วันนี้ (10 กันยายน) ที่สถานีตำรวจภูธร (สภ.) เมืองขอนแก่น จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน พร้อมด้วย ปิยดา มาเทียน หรือ เฟรม, ธนภณ เดิมทำรัมย์ หรือ อาร์ตยุ่น, วชิรวิทย์ เทศศรีเมือง หรือ เซฟ, พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน และ ปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือ หมอลำเเบงก์ เดินทางเข้ารายงานตัวตามหมายเรียกของสภ.เมืองขอนแก่น โดยก่อนการรายงานตัวนั้น พริษฐ์ หรือ เพนกวิน แกนนำสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย ได้เผาหมายเรียกของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อแสดงออกถึงการกดขี่ ความไม่ยุติธรรมในการแจ้งข้อกล่าวหา ที่ใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน มาควบคุมสิทธิเสรีภาพของประชาชน
พริษฐ์กล่าวว่า ทุกสถานีตำรวจที่ได้รับหมายเรียก แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมและผู้ชุมนุมจะมีการปราศรัยทุกที่ วันนี้ที่ขอนแก่น การออกหมายเรียกมีการออกหมายเรียกผิดคนคือ ปิยดา มาเทียน หรือ เฟรม ที่ไม่ได้ร่วมชุมนุม แต่กลับถูกหมายเรียก เพราะในวันชุมนุมเจ้าตัวอยู่ที่บ้านที่จังหวัดชัยภูมิ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ทั้ง 6 คนสลับกันปราศรัยแล้วเสร็จ พริษฐ์พร้อมผู้ที่ได้รับหมายเรียกทั้งหมด และทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวตามหมายเรียก ในข้อหาร่วมกันจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมกัน หรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันง่าย ชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัด หรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค กระทำการหรือดำเนินการใดๆ ซึ่งอาจก่อสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคแพร่ระบาดออกไป ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ
จากการชุมนุมที่สวนรัชดานุสรณ์ ตรงข้ามศาลากลางจังหวัดขอนแก่น สถานที่ที่กลุ่มขอนแก่นพอกันที และกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นได้กำหนดจัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ‘อีสานบ่ย่านเด้อ’ เรียกร้อง 3 ข้อหลักต่อรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คือ หยุดคุกคามประชาชน ยุบสภา ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า