วินาทีประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของนวัตกรรมรถไฟฟ้าค่ายใบพัดสีฟ้าเริ่มต้นในตอนที่ BMW 1602e รถยนต์ไฟฟ้าสีส้มเคลื่อนตัวเข้าสู่สนามกีฬา Olympiastadion ประเทศเยอรมนี ในฐานะรถนำขบวนนักวิ่งมาราธอนกีฬาโอลิมปิก 1972
การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าสู่สายตาชาวโลกครั้งนั้น คือการประกาศให้โลกได้เห็นถึงวิสัยทัศน์และศักยภาพที่ล้ำหน้าคู่แข่งในยุคนั้น
ใครจะคาดคิดว่าผ่านมาเกือบ 5 ทศวรรษ จากรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกที่ขับได้ไกลสุดแค่ 60 กิโลเมตร ส่งต่อความก้าวหน้า พัฒนานวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้าเรื่อยมาอีก 8 รุ่น ด้วยการค้นคว้าวิจัยอย่างไม่หยุดนิ่งจนถึงวันนี้ ที่กำลังจะเปิดตัว SUV รถอเนกประสงค์ไฟฟ้าคันแรกของค่าย ตามแผนการที่เคยประกาศไว้ว่าจะผลิตรถไฟฟ้าให้ได้ 25 รุ่นก่อนปี 2025
ตลอดเวลาเกือบ 50 ปี (1972-2020) BMW ขับเคลื่อนนวัตกรรมรถไฟฟ้ามาได้ไกลแค่ไหน เราจะพาคุณย้อนเวลากลับไปยังจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้พร้อมกัน
ถ้าการเดินทางของรถไฟฟ้า BMW ภายใน 1.43 นาที ยังอิ่มไม่พอ เลื่อนลงไปอ่านบทสรุปความรุ่งเรืองของรถไฟฟ้าทุกรุ่นกันต่อเลย
ปี 1972: BMW 1602e
ระยะทาง 60 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง
วิ่งได้ไกลเทียบเท่า กรุงเทพฯ-พระราชวังบางปะอิน
“BMW เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าครั้งแรกในฐานะรถนำขบวนนักวิ่งมาราธอนกีฬาโอลิมปิก 1972 มาพร้อมแบตเตอรี่แบบตะกั่ว-กรด 12 โวลต์ มอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 43 แรงม้า อัตราเร่ง 0-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลา 8 วินาที วิ่งได้ระยะทางใกล้-ไกลยังไม่สำคัญเท่ากับได้แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์และศักยภาพที่ล้ำหน้าคู่แข่งในยุคนั้น”
ปี 1975: BMW LS Electric
ระยะทาง 30 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง (ใช้เวลา 14 ชั่วโมง)
วิ่งได้ไกลเทียบเท่า กรุงเทพฯ-สุวรรณภูมิ
“3 ปีต่อมา BMW เผยโปรเจกต์ลับ LS Electric เปิดตัวว่าเป็นรถไฟฟ้าที่เปิดฮีตเตอร์วิ่งได้ มาพร้อมระบบคืนกำลังไฟขณะเบรก และตัวชาร์จไฟออนบอร์ดติดรถ มอเตอร์ไฟฟ้าให้พละกำลังสูงสุด 23 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลา 11.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง”
ปี 1987: BMW 325iX
ระยะทาง 150 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง
วิ่งได้ไกลเทียบเท่า กรุงเทพฯ-พัทยา
“ผลิตมาแค่ 8 คัน ก็สร้างความสั่นสะเทือนได้ ถือเป็นรถไฟฟ้ารุ่นที่ใกล้เคียงความเป็นจริงมากขึ้น เปลี่ยนมาใช้แบตเตอรี่โซเดียม-ซัลเฟอร์ มอเตอร์ไฟฟ้า 30 แรงม้า ใช้เวลาแค่ 9 วินาทีในการเร่ง 0-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่สำคัญวิ่งได้ไกลขึ้นถึง 150 กิโลเมตร ไม่แปลกที่ไปรษณีย์และเจ้าหน้าที่รัฐของเยอรมนีนำไปใช้งานในยุคนั้น”
ปี 1991: BMW E1
ระยะทาง 241 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง
วิ่งได้ไกลเทียบเท่า กรุงเทพฯ-เขาสามร้อยยอด
“4 ปีใหม่หลัง BMW ต่อยอด 325iX ให้ก้าวไกลไปอีกขั้น ถือเป็นก้าวสำคัญของรถไฟฟ้ายุคใหม่ ได้ชื่อว่าเป็นบรรพบุรุษของ BMW i3 เลยก็ว่าได้ เปิดตัว E1 ในงาน Frankfurt Motor Show แม้จะเป็นแค่ Concept Car ไม่เคยถูกผลิตใช้งานจริง แต่ก็พิสูจน์ได้ว่าสามารถวิ่งได้เร็วและวิ่งได้ไกลกว่าเดิม”
ปี 1992: BMW 325 Electric
ระยะทาง 151 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง
วิ่งได้ไกลเทียบเท่า กรุงเทพฯ-พัทยา
“ปีต่อมา BMW ทยอยผลิตรถทดสอบรุ่นนี้ออกมา 25 คัน บนพื้นฐาน 3-Series (E36) มีการปรับปรุงมอเตอร์ไฟฟ้าให้มีกำลังสูงขึ้น ตัวถังที่ใหญ่ขึ้นกว่า BMW 325iX แต่วิ่งได้พอๆ กับ BMW 325iX ทั้ง 25 คันถูกใช้โดยพนักงานของ BMW และเจ้าหน้าที่รัฐบาลเยอรมนี”
ปี 2010: BMW 1Series ActiveE
ระยะทาง 151 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง
วิ่งได้ไกลเทียบเท่า กรุงเทพฯ-พัทยา
“38 ปีหลังจาก BMW ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกเพื่อมาปรากฏโฉม มารุ่นนี้เริ่มผลิตมากขึ้นเป็น 1,000 คัน แต่ยังไม่จำหน่าย เปิดให้คนทั่วไปในอเมริกาและยุโรปได้เช่าขับแบบ Long-Term 2 ปี เพื่อให้ทีมวิศวกรเก็บข้อมูลก่อนเตรียมผลิตจำหน่ายแก่ประชาชนจริง”
ปี 2013: BMW i3
ระยะทาง 183 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง
วิ่งได้ไกลเทียบเท่า กรุงเทพฯ-ระยอง
“ในที่สุดรถไฟฟ้ารุ่นแรกของ BMW ก็ถูกผลิตขายจริงในคอนเซปต์รักษ์โลก โดยอุปกรณ์ตกแต่งภายในรถส่วนใหญ่นำมารีไซเคิลได้ และเป็นรถยนต์คันแรกที่ผลิตจากเส้นใยพลาสติกเสริมคาร์บอน (CFRP) ตัวเครื่องยนต์เองยังปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์แค่ 13 กรัมต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร เมื่อมันทำงาน ส่วนการวิ่งด้วยมอเตอร์ ค่ามลพิษของ BMW i3 จะเท่ากับศูนย์”
ปี 2014: BMW i8
ระยะทาง 37 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง
วิ่งได้ไกลเทียบเท่า กรุงเทพฯ-ปทุมธานี
“i8 ที่ขับเคลื่อนแบบใช้ระบบไฟฟ้า เปิดตัวชิมลางให้เห็นภาพลักษณ์ของรถไฟฟ้าสปอร์ตแห่งอนาคต ดีไซน์สุดล้ำด้วยประตูแบบปีกนกที่เหมือนยานอวกาศ คว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมหลายสาขามาแล้วทั่วโลก”
ปี 2014: BMW i8
ระยะทาง 600 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง (วิ่งด้วยระบบไฮบริด ใช้ไฟฟ้าและแบตเตอรี่)
วิ่งได้ไกลเทียบเท่า กรุงเทพฯ-ลำปาง
“ปีเดียวกัน รุ่นเดียวกัน แต่พัฒนาให้ขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริดที่ใช้ได้ทั้งพลังงานไฟฟ้าและน้ำมัน พร้อมเทคโนโลยี BMW eDrive ที่พัฒนาจนได้ระบบที่ดีที่สุด ทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม i8 จึงกลายเป็นรถไฟฟ้าสปอร์ตที่นักทำความเร็วทั่วโลกหมายปอง คุณเร่งความเร็วแบบหลังติดเบาะ 0-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลา 4.2 วินาที!”
Coming Soon: BMW iX3
ระยะทาง 400 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟด่วนเพียง 30 นาที
วิ่งได้ไกลเทียบเท่า กรุงเทพฯ-เขาค้อ
“หลังจาก BMW iX3 ถูกเปิดตัวครั้งแรกในเวอร์ชัน Concept Car ที่งาน Auto China 2018 ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ก็ถึงเวลาได้ออกมาทะยานบนท้องถนนเสียที และนี่จะเป็นครั้งแรกของค่ายใบพัดสีฟ้ากับ SUV ไฟฟ้า 100% คันแรกของ BMW มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 282 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหลังด้วยระบบ eDrive technology เจเนอเรชันที่ 5 จึงเป็นรถ SUV ที่ทะยานได้ไกลถึง 440 กิโลเมตรด้วยระบบชาร์จไฟด่วนเพียง 30 นาที!”
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า