“พวกเขาไม่ยอมให้ผมไป”
ขณะที่โลกกำลังจับจ้องไปยัง ลิโอเนล เมสซี ราชาลูกหนังผู้ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวที่จะทิ้งทุกอย่างกับบาร์เซโลนา ที่พยายามเต็มที่เช่นกันที่จะรั้งตัวเขาไว้ในคัมป์นูต่อไปให้ได้ ยังมีอีกมุมหนึ่งเล็กๆ ของโลกลูกหนังที่ แกเร็ธ เบล นั่งรอคอยความหวังอย่างเงียบๆ และโดดเดี่ยว
ภาพของอดีตนักฟุตบอลผู้เคยเป็นความมหัศจรรย์บนโลกใบนี้นั่งหลับบ้าง หาวบ้าง บนอัฒจันทร์ ในระหว่างที่เพื่อนร่วมทีม ‘ราชันชุดขาว’ เรอัล มาดริด กำลังโลดแล่นอยู่ในสนามในช่วงของการรีสตาร์ทลาลีกาฤดูกาล 2019-20 ที่ผ่านมา ทำให้แฟนฟุตบอลจำนวนไม่น้อยเกิดความรู้สึกสงสัย เจ็บปวด และเสียดาย
นักเตะอย่างเบลไม่ควรจะตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ เราควรจะได้ตื่นเต้นกับลีลาสุดยอดมหัศจรรย์ของเขาในสนามมากกว่า ซึ่งภาพที่ปรากฏทำให้หลายคนใจหาย และคิดว่าบางทีเราอาจจะไม่มีวันได้เห็นสิ่งเหล่านั้นอีกแล้ว
อย่างไรก็ดี ในการเปิดใจครั้งแรกของดาวเตะวัย 31 ปีที่กำลังอยู่ในระหว่างการเตรียมตัวที่จะลงสนามรับใช้ทีมชาติเวลส์ในรายการยูฟ่าเนชันส์ลีก ดูเหมือนว่าเราจะเข้าใจเขาผิดไปมาก
“ผมคิดว่าทุกคนรู้ดีว่าผมรักการออกมาเล่นให้กับเวลส์แค่ไหน การได้กลับมาในที่ที่คุณได้รับการยอมรับและมีกำลังใจจากแฟนๆ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามเป็นเรื่องที่ดีเสมอ” เบลกล่าวด้วยรอยยิ้ม
สตาร์เจ้าของค่าตัว 85 ล้านปอนด์รอคอยโอกาสจะได้ลงสนามมาตลอด โดยหลังความฝันในการจะได้ย้ายออกจาก ‘คุก’ ที่ชื่อซานติอาโก เบอร์นาบิว และผู้คุมที่ชื่อ ซีเนดีน ซีดาน เมื่อปีกลายล่มสลายไป เพราะเรอัล มาดริดขัดขวางการย้ายทีมในวินาทีสุดท้าย ทั้งๆ ที่เขาเตรียมตัวจะไปเล่นในลีกประเทศจีนแล้ว เบลมีโอกาสได้ลงเล่นแค่ 20 นัดเท่านั้นในฤดูกาลที่ผ่านมา และในช่วงรีสตาร์ทเขาได้โอกาสลงแค่ 2 นัด
หนึ่งในเหตุการณ์ที่ถูกพูดถึงคือเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกระหว่าง เรอัล มาดริด กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งจบลงด้วยความปราชัยของโลส บลังโกส ทางด้าน ซีดาน ซึ่งแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการเห็นเบลลงสนามในชุดขาวอีกบอกว่า “เขาไม่ต้องการจะลงสนาม”
ซีเนดีน ซีดาน โค้ชเรอัล มาดริด ผู้ไม่คิดจะญาติดีกับ แกเร็ธ เบล อีกต่อไป
แต่ทางด้านเบลปฏิเสธและยืนยันว่าเขายังรักการเล่นฟุตบอล ต้องการลงสนาม และเขายินดีอย่างยิ่งหากเรอัล มาดริดจะเปิดโอกาสให้เขาได้ไปจากที่นี่เสียที
“ผมอยากจะเล่นฟุตบอล ผมยังมีความกระหายที่จะเล่นฟุตบอล ดังนั้นผมคิดว่ามันขึ้นอยู่กับสโมสรแล้ว พวกเขาควบคุมทุกอย่าง ตัวผมเองมีสัญญาอยู่ ดังนั้นสิ่งที่ผมทำได้ก็คือพยายามทำในสิ่งที่ผมทำอยู่ และหวังว่าจะมีอะไรสักอย่างเกิดขึ้น”
เบลยืนยันว่าเขาพร้อมพิจารณาทุกโอกาสที่เข้ามา รวมถึงการหวนคืนสู่พรีเมียร์ลีกด้วย
“ถ้ามีทางเลือกปรากฏขึ้น (ความสนใจจากสโมสรในพรีเมียร์ลีก) แน่นอนว่าผมจะต้องพิจารณาเรื่องนี้” เบลกล่าว “เราคงต้องรอดูกันว่าอะไรจะเกิดขึ้น เรายังพอมีเวลาอีกมากสำหรับตลาดรอบนี้และโอกาสในตลาดรอบอื่นๆ ด้วย เวลาเท่านั้นที่จะบอกได้
“แต่เรื่องหลักๆ ผมคิดว่าเหตุผลมันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจที่อยู่ในมือของเรอัล มาดริด
“ผมพยายามที่จะออกจากทีมเมื่อปีที่แล้ว แต่พวกเขาขัดขวางผมทุกวิถีทางในวินาทีสุดท้าย ทั้งๆ ที่มันเป็นโปรเจกต์ที่ผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ทำ เพียงแต่มันก็ไม่เกิดขึ้น
“ยังมีโอกาสอื่นๆ ด้วยที่เราพยายามจะไปให้ได้ แต่สโมสรไม่อนุญาต หรือพวกเขาก็จะทำอะไรสักอย่าง ดังนั้นเรื่องนี้มันอยู่กับสโมสร”
ความตั้งใจอาจไม่เหลือข้อสงสัย แต่สภาพร่างกายยังไหวไหม?
“ผมเพิ่งจะอายุแค่ 31 ปี แต่ผมรู้สึกว่าสภาพร่างกายของผมยังดีอยู่มาก และผมรู้สึกว่าผมยังทำอะไรได้อีกมาก เราต้องรอดูกันว่าอะไรจะเกิดขึ้น มันอยู่ในมือของสโมสรซึ่งพวกเขาเองทำให้ทุกอย่างมันกลายเป็นเรื่องยาก”
อย่างน้อยเบลจะได้โอกาสในการลงสนามให้กับเวลส์ที่เขาเคยช่วยพาทีมทะลุเข้าถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอลยูโร 2016 โดยมีเกมไปเยือนฟินแลนด์ในคืนนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน) ก่อนจะกลับมาลงสนามที่คาร์ดิฟฟ์ พบ บัลแกเรีย ในวันอาทิตย์ แม้ว่าจะน่าเสียดายที่แฟนบอลไม่สามารถเข้ามาเชียร์เขาได้ก็ตาม
“เรามีเกมสำคัญอีก 2 นัดรออยู่ นี่เป็นการเริ่มต้นในการเตรียมตัวสำหรับฟุตบอลยูโรในปีหน้า
“เราทุกคนมีความตั้งใจเต็มที่ พวกเราไม่มีเวลามากนักสำหรับการเตรียมตัวเล่นเกมเหล่านี้ ผมเองก็ไม่ได้กลับมาซ้อมเต็มที่ ผมเพิ่งจะกลับมาจากการพักผ่อน แต่ผมก็พยายามรักษาสภาพความฟิตเอาไว้ตลอดช่วงฤดูร้อน”
ไม่มีใครรู้ว่าหลังจากนี้อนาคตของเบลจะเป็นอย่างไร
แต่สำหรับทีมที่เคยสนใจแต่ไม่แน่ใจว่ายอดมนุษย์ลูกหนังคนนี้ยังเหลือไฟแค่ไหนอาจได้คำตอบจากสัญญาณขอความช่วยเหลือที่ถูกส่งผ่านการเปิดใจครั้งนี้
อาจมีใครสักคนที่ยื่นมือมาพาเขาหลุดพ้นจากคุกสีขาวแห่งนี้เสียที
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: