สหรัฐฯ เริ่มกระบวนการออกจาก WHO อย่างเป็นทางการ, EU ปรับลดคาดการณ์ GDP ต่อเนื่อง: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (8 ก.ค. 2563)

เมื่อวานนี้ สหรัฐฯ ประกาศตัวเลขตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่ประจำเดือนพฤษภาคมที่ระดับ 5.397 ล้านตำแหน่ง สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 4.85 ล้านตำแหน่ง ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 4.996 ล้านตำแหน่ง ส่วนตัวเลขการปลดออกจากงานลดลง 5.9 ล้านตำแหน่ง สู่ระดับ 1.8 ล้านตำแหน่ง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่จำนวนผู้ติดโควิด-19 ในสหรัฐฯ รายวันเริ่มชะลอตัวลง ส่งผลให้หลายรัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์

ฌาอีร์ โบลโซนารู ประธานาธิบดีบราซิล ได้รับการยืนยันว่าติดโควิด-19 และกำลังรักษาด้วยยาไฮดรอกซีคลอโรควีน ซึ่งเป็นยาที่ปกติแล้วใช้รักษาโรคมาลาเรีย โดยเขาเริ่มมีอาการไอในระหว่างการไลฟ์ผ่านโซเชียลมีเดียเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งในตอนนั้นเขาระบุว่าเป็นเพียงโรคหวัดธรรมดาที่ไม่ร้ายแรง ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรักษาระยะห่างทางสังคมหรือสวมหน้ากากอนามัยแต่อย่างใด

โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศนำสหรัฐฯ ถอนตัวจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก (WHO) พร้อมระงับความช่วยเหลือทุกช่องทาง จากข้อกล่าวหาที่ว่า WHO ล้มเหลวในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยวานนี้รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ส่งหนังสือแสดงความจำนงถึงสหประชาชาติ (UN) อย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม การแจ้งความประสงค์ที่จะออกจาก WHO นั้นต้องดำเนินการล่วงหน้า 1 ปี ส่งผลให้การถอนตัวครั้งนี้จะมีผลในวันที่ 6 กรกฎาคม 2021 อย่างไรก็ตาม หาก โจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งในปลายปีนี้ อาจทำให้กระบวนการถอนตัวถูกยกเลิกได้ ด้านโฆษกของ UN ระบุว่า ได้รับเอกสารดังกล่าวแล้ว และอยู่ระหว่างตรวจสอบกับ WHO ว่าการขอถอนตัวของสหรัฐฯ ถูกต้องตามเงื่อนไขหรือไม่

วานนี้คณะกรรมาธิการยุโรปประกาศลดคาดการณ์ GDP สหภาพยุโรปปี 2020 ลงสู่ระดับ -8.3% ก่อนที่จะฟื้นตัวในปี 2021 ที่ระดับ 5.8% ลดลงจากการคาดการณ์ครั้งก่อนเมื่อเดือนพฤษภาคม ที่คาดว่าเศรษฐกิจจะหดตัว 7.4% ในปี 2020 และขยายตัว 6.1% ในปี 2021 จากผลของการปิดเมืองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และแม้ว่ามาตรการผ่อนคลายการปิดเมืองจะเริ่มขึ้นแล้ว แต่กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังไม่กลับมาอย่างสมบูรณ์

Novavax บริษัทผู้คิดค้นและพัฒนาวัคซีนสัญชาติสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ได้ลงนามในข้อตกลงร่วมกับรัฐบาลสหรัฐฯ ในโครงการ Operation Warp Speed เพื่อเร่งผลิตวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโคโรนาให้ได้ 100 ล้านโดสภายในต้นปี 2021 ด้วยจำนวนเงินสนับสนุนกว่า 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นวงเงินสูงที่สุดนับตั้งแต่รัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามร่วมกับบริษัทเอกชน โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ลงนามสนับสนุนบริษัทยาภายใต้โครงการดังกล่าวร่วมกับ AstraZeneca, Moderna Therapeutics, Johnson & Johnson, Merck และ Sanofi

ภาวะตลาดวานนี้

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงจากปัจจัยจำนวนผู้ติดโควิด-19 ที่ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนที่เริ่มเทขายทำกำไรหลังตลาดปรับตัวขึ้นมาแรงในวันจันทร์ที่ผ่านมา สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวลงเช่นเดียวกัน หลังตัวเลขเศรษฐกิจของเยอรมนีออกมาไม่ค่อยดีนัก รวมไปถึงการที่คณะกรรมาธิการยุโรปได้ปรับลดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะหดตัวลง 8.3% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ระดับ -7.4% แสดงถึงเศรษฐกิจอาจฟื้นตัวช้ากว่าที่เคยคาดไว้

สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงเล็กน้อยจากความกังวลที่เศรษฐกิจจะชะลอตัวไปอีกระยะหลังจำนวนผู้ติดโควิด-19 เพิ่มขึ้นจนอาจส่งผลให้ต้องปิดเมืองอีกครั้ง และทำให้อุปสงค์น้ำมันลดลง แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ อาจลดลง ซึ่งจะประกาศอย่างเป็นทางการในค่ำคืนนี้ ด้านสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นจากปัจจัยจำนวนผู้ติดโควิด-19 ที่ยังเพิ่มขึ้นและไม่มีทีท่าสิ้นสุด ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หวั่นเศรษฐกิจอาจกลับมาซบเซาอีกครั้ง

สหรัฐฯ