วันนี้ (15 กันยายน) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นความคืบหน้าการผลิตวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทย โดยระบุว่า ประเทศไทยไม่ได้เจาะจงไปร่วมพัฒนากับผู้ผลิตรายใดรายหนึ่ง แต่ไทยมีบันทึกข้อตกลงกับหลายๆ สถาบันตั้งแต่ในประเทศและต่างประเทศ ทุกอย่างยังเดินหน้าไปตามปกติ
ส่วนกรณีที่สถาบันแห่งหนึ่งต้องพักการทดลองไปนั้น ตอนนี้ทราบมาว่าได้ดำเนินต่อไปแล้ว โดยย้ำว่าการเจออุปสรรคระหว่างการพัฒนาวัคซีน จนเป็นเหตุให้ชะงักไปบ้างนับเป็นเรื่องปกติ โดยยืนยันว่ารัฐบาลไทยพร้อมให้การสนับสนุนทุกรูปแบบ และถ้ามีการค้นพบวัคซีนในสถาบันที่รัฐบาลไทยมีส่วนเกี่ยวข้องและสนับสนุนด้วย รัฐบาลจะเข้าถึงเพื่อรับวัคซีนมาให้คนไทยได้เข้าถึงก่อนเป็นลำดับต้นๆ
นอกจากนี้ อนุทิน ยังได้ตอบข้อสักถามกรณีการพบกลุ่มคนลักลอบเข้าประเทศตามแนวชายแดน ที่อาจก่อให้เกิดการแฝงตัวมาของเชื้อโควิด-19 โดยกล่าวว่า “เราได้ประสานกับหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงตลอดเวลาเรื่องการดูแลการลักลอบเข้าประเทศ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมืออย่างดี อีกทั้งการมีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ถือเป็นเรื่องดีในการช่วยเป็นหูเป็นตาดูและเฝ้าระวัง”
“อย่างไรก็ตาม ความเข้มข้นการเฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมือง กำลังเป็นเรื่องที่ตื่นตัวของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน และกระทรวงมหาดไทยก็ได้ออกหนังสือกำชับไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดที่อยู่บริเวณชายแดนติดต่อกับเพื่อนบ้าน เพื่อให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ เราอย่าเพิ่งไปตื่นตระหนกกับข่าวที่บอกเจอที่โน่นบ้าง ที่นี่บ้าง ผมมองว่าถ้าเจอแล้ว เราจัดการได้ทุกๆ กรณี นี่คือสิ่งที่สำคัญกว่า” อนุทิน กล่าวในที่สุด
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์