน้าศาลฎีกา
16.00 น.
เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำการชุมนุมประกาศบนรถปราศรัยบริเวณสนามหลวงว่า “พรุ่งนี้ประเทศไทยจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เรามามือเปล่า ไม่มีอาวุธ” พร้อมขอให้มวลชนยกมือขึ้นพร้อมกัน
15.52 น. บรรยากาศมวลชนหลังจากเริ่มเดินทางมาปักหลักบนพื้นที่ท้องสนามหลวง ท่ามกลางฝนที่ยังโปรยปรายลงมา ประชาชนต่างพกพาเสื้อกันฝนและร่มมากันอย่างหนาตา
ตำรวจนครบาลสั่งปิด 5 เส้นทางรอบพื้นที่ชุมนุมตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป ประกอบด้วยถนนพระอาทิตย์ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า, แยกผ่านพิภพ, สะพานช้างโรงสี, วงเวียน รด., แยกท่าเตียน
นอกจากนี้กองสารนิเทศตำรวจ ยังเปิดเผยเส้นทางที่ควรหลีกเลี่ยง และเส้นทางแนะนำอีกด้วย
15.25 น. รถปราศรัยของแกนนำเคลื่อนนำมวลชนออกจาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ มุ่งปักหลักที่ท้องสนามหลวง
ภาพบรรยากาศขณะรถปราศรัยของแกนนำเคลื่อนนำมวลชนออกจาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ มุ่งปักหลักที่ท้องสนามหลวง
15.56 น. มวลชนทยอยเดินออกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และเข้าสู่สนามหลวง โดยแกนนำผู้ชุมนุมระบุว่า ‘นี่คือสนามราษฎร’
ตำรวจนครบาลสั่งปิด 5 เส้นทางรอบพื้นที่ชุมนุมตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป ประกอบด้วยถนนพระอาทิตย์ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า, แยกผ่านพิภพ, สะพานช้างโรงสี, วงเวียน รด., แยกท่าเตียน
15.00 น. กลุ่ม #LGBTQ โบกธงสีรุ้งไสวท่ามกลางมวลชนที่เริ่มทะลักบนท้องสนามหลวง นำโดยกลุ่มผู้หญิงปลดแอก เครือข่ายภาคีเพื่อประชาธิปไตยและความเป็นธรรมทางเพศ รวมถึงยังมีกลุ่มศิลปินร่วมเล่นเพลงเพื่อชีวิตอีกด้วย
14.51 น. อ.โคทม อารียา ผอ.ศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุผู้ชุมนุมส่วนใหญ่คือเยาวชนและสตรี เป็นสิ่งที่น่าดีใจที่สตรีมีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น คาดหวังให้แก้รัฐธรรมนูญ เพราะเป็นข้อเรียกร้องที่สำคัญที่สุด
14.35 น. แกนนำบนเวทีแจ้งว่าขณะนี้ตำรวจควบคุมตัวแกนนำในการชุมนุมวันที่ 10 สิงหาคม ที่ มธ. ศูนย์รังสิต โดยบางส่วนถูกควบคุมตัวที่ สภ.คลองหลวง ปทุมธานี และอีก 2 คนที่กำลังจะเดินทางมาเป็นพิธีกรวันนี้ก็ถูกควบคุมตัวเช่นกัน
14.27 น. ช่อ-พรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้าเดินทางมาร่วมสังเกตการณ์การชุมนุมภายใน มธ. พร้อมระบุว่า อนาคตของประเทศไม่สามารถฝากไว้ในมือนักการเมืองและพรรคการเมืองได้ พวกเราทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการผลักดันประเทศไปข้างหน้า
14.18 น. ฝนเริ่มตกหนัก มวลชนที่มาชุมนุมทยอยเดินหลบฝน กางร่ม แต่บนเวทียังปราศรัยต่อเนื่อง
14.13 น. ฝนเริ่มโปรยปรายอีกครั้งหลัง เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมามีแดดออกบ้างเล็กน้อย แต่มวลชนยังคงทยอยเดินทางเข้ามานั่งในสนามหญ้าของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อย่างต่อเนื่อง
13.58 น. อังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชน เดินทางมาสังเกตการณ์การชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยคาดหวังให้เป็นการชุมนุมอย่างสงบและอยากให้เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกในการจัดชุมนุม
13.47 น. ประชาชนยังปักหลักฟังการปราศรัยที่สนามฟุตบอล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ แม้มีฝนโปรยปรายลงมา โดยเตรียมอุปกรณ์ป้องกันมาด้วย อาทิ ร่ม เสื้อกันฝน เป็นต้น
13.45 น. เพนกวิน-พริษฐ์ ชีวารักษ์ นำมวลชนที่ระบุว่าเป็นชาวนนทบุรี เข้ามาร่วมชุมนุมในพื้นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยเข้าทางประตูท่าพระจันทร์
13.41 น. ผู้ชุมนุมที่อยู่ด้านในใช้เครื่องมือตัดโซ่คล้องกุญแจประตูมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ฝั่งท่าพระจันทร์ เพื่อเปิดทางให้มวลชนที่มาจากท่าเรือสามารถเดินทางเข้าพื้นที่มหาวิทยาลัยได้
13.34 น. รถเครื่องเสียงและเวทีทยอยเข้ามาจอดในบริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
12.29 น. รถเครื่องเสียงปราศรัยเข้าสู่สนามหญ้าของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์แล้ว เบื้องต้นมีการปราศรัยโดยใช้รถคันนี้เป็นการชั่วคราว
12.22 น. รุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล นำรถเครื่องเสียงสำหรับใช้ปราศรัยเข้ามาในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แล้ว
12.18 น. แกนนำสามารถนำรถปราศรัยเคลื่อนเข้าในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก่อนหน้าเวลานัดหมาย 14.00 น. เกือบ 2 ชั่วโมง โดยหลังจากนี้จะปักหลักปราศรัยรอผู้ชุมนุมที่สนามหญ้าในมหาวิทยาลัยก่อนเคลื่อนไปสนามหลวง
12.12 น. คำประกาศแรกของ ไมค์ ภาณุพงศ์ หลังนำมวลชนบุกเข้ามาภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้แล้ว ชี้แจงว่า การที่ใช้พื้นที่วันนี้จะเข้ามาใช้อย่างสงบ พร้อมตั้งคำถามว่าแล้วเหตุใดมหาวิทยาลัยจึงไม่อนุญาต
12.05 น. ไมค์-ภาณุพงศ์ จาดนอก นำกลุ่มผู้ชุมนุมสามารถผลักดันเข้าพื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้แล้ว ขณะที่มวลชนทยอยเดินเข้าในมหาวิทยาลัย
12.00 น. บรรยากาศความตึงเครียดหน้าประตูมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีการยื้อประตูและเจรจากับเจ้าหน้าที่ภายในมหาวิทยาลัยอย่างต่อเนื่อง รุ้งประกาศว่าอีก 5 นาทีจะบุกเข้าไปในมหาวิทยาลัย
12.00 น. พ.ต.อ. เจษฎา สวยสม รอง ผบก.น.7 ยืนยันจะปล่อยให้รถอุปกรณ์เครื่องเสียงผ่านไป โดยตำรวจจะขับรถนำเพื่ออำนวยความสะดวกให้ ขณะนี้เตรียมปล่อยให้รถผ่านไปได้
รุ้ง ปนัสยา เดินทางถึงมธ. ท่าพระจันทร์ พร้อมแจ้งมวลชนว่ารถขนของถูกสกัดไม่ให้เข้าพื้นที่ หนังสือคำปราศรัยถูกยึด
รุ้ง ปนัสยา หนึ่งในแกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้กล่าวปราศรัยที่หน้าบริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยกล่าวว่ารถขนของที่เดินทางมามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ถูกเจ้าหน้าที่สกัดและยึดหนังสือคำปราศรัยที่มีเนื้อหาของการปราศรัยเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมาของ รุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, ไมค์-ภาณุพงศ์ จาดนอก และทนายอานนท์ นำภา ร่วมถึงคำปราศรัยของ เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ ที่จังหวัดขอนแก่น โดยยึดหนังสือดังกล่าวไปจำนวนทั้งหมด 50,000 เล่ม แต่สิ่งของส่วนอื่นสามารถขนออกมาได้ และพร้อมจะเข้าทางธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ทันทีเมื่อเดินทางมาถึง
โดย รุ้ง ปนัสยา ยืนยันการเข้าชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในเวลา 14.00 น. ตามเดิม แต่ขณะนี้ประเมินจำนวนมวลชนและคาดว่าอาจจะเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก่อนเวลา 14.00 น. หากมีจำนวนผู้เข้าร่วมชุมนุมรวมตัวได้ถึง 1,000 คน
11.47 น. รุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล นำมวลชนบุกประชิดประตูมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เบื้องต้นได้รับแจ้งว่าจะมีการเปิดประตูให้เข้าไปในเวลา 13.00 น.
11.47 น. ภาพบรรยากาศการเดินเท้าบนสะพานพระปิ่นเกล้าไปรับรถเครื่องเสียงของมวลชนที่ถูกสกัดไว้
11.38 น. รุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ประกาศรอของมาถึง แล้วจะนำมวลชนบุกเข้าไปในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ทันที แม้ว่าจะนัดรวม 14.00 น. แต่ปนัสยาประกาศว่ารถเครื่องเสียงถูกสกัดอยู่บริเวณสะพานพระปิ่นเกล้า จึงประกาศให้มวลชนไปนำรถเครื่องเสียงมาให้ได้
11.32 น. อั๋ว-จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ หนึ่งในแกนนำเดินทางมาถึงบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยได้ช่วยยกของที่ทยอยขนมาสนับสนุนผู้ชุมนุม และในเวลา 11.34 น. รุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล เองก็เดินทางมาถึงหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แล้วเช่นกัน
11.28 น. รถห้องน้ำและรถขนอุปกรณ์เวทีเดินทางมาถึงบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แล้ว กำลังทยอยหาที่จอดกระจายรอบพื้นที่
บช.น. แถลงมาตรการรับมือชุมนุมธรรมศาสตร์
เมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก สตช. แถลงมาตรการดูแลความปลอดภัยการชุมนุม ยืนยันว่าจะใช้ ‘แผนชุมนุม 63’ ซึ่งเป็นการปรับจาก ‘แผนกรกฎ 52’ โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ประมาณ 10,000 นายดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ทั้งหมด ประกอบด้วยตำรวจควบคุมฝูงชน, จราจร, ฝ่ายสืบสวน รวมถึงตำรวจหญิง และมีการตั้งจุดคัดกรองต่างๆ
ส่วนผู้ชุมนุมที่มีหมายจับก่อนหน้านี้ ขณะนี้ทราบว่ามีประมาณ 30 ราย ซึ่งทางตำรวจแจ้งเตือนว่าหากมีผู้ใดขึ้นเวที ให้พึงระวังว่าอาจเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดของศาลในการประกันตัว และอาจมีการดำเนินคดีในภายหลังได้
ด้านมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ยังไม่มีการอนุญาตให้ผู้ชุมนุมเข้าไปในพื้นที่ ส่วนในพื้นที่สาธารณะหากมีการชุมนุมต้องขออนุญาตก่อน ไม่เช่นนั้นอาจผิดกฎหมายการชุมนุมได้
11.08 น. คณะทำงานเพื่อติดตามการชุมนุมของนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน กมธ. การปกครองแถลงฝากถึงนายกรัฐมนตรีให้รับฟังปัญหาและต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดความรุนแรง
ทั้งนี้คณะทำงานจะติดตามสถานการณ์การชุมนุมไปตลอดจนจบการชุมนุม
10.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าพบ เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ และคนอื่นๆ บริเวณหมู่บ้านนวลตอง ซอยข้างหอเจปาร์ค เพื่อขอยึดอุปกรณ์ประกอบการชุมนุม เช่น หนังสือที่เล่าเรื่อง 10 ข้อเรียกร้องที่เตรียมนำไปแจกในงานชุมนุมวันนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาของทั้งสองฝ่าย
11.00 น. บริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ฝั่งประตูท่าพระจันทร์
– ภายในมีเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบ
– ตำรวจภูธรภาค 2 ตั้งรั้วกั้นพื้นที่
– มีจุดคัดกรองตรวจบัตรประชาชนและตรวจอาวุธ
– รถเมล์สัญจรตามปกติ ไม่มีการปิดถนน
– ผู้ชุมนุมทยอยเดินเข้าพื้นที่บางส่วน แต่ยังไม่มีการปักหลักเป็นกลุ่มใหญ่
10.55 น. พ.ต.อ. วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร ผกก. สน.ชนะสงคราม ประกาศขอให้ยุติการชุมนุม เพราะการชุมนุมครั้งนี้ไม่ได้ขออนุญาตตาม พ.ร.บ. ชุมนุมสาธารณะ
และขณะนี้เป็นช่วงแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงขอให้งดรวมตัวกัน แต่หากจะชุมนุมขอให้รักษาระยะห่าง ใส่หน้ากากอนามัย และยืนชุมนุมบนฟุตปาธ ในขณะที่มวลชนโห่ร้องขับไล่
10.44 น. ทราย เจริญปุระ ระบุว่า มีกลุ่มผู้สนับสนุนสมทบการชุมนุมในหลายรูปแบบ บางคนก็ขายของแล้วก็โอนมา บางคนถูกหวยก็โอนมาให้ โดยยอดที่โอนมาสนับสนุนมีตั้งแต่หลักสตางค์ หลักสิบ หลักร้อย
10.37 น. THE STANDARD คุยกับ ทราย เจริญปุระ แม่ยกการชุมนุม 19 กันยายน โดยเฉพาะการสนับสนุนอาหาร เครื่องดื่ม รวมถึงรถห้องน้ำที่นำมาบริการให้แก่ผู้ชุมนุม
10.32 น. สมคิด เชื้อคง กรรมาธิการปกครองสภาผู้แทนราษฎรจะแถลงข่าวการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การชุมนุมที่บริเวณพระแม่ธรณีบีบมวยผม ในเวลา 11.15 น. วันนี้
10.20 น. กลุ่มครูจากจังหวัดอุบลราชธานีเดินทางเข้าร่วมการชุมนุม โดยมีความตั้งใจมาให้กำลังใจลูกศิษย์และลูกหลานเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย
10.18 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 1 กองร้อย เข้าประจำการที่สนามหลวง สวมชุดกันฝน ประชาชนบางส่วนกล่าวกับเจ้าหน้าที่ว่า ชุดดังกล่าวคล้ายกับชุดผู้คุมวิญญาณจากแฮร์รี่ พอตเตอร์
10.05 น. ตำรวจทยอยเดินเข้ามาตั้งแถวบริเวณทางเดินลัดสนามหลวง โดยมีการตั้งแถวเช็กจำนวน
09.54 น. เต็นท์หน่วยปฐมพยาบาลเอกชนที่นำมาบริการประชาชนที่มาชุมนุม ตั้งอยู่บริเวณลานพระแม่ธรณีฯ หน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์
09.49 น. รถห้องน้ำของสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. จอดให้บริการอยู่ 2 คันบริเวณหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์
09.34 น.
ติดภาพล้อการเมืองรอบรั้วธรรมศาสตร์ มวลชนปักหลักแต่เช้ากลางสายฝน
– เริ่มทยอยติดไวนิลภาพล้อการเมืองที่เตรียมไว้ประมาณ 40 ชิ้นตามรั้วฝั่งประตูตรงข้ามสนามหลวง
– แกนนำประกาศนัดหมายเริ่มชุมนุมวันนี้เวลา 14.00 น. ตอนนี้จะปราศรัยรอมวลชนในมหาวิทยาลัยก่อน
09.34 น.
ทราย เจริญปุระ เดินทางมาสำรวจบริเวณเต็นท์อาหารและของว่างที่นำมาสนับสนุนผู้ชุมนุม โดยมีทั้งอาหารเช้าที่เริ่มแจกแล้ว และมีไอศกรีมอีก 50 ถัง โดยขณะนี้กำลังทยอยหาที่จอดรถห้องน้ำ ซึ่งจะพยายามกระจายให้ได้มากที่สุด พร้อมติดตั้งเต็นท์เพิ่มเนื่องจากฝนตก
08.57 น. บริเวณสนามหลวงฝนตกบ้างเล็กน้อยต่อเนื่องจากช่วงค่ำที่ผ่านมา THE STANDARD สำรวจร้านโจ๊กบริเวณตรอกโรงไหมที่ขายมานานตั้งแต่ 14 ตุลาคม 2516 ผ่านเหตุการณ์ทางการเมืองมาหลายยุค