วันนี้ (8 สิงหาคม) ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพมหานคร เขตจอมทอง-ธนบุรี และอดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าวถึงบทเฉพาะกาล โดยต้องการให้ยกเลิกเรื่องวุฒิสภาและการรับรองประกาศคำสั่งของ คสช. นั้น แสดงให้เห็นว่า ปิยบุตรขาดความเข้าใจในกฎหมายรัฐธรรมนูญไทย และไม่เคยยอมรับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวุฒิสมาชิก ดังนั้นจึงควรศึกษาและจดจำให้ถ่องแท้ก่อนแสดงความคิดเห็น
โดยทิพานันกล่าวว่า บทเฉพาะกาลไม่ได้มีวัตถุประสงค์ 3 ข้อ ตามที่ปิยบุตรเข้าใจผิด โดยเนื้อหาสาระที่ถูกต้องมีอธิบายเป็นภาษาไทยชัดเจนในหนังสือความมุ่งหมายและคำอธิบายประกอบรายมาตราของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ที่จัดทำโดยสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร หน้า 477 ว่า ความมุ่งหมายบทเฉพาะกาลกำหนดขึ้นเพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินในช่วงเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
“ปิยบุตรจึงอาจเข้าใจกฎหมายและความมุ่งหมายบทเฉพาะกาลผิดพลาด ดังนั้นย่อมส่งผลทำให้ข้อเสนอให้ยกเลิกกฎหมายมาตราต่างๆ โดยอ้างหลักการมากมายจึงอาจผิดเพี้ยนตามไปด้วย หากยังคงยืนยันเสนอให้ยกเลิกตามความคิดเดิมอีก ก็อาจแสดงว่าปิยบุตรแกล้งแถตีรวนโดยไม่อิงความรู้กฎหมาย ส่วนในประเด็นมาตรา 269, 270 และ 272 ซึ่งเป็นมาตราที่ว่าด้วยการสรรหาวุฒิสภาชุดแรก ก็มีการกำหนดหน้าที่ของวุฒิสภาที่เพิ่มเติมในการเป็นกลไกหลักในการปฏิรูปประเทศให้สำเร็จตามยุทธศาสตร์ชาติ” ทิพานันกล่าว
นอกจากนี้ในข้อเท็จจริงของวันที่ 5 มิถุนายน 2562 นั้น เฉพาะผลจากจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เข้าประชุมทั้งหมด 497 คน มีผู้โหวตรับรองให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีจำนวน 251 คน เกินจำนวนเสียงกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมดแล้ว การโหวตรับรองของวุฒิสภาจึงไม่ได้ลดทอนความชอบธรรมที่ พล.อ. ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีที่มาตามวิถีประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขลงไปเลย ซึ่งนี่เป็นข้อเท็จจริงที่มักมีกลุ่มบุคคลที่ไม่ยอมรับเสียงข้างมากในสภาฯ แต่กลับแสร้งห่มขาวปากถือศีลอ้างว่าตนเองเป็นฝ่ายประชาธิปไตย แต่ในมือถือสากคอยบิดเบือนความจริงสู่สังคม หวังว่าปิยบุตรจะไม่ใช่คนเช่นนั้น
อย่างไรก็ตาม ตนเห็นด้วยว่าควรรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างจากทุกกลุ่ม แต่ต้องไม่บิดเบือน ไม่มีการก้าวล่วงสถาบัน และอยู่บนพื้นฐานกรอบกฎหมาย ถ้าทุกอย่างถูกต้องและทำเพื่อประโยชน์ของชาติย่อมมีคนเห็นด้วยแน่นอน แต่อย่างไรก็ตาม ความสำคัญเร่งด่วนเป็นอันดับแรกขณะนี้คือฟื้นฟูเศรษฐกิจ อยากวิงวอนนักการเมืองทุกฝ่ายทุ่มเท มุ่งมั่น ช่วยกันทำให้ประเทศมีความสุขสงบ มีการค้าขาย มีการจ้างงานกันปกติก่อนจะคิดทำเรื่องอื่น
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล