เชื่อว่า ก่อนที่โลกจะปั่นป่วนจากวิกฤตโควิด-19 และทำเอาเศรษฐกิจทั่วโลกหดตัวแรง ปัญหาที่คิดไม่ตกของนักลงทุนมือใหม่คือ จะเลือกลงทุนในอะไรดี สินทรัพย์ไหน หรือรูปแบบการลงทุนประเภทใด หรือ ต้องลงทุนในการซื้อประกันสุขภาพให้กับตัวเองกันแน่
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ความรุนแรงจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้คนเริ่มตระหนักถึงความคุ้มครอง และการวางแผนค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งจะผลักดันให้แผนประกันสุขภาพเติบโตจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน การออมเงินให้งอกเงยก็สำคัญ กองทุนรวมจึงเป็นทางเลือกสำหรับผู้มีเงินออมหรือผู้ที่มองหาการลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
บลจ. กรุงไทย หรือ KTAM มองเห็นถึงความต้องการของคนยุคนี้ จึงคัดสรรกองทุนที่เป็นทางเลือกใหม่ คือ กองทุนเปิดกรุงไทย ยกกำลังสุข(ภาพ) หรือ Krung Thai Happy Health (KTHH) ซึ่งนอกจากการเพิ่มโอกาสด้านการลงทุนแล้ว ผู้ลงทุนยังได้สิทธิความคุ้มครองประกันสุขภาพและอุบัติเหตุกลุ่มตามเงื่อนไขที่หนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญของกองทุนกำหนดอีกด้วย เรียกว่า จบ ครบ ในกองเดียว กองทุนนี้เป็นกองทุนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีมูลค่าเงินลงทุนตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป มีสิทธิ์ได้รับความคุ้มครองประกันสุขภาพและอุบัติเหตุกลุ่มกับบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) (มูลค่าเงินลงทุนพิจารณาจากต้นทุนสะสมของเงินลงทุนของผู้ถือหน่วยลงทุน เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท โดยไม่คำนึงถึงผลกำไรหรือขาดทุนของมูลค่า NAV ที่เปลี่ยนแปลงไป จึงจะได้สิทธิความคุ้มครองจากบริษัทประกัน)
กองทุนเปิดกรุงไทย ยกกำลังสุข(ภาพ) น่าสนใจอย่างไรและตอบโจทย์ใคร?
กองทุนนี้ เหมาะกับผู้ลงทุนที่มองหาโอกาสการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะปานกลางถึงระยะยาว หรือตั้งแต่ 3 ปี ขึ้นไป เน้นโอกาสการได้รับผลตอบแทนในจำนวนเงินที่แน่นอน หรือโอกาสรักษาเงินต้นให้อยู่ครบ และตอบโจทย์เรื่องสิทธิความคุ้มครองประกันสุขภาพและอุบัติเหตุกลุ่ม โดยสามารถปรับระดับความคุ้มครองประกันสุขภาพตามมูลค่าเงินลงลงทุนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตามที่ต้องการตามเงื่อนไขที่หนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญของกองทุนกำหนดไว้
กองทุนเปิดกรุงไทย ยกกำลังสุข(ภาพ) เป็นกองทุนในรูปแบบกองทุนรวมผสมหน่วยลงทุนประเภท Fund of Funds ที่มีนโยบายลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหน่วยลงทุนของกองทุนรวมทั้งในและต่างประเทศ อาทิ หน่วย CIS และ/หรือ กองทุนรวมอีทีเอฟ และ/หรือ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และ/หรือ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และ/หรือ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (กองทุนปลายทาง) ตั้งแต่ 2 กองทุนขึ้นไป โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม และผู้ลงทุนต้องสามารถรับความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เมื่อกองทุนนำเงินลงทุนไปลงทุนในหน่วยลงทุนต่างประเทศ
แต่กองทุนลักษณะนี้อาจจะไม่เหมาะกับผู้ลงทุนที่เน้นการได้รับผลตอบแทนในจำนวนเงินที่แน่นอน เนื่องจากเป็นกองทุนที่มีปัจจัยความเสี่ยงผันผวนของราคาหลักทรัพย์, ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวลงทุน, ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น ซึ่งนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเป็นไปตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน และผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง รวมถึงเงื่อนไขการลงทุนในกองทุนรวมที่ให้สิทธิประโยชน์ของประกันสุขภาพและอุบัติเหตุและเงื่อนไขกรมธรรม์เพิ่มเติมเพื่อให้ได้สิทธิประโยชน์และความคุ้มครองตามกรมธรรม์ก่อนตัดสินใจลงทุน
ในเรื่องสิทธิความคุ้มครองด้านประกันสุขภาพและอุบัติเหตุกลุ่มจากการลงทุนในกองทุนนี้จะต้องเป็นบุคคลธรรมดาที่มีอายุระหว่าง 15-65 ปีบริบูรณ์ และมีคุณสมบัติของผู้เอาประกันภัยตามที่บริษัทประกันกำหนด ซึ่งผู้ลงทุนสามารถศึกษาคุณสมบัติของผู้เอาประกันภัยและข้อมูลสิทธิประโยชน์การประกันสุขภาพและอุบัติเหตุตามหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ทั้งนี้สามารถสอบถามแผนการคุ้มครองสุขภาพได้ที่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ศูนย์บริการลูกค้า 1736 กด 1
เสนอขายครั้งแรก 3-18 สิงหาคม 2563 มูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรก คือ 50,000 บาท และสามารถซื้อได้ 1,000 บาท ในครั้งถัดไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ธนาคารกรุงไทย ผู้สนับสนุนการขาย หรือ บลจ.กรุงไทย โทร 0 2686 6100 หรือซื้อออนไลน์ผ่าน KTAM Smart Trade สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย
หรือศึกษารายละเอียดข้อมูลกองทุน และหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญได้ที่