ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่เพิ่งผ่านพ้นไป หนึ่งในพระประมุขที่เสด็จฯ มาร่วมงานคือ สมเด็จพระราชินีซิลเวียแห่งสวีเดน ตัวแทนของสมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟแห่งสวีเดน ผู้เป็นกษัตริย์และพระราชสวามีของพระองค์ ซึ่งถ้าเราได้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสวีเดน เราจะรู้ว่ามีมายาวนานกว่า 133 ปี และเป็นการก่อเกิดรากฐานที่มั่นคงในทุกวันนี้
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งเสด็จฯ เยือนประเทศสวีเดน
อาคารพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่เทศบาลรากุนดา ประเทศสวีเดน
หากดูตามการบันทึกทางประวัติศาสตร์ ครั้งแรกที่ราชวงศ์ไทยและราชวงศ์สวีเดนได้พบกันคือในปี 1884 เมื่อครั้งที่ เจ้าชายออสการ์ เบอร์นาดอตต์ เคานต์แห่งวิสบอร์ก พระราชโอรสพระองค์ที่ 2 ในสมเด็จพระเจ้าออสการ์ที่ 2 แห่งสวีเดน ได้เสด็จเยือนกรุงเทพฯ โดยเรือกองทัพสวีเดน HMS Vanadis ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ได้เสด็จฯ เยือนเมืองหลวงสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เป็นครั้งแรกในวันที่ 13 กรกฎาคม ปี 1897 ในช่วงที่พระองค์เสด็จประพาสยุโรป การไปเยือนสวีเดนในครั้งนั้นของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวถือเป็นการช่วยสร้างรากฐานของความสัมพันธ์ที่ดีงามมาจนถึงทุกวันนี้ และที่เทศบาลรากุนดา ทางตอนเหนือของสวีเดน สถานที่หนึ่งที่พระองค์ได้เสด็จฯ เยือนก็ได้มีการสร้างอาคารพระบรมราชานุสรณ์ในปี 1997 เนื่องในวาระครบรอบ 100 ปีที่พระองค์เสด็จฯ เยือนเทศบาลนี้
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ประเทศสวีเดน ในปี 1960
วันที่ 23 กันยายน ปี 1960 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ก็ได้เสด็จฯ เยือนสวีเดนเป็นครั้งแรกพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยมีสมเด็จพระเจ้ากุสตาฟที่ 6 อดอล์ฟแห่งสวีเดน และสมเด็จพระราชินีลูอิสแห่งสวีเดน เป็นผู้ถวายการต้อนรับ และเมื่อสมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 เสด็จขึ้นครองราชย์ในปี 1973 พระองค์ก็ได้เสด็จฯ เยือนประเทศไทยอยู่บ่อยครั้งทั้งแบบส่วนพระองค์และทางการ เช่น ในปี 2006 ช่วงพระราชพิธีฉลองพิธีครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยในช่วงพระราชทานเลี้ยงพระกระยาหารค่ำแด่พระประมุขต่างประเทศ ณ พระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬาร สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 ก็ได้ประทับนั่งอยู่ทางซ้ายมือสุดของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
อีกหนึ่งความน่าประทับใจของราชวงศ์ไทยและสวีเดนคือการช่วยเหลือเผื่อแผ่และไม่ลืมนึกถึงกันอยู่เสมอ ในปี 2004 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้ถวายช้างตัวเมียชื่อ ‘บัว’ ให้แก่สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 เป็นของขวัญที่สวนสัตว์ Kolmården ทางตอนใต้ของกรุงสต็อกโฮล์ม ซึ่งในปี 2013 ก็ได้คลอดลูกชื่อ ‘น้ำใส’ ส่วนในปี 2006 สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 ในฐานะประธานกิตติมศักดิ์ขององค์กร World Scout Foundation ก็ได้ถวายรางวัล Bronze Wolf ที่สวนจิตรลดาให้กับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในโอกาสที่พระองค์ทรงเป็นหัวหน้าลูกเสือแห่งชาติ
สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 และสมเด็จพระราชินีซิลเวีย ที่สวนสัตว์ Kolmården
เมื่อถึงวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ช่วงงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่สวีเดนเองก็มีการจัดงานรำลึกถึงและยกย่องพระองค์อย่างยิ่งใหญ่ โดยช่วงเวลา 11.55 น. ตามเวลาท้องถิ่น ได้มีการทำพิธีพิเศษที่ทหารรักษาพระองค์ของพระราชวังสต็อกโฮล์มได้อัญเชิญเครื่องหมายตระกูลขุนนาง (Coat of Arms) ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่สวีเดนแต่งตั้งให้ในปี 1950 ไปยังโบสถ์ริดดาร์โฮลเมิน (Riddarholmskyrkan) และมีการเคาะระฆังหนึ่งชั่วโมงจากเที่ยงถึงบ่ายโมง ตามพิธีที่ชื่อ Serafimerringningen ซึ่งต่อไปเครื่องหมายของตระกูลขุนนางก็จะเก็บไว้ยังโบสถ์นี้เหมือนกับของราชวงค์สวีเดนพระองค์อื่นๆ
สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 และสมเด็จพระราชินีซิลเวีย ที่จังหวัดพังงา หลังเหตุการณ์เหตุการณ์สึนามิในปี 2005
หากเรามองบริบทของความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสวีเดนในวันนี้ เราจะเห็นว่ามีคนไทยอาศัยอยู่ที่สวีเดนประมาณ 19,000 คน และคนสวีเดนเองก็เลือกที่จะเกษียณและมีบ้านพักตากอากาศอยู่ในไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งต้องบอกว่าปัจจัยสำคัญก็เพราะความสัมพันธ์ที่หล่อหลอมมาอย่างดีของราชวงศ์ทั้งสองประเทศที่มีแบบอย่างมาจากความใส่ใจและดูแลกันแบบเพื่อนมาโดยตลอด
อ้างอิง: