หลังจากที่กลับมาเปิดม่านอีกครั้งด้วย 2 เกมนัดตกค้างเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา คืนนี้ (19 มิถุนายน) ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกจะได้เริ่มต้นเดินหน้าไปพร้อมกันด้วยโปรแกรมแมตช์เดย์ที่ 30 ซึ่งมีด้วยกัน 2 คู่ และคู่ที่อยู่ในความสนใจของแฟนบอลย่อมเป็นเกมคู่บิ๊กแมตช์ระหว่าง ‘ไก่เดือยทอง’ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ พบกับ ‘ปีศาจแดง’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เกมนี้มีหลายอย่างที่น่าสนใจ สำหรับฝั่งเจ้าบ้านแล้ว การกลับมาของกำลังสำคัญอย่าง แฮร์รี เคน และซนฮึงมิน รวมถึง สตีเวน เบิร์กไวจ์น ปีกดาวรุ่งน้องใหม่ เป็นเหมือนการถูกรางวัลใหญ่แบบไม่คาดฝันในช่วงโควิด-19
แต่สำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด การได้ พอล ป็อกบา กลับมาลงสนามอีกครั้ง (รวมถึง มาร์คัส แรชฟอร์ด ฮีโร่ของชาวเมืองและคนอังกฤษในเวลานี้) ก็ถือเป็นโบนัสที่ใหญ่กว่ารางวัลเลขท้าย 2 ตัวเยอะมากเช่นกัน
เพียงแต่มันก็นำมาซึ่งคำถามสำคัญ เพราะก่อนหน้าที่โควิด-19 จะระบาด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ในช่วงเวลาที่ดีที่สุดอีกครั้ง เมื่อพวกเขาไม่แพ้ใครติดต่อกัน 11 นัด จัดการทีมใหญ่อย่างเชลซีและแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้อย่างราบคาบ
จุดสำคัญคือทีมชุดที่กำลังทำผลงานได้ดีนี้มีแกนกลางคนใหม่ที่ชื่อ บรูโน แฟร์นันด์ส ไม่ใช่ พอล ป็อกบา อดีตนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลก
จอมทัพลูกหนังชาวโปรตุเกสซึ่งย้ายมาจากสปอร์ติง ลิสบอน ในช่วงก่อนตลาดการซื้อขายรอบเดือนมกราคมจะปิดตัวลง สามารถปรับตัวเข้ากับทีมใหม่ได้อย่างรวดเร็ว และแก้ไขปัญหาเกมของยูไนเต็ดที่เล่นกันคนละทิศคนละทางให้กลับมาเป็นไปในทิศทางเดียวอีกครั้ง
นอกจากนี้บรูโนยังสามารถดึงศักยภาพของผู้เล่นคนอื่นๆ รอบตัวให้โดดเด่นตามขึ้นมาด้วย ทำให้เขาได้รับการเปรียบเทียบว่าเป็น พอล สโคลส์ ตำนานแดนกลางแห่งโอลด์แทรฟฟอร์ดที่กลับมาเกิดอีกครั้งในยุคสังคมออนไลน์
หนึ่งในคนที่กลายเป็นแฟนตัวยงของบรูโนไปแล้วคือ ไรอัน กิกส์ ตำนานตลอดกาลของชาวปีศาจแดง “เขาทำให้นักเตะรอบๆ ตัวเขาเล่นได้ดีขึ้น” กิกส์กล่าวถึงน้องใหม่ที่มาแรงแซงโค้งและมีความสำคัญเหลือเกิน
“เขาทำให้ทุกคนมีขวัญและกำลังใจ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนนักเตะ สตาฟฟ์ แฟนๆ เขาเข้ากับทีมได้แทบจะทันที ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ทุกคนภาวนาเสมอเวลาที่มีนักเตะใหม่เข้ามา เขาเป็นผู้เล่นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแท้ๆ ดูได้จากเวลาที่เขาได้รับบอล ซึ่งเขาเป็นผู้เล่นที่น่าตื่นเต้นและน่าจับตามองอย่างมาก”
เรื่องที่น่าคิดคือสิ่งที่บรูโนทำได้ก็คือสิ่งที่ทุกคนเคยฝันว่าป็อกบาจะเป็นคนทำ
และในเมื่อมีคนทำหน้าที่แทนได้แล้ว ป็อกบาจะยังเป็นคนที่ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ต้องคิดถึงหรือไม่
ถ้าป็อกบาทำให้โซลชาร์ได้งานคุมทีมถาวร บรูโนก็คือคนที่ช่วยเซฟเก้าอี้ผู้จัดการทีมให้นายใหญ่ชาวนอร์เวย์
คนละสไตล์ แต่หัวใจเดียวกัน
การตั้งคำถามถึงความสามารถของป็อกบาอาจเป็นเรื่องที่ไม่สมควรนัก เพราะไม่ว่าจะรักหรือชัง ทุกคนรู้ดีว่านักเตะทีมชาติฝรั่งเศสคือนักฟุตบอลที่เก่งกาจหาตัวจับได้ยาก
พรสวรรค์ เทคนิค ความสามารถเฉพาะตัว และการเล่นที่เหลือเชื่อ ทำให้เขากลายเป็นคนที่โดดเด่นและแตกต่างจากคนอื่นมาโดยตลอด
เพียงแต่ปัญหาของป็อกบาตลอดเวลาที่อยู่ในโอลด์แทรฟฟอร์ดคือการที่เขาไม่ได้เล่นเต็มศักยภาพของตัวเอง ซึ่งก็เป็นคำถามโลกแตกระหว่างไก่กับไข่ว่าต้นตอของเรื่องเกิดจากการที่ตัวเขาเองไม่ตั้งใจจะเล่นให้เต็มที่ หรือเป็นเพราะเพื่อนร่วมทีมและระบบการเล่นไม่เอื้ออำนวยต่อการรีดเร้นขีดความสามารถของตัวเขาออกมาเหมือนที่ยูเวนตุสเคยทำได้
เพราะอย่าลืมว่าการที่โซลชาร์ได้ตำแหน่งผู้จัดการทีมถาวรก็เกิดจากฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นของป็อกบาในช่วงแรกที่เขาเข้ามาคุมทีม ก่อนที่ทุกอย่างจะเป็นไปอย่างกระท่อนกระแท่น ถึงขั้นมีเสียงเรียกร้องให้ปลดนายใหญ่ชาวนอร์เวย์ออกจากตำแหน่งเลยทีเดียว
แต่การมาของบรูโนช่วย #SaveOle เอาไว้ (ท่ามกลางความโล่งอกของแฟนบอลหลายทีมในตอนแรก ก่อนจะกลายเป็นความเสียใจในภายหลัง เพราะยูไนเต็ดร้อนแรงเหลือเกิน)
สำหรับป็อกบา สิ่งที่เขาโดดเด่นที่สุดคือเรื่องของความสามารถในการสร้างสรรค์เกม และจะทำเช่นนั้นได้ก็ต่อเมื่อมี ‘อิสระ’ ในการเล่น และมีเพื่อนที่เข้าใจ พร้อมจะเล่นในแบบที่เขาต้องการ
จุดอ่อนคือในบางครั้งการเล่นแบบเห็นแก่ตัวทำนอง ‘ข้ามาคนเดียว’ หรือข้าต้องเด่นกว่าคนอื่น ทำให้กลายเป็นผลร้ายต่อทั้งทีม และสุดท้ายคือต่อตัวของเขาเอง
ขณะที่บรูโนเป็นกองกลางห้องเครื่องแบบเดียวกัน แต่เล่นในสไตล์ที่แตกต่างกัน เพราะสำหรับกองกลางชาวโปรตุเกส เขาพร้อมจะช่วยเพื่อให้เพื่อนร่วมทีมได้เล่นง่ายที่สุด ทำให้รูปเกมมีไดนามิก มีการขับเคลื่อนที่ลื่นไหล ถูกต้อง
แต่ในเวลาเดียวกัน เขาเองก็เคยถูกวิจารณ์ในเรื่องของสไตล์การเล่นที่เรียกบอลค่อนข้างมากและการผ่านบอลที่ไม่ละเอียด (แม้ว่าจะดีขึ้นมากเมื่อย้ายมาเล่นในอังกฤษ) และการเล่นแบบกล้าได้กล้าเสียที่หากผิดแผนขึ้นเมื่อไรก็ร้องไห้หนักมากทันที
ดังนั้นเราพอจะมองเห็นภาพได้ว่าทั้งสองคือกองกลางจอมทัพเหมือนกัน เป็นกองกลางที่มีวิสัยทัศน์เหมือนกัน ผ่านบอลได้อย่างแม่นยำเหมือนกัน
เพียงแต่ป็อกบาจะมีความอภินิหารมากกว่าเล็กๆ เป็นสไตล์ One-man Show ส่วนบรูโนมีความเป็น Team Player มากกว่า
และจุดที่แตกต่างคือเรื่องของการหาโอกาสยิงประตู ที่บรูโนจะหาโอกาสสับไกบ่อยกว่า (อาจจะเพราะคิดน้อยกว่า!)
ป็อกบาเป็นผู้เล่นที่สร้างโอกาสได้มากที่สุดของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้ (แม้ว่าแทบจะไม่ได้เล่นก็ตาม)
ป็อกบา + บรูโน จะเป็นไปได้ไหม?
แม้ผลงานของป็อกบาในฤดูกาลนี้จะไม่ดีนัก และยังมีปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บที่ดูเหมือนการป่วยการเมือง เพราะเขาต้องการย้ายออกจากโอลด์แทรฟฟอร์ด แต่ติดปัญหาที่ไม่มีใครซื้อไปร่วมทีม และการย้ายทีมในช่วงหลังโควิด-19 สำหรับนักเตะระดับนี้อาจเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย
แต่นักเตะในระดับนี้ เมื่อกลับมาแล้วไม่เลือกใช้งานก็ถือเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องนัก
โซลชาร์กล่าวถึงเรื่องที่ป็อกบาและบรูโนจะเล่นร่วมกันว่า “นักฟุตบอลที่ดีสามารถจะเล่นด้วยกันได้เสมอ ดังนั้นแน่นอนว่าทั้งคู่จะเล่นด้วยกันได้อย่างแน่นอน และผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นอย่างมาก
“ยังมีเกมอีกมากให้เล่น และผมมั่นใจว่าเราจะหาการเชื่อมโยงที่ดีระหว่างทั้งสองคน เราคุยเรื่องนี้ในกลุ่มสตาฟฟ์โค้ชกันมาแล้ว และเราก็รอที่จะได้เห็นมัน”
เมื่อจินตนาการถึงเรื่องนี้ หากเป็นจริงขึ้นมา สิ่งที่เราน่าจะได้เห็นคือการปรับระบบการเล่นใหม่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ก่อนหน้านี้พวกเขาใช้ระบบการเล่นแบบ Double Pivot หรือกองกลางตัวรับคู่ โดยมี เฟร็ด และเนมันยา มาติช คอยทำงาน ‘หลังบ้าน’ และให้อิสระแก่บรูโนในการขับเคลื่อนเกมอย่างมีอิสระ
ทีนี้หากมีทั้งป็อกบาและบรูโนลงเล่นพร้อมกัน นั่นหมายถึงจะต้องมีใครคนใดคนหนึ่งระหว่างเฟร็ด, มาติช และอีกคนที่เด่นไม่แพ้กันคือ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ หายกลับมาทำงานหลังบ้านให้
ขณะที่ในแนวรุกจะมีศูนย์หน้าเดี่ยวที่คาดว่าจะเป็น อ็องโตนี มาร์กซิยาล และริมเส้นเป็นสองนักเตะสายเลือดสโมสรอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด และเมสัน กรีนวูด ที่เป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์ที่ทำให้ประสิทธิภาพของเกมรุกดีขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงก่อนโควิด-19
เช่นนี้บรูโนมีโอกาสจะเป็นตัวคุมจังหวะเกมมากกว่า ขณะที่ป็อกบา นอกจากการเปิดบอลยาวที่แม่นยำซึ่งจะเพิ่มความอันตรายอย่างมากเมื่อมีนักเตะสายฟ้าฟาดแบบแรชฟอร์ดหรือมาร์กซิยาลอยู่ในทีม ก็ยังสามารถขยับขึ้นสูงได้ตามใจชอบเพื่อเติมเข้ามาเล่นในเขตโทษแบบที่ถนัดได้ด้วย
ฟังดูแบบนี้แล้วก็น่าตื่นเต้น และอยู่ที่โซลชาร์เองที่จะบาลานซ์เกมแดนกลางอย่างไรให้ลงตัว
อย่างไรก็ดี สำหรับในเกมเยือนสเปอร์สคืนนี้ ด้วยสภาพร่างกายของป็อกบาที่ห่างหายจากสนามไปนาน การลงเล่นตัวจริงหรือการเล่นเต็มเกมเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก แต่อย่างน้อยเราน่าจะพอมีโอกาสได้เห็นอย่างแน่นอนสำหรับปีศาจแดงโฉมใหม่
ที่หากมันออกมา ‘เวิร์ก’ อีก บางทีปีหน้าอาจจะคิดฝันไปได้ไกลในระดับ To infinity… and BEYOND!
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
- https://www.bbc.com/sport/football/51787532
- https://www.skysports.com/football/news/11667/12007109/paul-pogba-and-bruno-fernandes-to-transform-manchester-united
- https://www.bbc.com/sport/football/53099643
- ป็อกบาและบรูโนเป็นสองผู้เล่นที่สร้างโอกาสได้มากที่สุดในทีม โดยรายแรกมีค่าเฉลี่ย 2.8 ครั้งต่อเกม ขณะที่คนหลัง 2.2 ครั้ง
- ขณะที่ในเรื่องของโอกาสการยิงประตู บรูโนคือคนที่หาโอกาสส่องเป้ามากที่สุดในทีม ค่าเฉลี่ย 3.8 ครั้งต่อเกม มากกว่าแรชฟอร์ด, กรีนวูด หรือมาร์กซิยาล ส่วนป็อกบา 2.4 ครั้ง
- นี่จะเป็นเกมแรกที่ โชเซ มูรินโญ ได้คุมทัพเจอทีมเก่าอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด