หลี่เติงฮุย อดีตประธานาธิบดีจากการเลือกตั้งคนแรกของไต้หวัน ผู้ได้ชื่อว่าเป็น ‘บิดาแห่งประชาธิปไตยแห่งไต้หวัน’ ถึงแก่อสัญกรรมแล้วเมื่อช่วงค่ำวานนี้ ด้วยวัย 97 ปี ที่โรงพยาบาลทหารผ่านศึกในกรุงไทเป หลังมีอาการช็อกจากการติดเชื้อและอวัยวะล้มเหลวหลายส่วน
โดยอดีตประธานาธิบดีหลี่เข้ารับการรักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เนื่องจากดื่มนมและเกิดสำลักอย่างรุนแรง ก่อนจะตรวจพบว่ามีภาวะแทรกซึมในปอดและปอดอักเสบ ขณะที่แพทย์พยายามรักษาอาการ แต่เนื่องจากสุขภาพที่ถดถอยเพราะอายุมากและโรคเบาหวาน ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันแย่ลงจนเกิดการติดเชื้อ ก่อนที่แพทย์จะประกาศยืนยันการถึงแก่อสัญกรรม
หลี่เติงฮุย เกิดในกรุงไทเป เมื่อวันที่ 15 มกราคม 1923 โดยเขาจบการศึกษาระดับดุษฎีบัณฑิต ด้านเศรษฐศาสตร์การเกษตร จากมหาวิทยาลัยคอร์เนลในสหรัฐอเมริกา ก่อนจะกลับมายังไต้หวันและก้าวเข้าสู่เวทีการเมือง โดยเคยดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีกรุงไทเป ผู้ว่าการมณฑลไต้หวัน รองประธานาธิบดีแห่งไต้หวัน และก้าวขึ้นสู่เก้าอี้ประธานาธิบดีสมัยแรก ด้วยการรับตำแหน่งต่อจากอดีตประธานาธิบดีเจี่ยงจิงกว๋อ ที่ถึงแก่อสัญกรรมในปี 1988
กระทั่งในปี 1996 ที่ไต้หวันมีการจัดเลือกตั้งประธานาธิบดีตามระบอบประชาธิปไตยเป็นครั้งแรก หลี่สามารถคว้าชัยชนะได้อย่างถล่มทลาย และกลายเป็นประธานาธิบดีจากการเลือกตั้งคนแรกของไต้หวัน ทำให้เขาได้รับสมญานาม ‘บิดาแห่งประชาธิปไตยไต้หวัน’
ในช่วงรับตำแหน่งประธานาธิบดีตั้งแต่ปี 1988 จนถึงปี 2000 หลี่ได้รับการยกย่องจากการยุติการปกครองแบบเผด็จการ และสนับสนุนระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย
ขณะที่เขามีความพยายามตัดความเชื่อมโยงของไต้หวันและจีนแผ่นดินใหญ่ ทำให้เกิดความสัมพันธ์อันตึงเครียด เนื่องจากรัฐบาลปักกิ่งมองไต้หวันเป็นมณฑลหนึ่งที่ต้องถูกรวมกลับสู่การปกครองของจีน
ด้าน ไช่อิงเหวิน ประธานาธิบดีหญิงคนปัจจุบันของไต้หวัน ซึ่งชื่นชมและเดินตามรอยอดีตประธานาธิบดีหลี่ แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการถึงแก่อสัญกรรมของรัฐบุรุษคนสำคัญของไต้หวัน พร้อมสั่งการให้สำนักประธานาธิบดีและหน่วยงานรัฐบาลให้ความช่วยเหลือครอบครัวหลี่ ขณะที่ร่างของอดีตผู้นำไต้หวันยังอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งทางภรรยาและครอบครัวจะเป็นผู้ตัดสินใจเรื่องการดำเนินการพิธีศพต่อไป
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: