มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย หั่น GDP ปี 2563 เป็นติดลบ 9.4% จากเดิมคาดติดลบ 4.9-3.4% ชี้โควิด-19 กระทบเศรษฐกิจพัง 2 ล้านล้าน คาดไตรมาส 2/63 จะลบหนักสุด 15% มากสุดเป็นประวัติการณ์ คาดปีนี้ตกงานแตะ 7 ล้านคน ฝากรัฐเร่งส่งเม็ดเงินฟื้นฟูเข้าระบบเศรษฐกิจ
ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยในงานประมาณการภาวะเศรษฐกิจปี 2563 ว่า ได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจใหม่ในปี 2563 จากเดิมที่คาดการณ์ติดลบ 4.9 ถึงติดลบ 3.4% เพิ่มเป็นติดลบ 9.4% ขณะที่ในไตรมาส 2/63 คาดจะติดลบ 15% มากสุดเป็นประวัติการณ์ หนักกว่าช่วงไตรมาส 2/41 ช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งที่ติดลบ 12%
“ในกรณีแย่สุด ในไตรมาส 2/63 จะติดลบ 16.8% ส่วนในกรณีดีกว่าคาด จะติดลบ 14% ส่วนทั้งปี 2563 น่าจะติดลบ 9.4% และในปี 2564 จะกลับมาฟื้นตัวเป็นบวกได้ที่ 4-5%” ธนวรรธน์กล่าว
ขณะเดียวกันได้ปรับลดเป้าส่งออกเป็นติดลบ 10.2% การลงทุนรวมติดลบ 8% จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศติดลบ 82.3% ขณะที่เงินเฟ้อติดลบ 5% โดยปัจจัยกดดันตัวเลขเศรษฐกิจปีนี้มาจากผลกระทบของการระบาดไวรัสโควิด-19 คิดเป็นการสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจประมาณ 2 ล้านล้านบาท
สำหรับปีนี้ภาพธุรกิจโดยรวมจะมีคนตกงานประมาณ 7 ล้านคน ซึ่งสูงขึ้น 1% จากปัจจุบันที่มีคนตกงานอยู่ประมาณ 4 แสนคน โดยผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบมากจะอยู่ในธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร
“ที่ผ่านมาธุรกิจปรับลดคนงานแค่ประมาณ 10% แต่ถ้าในระยะต่อไปนี้รัฐบาลไม่เร่งผลักดันเม็ดเงินตามแผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจในวงเงิน 4 แสนล้านบาท และเร่งปล่อยกู้ Soft Loan 5 แสนล้านบาทเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ประมาณเดือนตุลาคมปีนี้ไม่เห็นการผลักดันอะไรออกมา น่าจะเห็นการปลดคนงานเพิ่มขึ้น” ธนวรรธน์กล่าว
เรียบเรียง: สุรเมธี มณีสุโข
ติดตามข่าวสารการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่: www.efinancethai.com
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
