พงษ์อนันต์ ธณัติไตร ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้ารายย่อยและเครือข่ายการขายของธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่าในปีนี้เห็นเทรนด์เงินฝากเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยปัจจุบันในตลาดเงินฝากรวมเติบโตขึ้น 8% จากสิ้นปี 2562 ที่ผ่านมา สูงขึ้นกว่าช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เงินฝากเติบโตปีละ 3-4% ส่วนหนึ่งที่ปีนี้เงินฝากเพิ่มขึ้นมาเพราะคนมีความกังวลมากขึ้นและหันมาเก็บออม ขณะที่ฝั่งนักลงทุนปรับจากสินทรัพย์เสี่ยงมาเป็นเงินออมทรัพย์มากขึ้น
ทั้งนี้แม้กลุ่มเงินฝากออมทรัพย์ในตลาดรวมเติบโต 14% จากสิ้นปีก่อน ขณะที่กรุงศรีฯ เพิ่มขึ้น 16% แต่ภาพรวมการออมของไทยยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่หนี้ครัวเรือนกลับอยู่ในภาวะสูงต่อเนื่อง ทางกรุงศรีฯ จึงเปิดตัวแพลตฟอร์มบริหารและช่วยจัดการเงินผ่าน 3 บัญชี ได้แก่ Kept, Grow และ Fun
ด้านผู้ที่ใช้บริการ Kept สามารถโอนเงินเข้ามายังบัญชี Kept เพื่อตั้งเป้าหมายการใช้จ่าย โดยสามารถแบ่งส่วนที่ต้องการเก็บออมไปที่บัญชี Grow โดยจะได้รับอัตราดอกเบี้ย 1.6% ต่อปี (เมื่อฝากเงินครบ 1 ปี อัตราดอกเบี้ยจะขยับขึ้นเป็น 1.8% ต่อปี และเมื่อผ่านไป 1 ปีจะเป็นดอกเบี้ยตามภาวะตลาด) ซึ่งสามารถให้ดอกเบี้ยสูงได้ เพราะบัญชีออนไลน์มีต้นทุนไม่สูงมาก
ส่วนบัญชี Fun จะเป็นบัญชีที่ช่วยเก็บเงินจากการใช้จ่ายของผู้ใช้แอปฯ จะมี 2 ฟีเจอร์หลักคือ ‘แอบเก็บ’ ผู้ใช้แอปฯ สามารถตั้งค่าได้ว่าทุกการใช้จ่ายจะหักเงินมาออมไว้เท่าไร และฟีเจอร์ ‘สั่งเก็บ’ จะใช้เพื่อกำหนดว่าจะเก็บเงินเมื่อไร สามารถเลือกจำนวนได้ อย่างไรก็ตามสามารถเก็บเงินในบัญชี Kept ไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อบัญชี
ดังนั้นกลุ่มเป้าหมายของแอปพลิเคชันนี้คือกลุ่ม Young Money กลุ่มอายุ 10 ปีต้นๆ ไปจนถึง 22-23 ปี และกลุ่ม Growing Money อายุ 24-40 ปี เป็นกลุ่มที่มีเงินแล้วและอยากเก็บเงินให้มากขึ้น
ทั้งนี้ทางกรุงศรีฯ คาดว่าหลังจากการเปิดตัว Kept 12 เดือนหลังจากนี้จะมีผู้ดาวน์โหลดใช้งาน 2 แสนราย มีเงินฝากเฉลี่ยรายละ 20,000 บาท และมีเงินฝากเพิ่มขึ้นราว 4,000-5,000 ล้านบาท
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
