วันนี้ (8 กันยายน) รายงานการประเมินตลาดที่เผยแพร่โดยศูนย์วิจัยยานยนต์ (CAR) ของเยอรมนี ที่ออกเผยแพร่เมื่อวานนี้ ระบุว่า จีนกำลังจะกลายเป็นตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ขนาดใหญ่ที่สุดของโลกอีกครั้งภายในสิ้นปี 2020 ศูนย์ฯ คาดการณ์ว่า ยอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปสูงขึ้นเล็กน้อยในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 แต่ปัจจัยเกื้อหนุนจากธุรกิจของ อีลอน มัสก์ ได้สนับสนุนการพัฒนาของตลาดจีน ซึ่งมุ่งมั่นครองบทบาทนำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าตลอด 50 ปีข้างหน้า
ศูนย์ฯ เผยว่า รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบและรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) หรือรถยนต์ที่ใช้น้ำมันและไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อนร่วมกัน สามารถทำยอดจำหน่ายในยุโรปเกือบ 4 แสนคันในช่วงครึ่งแรกของปี ส่วนยอดจำหน่ายในจีนน้อยกว่ายุโรปเพียง 7,200 คัน เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกัน
ขณะเดียวกัน ยอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบของ Tesla ในจีนเติบโตขึ้นแบบ ‘ก้าวกระโดด’ โดย Tesla Shanghai Gigafactory มีส่วนส่งเสริมยอดจำหน่ายเกือบ 50,000 คันในช่วงครึ่งแรกของปี และเนื่องจากยอดซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในหลายประเทศของยุโรปอยู่ในระดับสูง ทำให้ยอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบและรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดในยุโรป ‘เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
“จีนและยุโรปมีความมุ่งมั่น เด็ดเดี่ยว ในการพัฒนายานยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าให้ก้าวหน้าระดับโลก” แถลงการณ์จาก เฟอร์ดินานด์ ดูเดนโฮเฟอร์ ผู้อำนวยการศูนย์ฯ ระบุ พร้อมเสริมว่า ทั้งสองภูมิภาคยังให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการปล่อยก๊าซไอเสียจากรถยนต์ให้เป็นศูนย์ด้วย
ดูเดนโฮเฟอร์กล่าวกับสำนักข่าวซินหัวว่า ปี 2019 จีนจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้สูงถึง 1.2 ล้านคัน ซึ่งเป็นสถิติสูงที่สุดในโลก โดยช่วงครึ่งแรกของปีจีนเป็นผู้นำตลาดด้านยอดจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ขณะที่ยุโรปสามารถจำหน่ายรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดได้มากกว่าจีน
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
- สำนักข่าวซินหัว