นับเป็นก้าวย่างสำคัญอีกครั้งสำหรับระบบการศึกษาของประเทศไทย เมื่อมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี หรือ มจธ. ลงนามความร่วมมือกับ SEAC ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียน เพื่อพันธกิจส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) ของคนไทยทุกเพศวัย มุ่งเป้าผลักดันให้คนไทยแข่งขันด้านทรัพยากรมนุษย์กับทั่วโลกได้อย่างทัดเทียม
สำหรับข้อตกลงดังกล่าว เป็นความร่วมมือกันในการพัฒนาหลักสูตรประกาศนียบัตร (Non-Degree) ทั้งในรูปแบบหลักสูตรประกาศนียบัตร (Non-Degree) ระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E–Learning) และระบบออนไลน์ (Online Learning) แบบห้องเรียน (Classroom Learning) และรูปแบบอื่นๆ ให้กับกลุ่มเป้าหมายหลัก 3 กลุ่ม ได้แก่ นักศึกษา บุคลากรในภาคธุรกิจ-อุตสาหกรรม และบุคคลทั่วไป โดยมุ่งเน้นการยกระดับและสร้างกำลังคนคุณภาพที่ผสมผสานทั้งทักษะด้าน Hard Skills (ความรู้เชิงเทคนิค) และ Hyper- Relevant Skills (ความรู้และทักษะที่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน)
คุณอริญญา เถลิงศรี กรรมการผู้จัดการ SEAC ได้แสดงวิสัยทัศน์ให้เห็นความสำคัญของการลงนามความร่วมมือครั้งนี้ว่า นี่คืออีกหนึ่งก้าวความสำเร็จ
ของการพัฒนาการศึกษาของคนไทยทั้งประเทศ “วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่ยิ่งใหญ่สำหรับดิฉัน กว่า 28 ปีแล้วที่ SEAC ตั้งโจทย์ว่าอยากทำให้คนไทยเก่งขึ้นจนสามารถเทียบเท่าเวทีโลก และส่วนตัวไม่เชื่อเลยว่าการศึกษาจะต้องอยู่กับเฉพาะวัยนักศึกษาเท่านั้น คำถามคือเราจะสามารถเข้าถึงการเรียนรู้ที่ดี ได้ทุกที่ ทุกวัย ได้อย่างไร ซึ่ง SEAC ตอบโจทย์นี้ด้วย YourNextU แพลตฟอร์มการเรียนรู้แรกของโลกที่เป็นแบบผสมผสาน (Blended Learning Platform) เพื่อต้องการตอบโจทย์ New Economy นอกเหนือไปจากหลักสูตรหลักที่เราต้องเรียนในสถาบัน ตามที่ World Economic Forum ได้มีการพูดถึง ‘คน’ กับองค์ความรู้เดิมไว้ว่าแค่นี้ไม่เพียงพอแล้ว และทักษะที่จำเป็นนอกเหนือจากทักษะด้าน Hard Skills นั่นคือ Hyper-Relevant Skills ซึ่งรวมไปถึงด้าน Mindset, Communication Skill, Presentation Skill, Agility และทักษะทางด้าน EQ ที่ SEAC เองได้นำมาสอน เพื่อตอบโจทย์ตลาดแรงงานมากกว่า 1,500 หลักสูตร ใน 30 หมวดหมู่ เพื่อต้องการให้คนไทยสามารถก้าวทันความเปลี่ยนแปลงท่ามกลางวิกฤต เพิ่มขีดความสามารถให้ก้าวสู่อันดับต้นของภูมิภาค เพราะการศึกษาคือหัวใจสำคัญในการเพิ่มคุณค่าของมนุษย์ และช่วยตอบโจทย์ทุกเป้าหมายของการใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบ (Empower Living) สิ่งที่ SEAC ต้องการมอบให้ประเทศไทยคือ เราจะไม่ได้จับปลาให้คนไทย แต่เราต้องการสอนคนไทยให้จับปลา หรือตกปลาเป็น และรู้ว่าบ่อปลาอยู่ที่ไหน เพราะเราเชื่อว่าคนไทยจะจับปลาได้ไม่น้อยกว่าประเทศใดในระดับสากล จึงเกิดมาเป็นความร่วมมือในครั้งนี้ค่ะ”
ด้าน รศ.ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ก็ได้แสดงวิสัยทัศน์ในหัวข้อ ‘ก้าวสำคัญของมหาวิทยาลัยไทย พัฒนาศักยภาพนักศึกษา สร้างบุคลากรคุณภาพ ยกระดับมาตรฐานนักวิจัย ติดอาวุธให้คนไทยด้วยทักษะจำเป็นต่อตลาดงานในปัจจุบัน’ ไม่ว่าใคร วัยไหน ก็ต้องสามารถเรียนรู้ได้ ต่อยอดจากหลักสูตร ‘ตามใจคุณ’ ที่เราเคยทำมาก่อนหน้านี้ สะดวกกว่านั้นคือ คุณสามารถรับปริญญาตรีสาขาที่สนใจได้เลย โดยไม่ต้องมานั่งเรียน 4-5 ปี ตลอดเวลาเหมือนในอดีต เพียงแต่ต้องผ่านการทดสอบของสถาบัน และ Register เพื่อเป็นการบันทึกข้อมูลเก็บไว้ ก่อนมาดูว่ายังขาดและต้องเพิ่มความรู้เรื่องใดบ้าง ตามข้อกำหนดของ มจธ. ในปริญญาบัตรแต่ละสาขานั้นๆ
“มจธ. เชื่อว่านักศึกษาและอาจารย์ต้องมีคุณภาพ หูตากว้างไกล มีเครือข่าย พร้อมทั้งทำวิจัยสร้างองค์ความรู้ใหม่ตลอดเวลา ต้องออกไปบริการด้านสังคม บริการ และอุตสาหกรรม เพื่อต่อยอดในการสร้างผลประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศชาติ ปัจจุบันเทคโนโลยีและนวัตกรรมไปไกลขึ้นมาก ดังนั้นเราต้องมีการบริหารจัดการที่ดี ครั้งนี้คือการร่วมมือกับภาคเอกชน ที่ไม่ใช่แค่ Project Based ทำครั้งเดียวจบ แต่เป็นสร้างพันธมิตรในระยะยาว ตั้งเป้าหมายชัดเจน สู่การขยายฐานการเรียนรู้และพัฒนาคนในประเทศกว่า 30–40 ล้านคน เราจึงมีหลักสูตร ‘ตามใจคุณ’ (Individual Learning) โดยไม่จำเป็นต้องเน้นที่ใบปริญญา และไม่ต้องเป็นนักศึกษาของ มจธ. แต่ให้ผู้เรียนทุกกลุ่มสามารถเอาความรู้มาประยุกต์ใช้กับสถานการณ์รูปแบบใหม่ๆ ได้ไม่จำกัดระยะเวลาในการเรียนรู้ และกลับมาเรียนซ้ำได้ตามต้องการ สามารถสะสมเครดิตในวิชาที่เราทำข้อตกลงกับ SEAC เพื่อรับใบปริญญาได้อีกด้วย มหาวิทยาลัยพร้อมรองรับคนทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็กถึงวัยหลังเกษียณ ผู้สนใจ ใฝ่รู้ หรือแม้แต่ผู้ที่ทำงานอยู่แล้วขาดวุฒิ ก็เข้ามา Reskill หรือ Upskill ที่มหาวิทยาลัยได้ เพื่อหาสิ่งที่เหมาะสมกับตนเอง ไม่จำเป็นต้องมาเป็นนักศึกษาแบบเดิมๆ คือ 4-5 ปี ต่อจากนี้ผู้สนใจจะเข้ามาเรียนหลักสูตรที่สนใจ เพื่อให้ได้ทักษะและออกไปทำงาน เมื่อทำงานคิดว่าต้องการทักษะเพิ่มขึ้น ก็กลับมาเรียนเพิ่มได้เรื่อยๆ เป็น Lifetime University คือมหาวิทยาลัยเพื่อให้การเรียนรู้ตลอดชีวิต” รศ.ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย กล่าว
นอกจากนั้นในปีแรกจะมีคอร์สนำร่องภายในประเทศ อาทิ การออกแบบคอร์สเพื่อสร้างกลุ่มอาชีพใหม่ป้อนภาคการศึกษา ได้แก่ Online Instructional Designer (นักออกแบบการสอนแบบออนไลน์) Virtual Learning Facilitator (อาจารย์เกื้อหนุนสำหรับการเรียนแบบออนไลน์) และ Data Scientist Facilitator (อาจารย์เกื้อหนุนด้าน Data Science) นอกจากนี้ยังมีแผนการพัฒนาหลักสูตรประกาศนียบัตรด้าน Business Mindset ให้กับบุคลากรสายวิทยาศาสตร์ นักวิจัย ตลอนจนแผนการใช้หลักสูตรออนไลน์สำหรับจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนขนาดใหญ่ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในเรื่องการจัดการห้องเรียนภายใต้นโยบาย Social Distancing เป็นต้น
การลงนามความร่วมมือครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญของวงการศึกษาและวงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในหลายๆ มิติ ที่สถาบันการศึกษาของภาครัฐจับมือกับองค์กรด้านการเรียนรู้ภาคเอกชน เพื่อร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างกำลังคนคุณภาพให้กับประเทศไทย ผสานความเข้มแข็งของทั้งสององค์กร ลดปัญหาแรงงานไม่มีคุณภาพ หรือการผลิตคนไม่ตรงกับความต้องการ รวมทั้งปัญหาการว่างงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและสังคมต่อไป
สำหรับใครที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ SEAC https://www.facebook.com/seasiacenter/