วันอังคารที่ผ่านมา (14 กรกฎาคม) กระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียและสิงคโปร์เห็นพ้องการผ่อนปรนข้อจำกัดการเดินทางที่ใช้ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งกันและกัน และกลับมาอนุญาตให้มีการเดินทางที่จำเป็นระหว่างสองประเทศอีกครั้ง
แถลงการณ์ร่วมจาก ฮิชามมุดดิน ฮุสเซน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซีย และวิเวียน บาลากริชนัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสิงคโปร์ ระบุว่าช่องทางด่วนเพื่อการแลกเปลี่ยน (RGL) และข้อตกลงการเดินทางแบบคาบเวลา (PCA) เป็นสองแผนการที่มุ่งหมายตอบสนองความต้องการของผู้เดินทางข้ามพรมแดนกลุ่มต่างๆ
ช่องทางด่วนฯ จะช่วยให้ประชาชนสามารถเดินทางข้ามพรมแดนเพื่อจุดประสงค์ทางการและทางธุรกิจที่จำเป็นภายใต้เงื่อนไขหลายประการ ซึ่งรวมถึงการที่ผู้เดินทางจำเป็นต้องยื่นเอกสารและปฏิบัติตามแผนการเดินทางที่กำหนดระหว่างพำนักอาศัย และจำเป็นต้องเข้ารับการทดสอบแบบพีซีอาร์ (PCR) เพื่อตรวจโรคโควิด-19
ส่วนข้อตกลงฯ จะอนุญาตให้ผู้พำนักอาศัยในสิงคโปร์และมาเลเซียที่ถือใบอนุญาตเข้าประเทศเพื่อทำธุรกิจและทำงานระยะยาวเดินทางเข้าอีกประเทศเพื่อจุดประสงค์ในการทำงาน โดยหลังจากทำงานในประเทศติดต่อกันอย่างน้อย 3 เดือน พวกเขาสามารถเดินทางกลับประเทศบ้านเกิดเป็นระยะเวลาสั้นๆ ก่อนจะกลับเข้าประเทศที่ทำงานเพื่อทำงานต่ออีกอย่างน้อย 3 เดือนติดต่อกัน
รัฐบาลทั้งสองประเทศเผยว่าพวกเขากำลังตั้งเป้าหมายจะดำเนินแผนการทั้งสองตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคมเป็นต้นไป โดยเจ้าหน้าที่กำลังทำงานเพื่อสรุปมาตรฐานการปฏิบัติงาน (SOP) สำหรับการบังคับใช้อย่างเป็นทางการ
แถลงการณ์ร่วมเสริมว่าทั้งสองประเทศเห็นพ้องจะพัฒนาแผนการเดินทางข้ามพรมแดนอื่นๆ ตามความเหมาะสม ซึ่งรวมถึงข้อเสนอการเดินทางข้ามพรมแดนรายวันเพื่อจุดประสงค์ในการทำงาน
ทั้งนี้ ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีประชาชนเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างมาเลเซียและสิงคโปร์เพื่อทำงานและท่องเที่ยวหลายแสนคนต่อวัน ขณะที่การเดินทางทางอากาศระหว่างสิงคโปร์และกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซีย ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในเส้นทางบินข้ามพรมแดนที่คึกคักที่สุดในโลก
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: สำนักข่าวซินหัว