วันนี้ (17 มิถุนายน) พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงความขัดแย้งระหว่างการประชุม ส.ส. ของพรรค ระหว่างสิระ เจนจาคะ และไผ่ ลิกค์ เรื่องคุณสมบัติของกรรมการบริหารพรรคจะต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับคดียาเสพติดว่า ส่วนตัวไม่ทราบ เป็นเรื่องที่สิระคิดเอง คิดคนเดียว ต้องไปถามเจ้าตัวดู ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นจะไม่ทำให้เกิดความขัดแย้งภายในพรรค
ส่วนความพร้อมในการดำรงตำแหน่งหากถูกเลือกเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พล.อ. ประวิตรระบุว่า ยังไม่รู้ แล้วแต่สมาชิกพรรค แม้จะมีการเสนอชื่อแคนดิเดตหัวหน้าพรรคเพียงชื่อเดียว ก็ไม่รู้ ไม่รู้ว่าพร้อมจะทำงานให้พรรคหรือยัง
เมื่อถามว่าพรรคพลังประชารัฐจะยึดหลักใดในการทำงาน เนื่องจากเป็นการรวมตัวของ ส.ส. จากหลายกลุ่ม พล.อ. ประวิตร ระบุว่า ต้องมีความเป็นหนึ่งเดียว คิดเป็นหนึ่งเดียว คิดเหมือนๆ กัน แต่ละคนจะต้องหลอมรวมให้เกิดความคิดอันเดียวกัน ที่จะทำให้พรรคมีความเข้มแข็ง ซึ่งในฐานะที่เป็นพี่ใหญ่สุด หากจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะทำอย่างไรไม่ให้เกิดความขัดแย้งแย่งชิงตำแหน่งกัน พล.อ. ประวิตรยืนยันว่า ไม่มีการต่อรองตำแหน่งกัน ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว นายกรัฐมนตรีให้ไปทำงาน พรรคก็สนับสนุนเท่านั้นเอง
.
ส่วนที่นายกรัฐมนตรีให้แต่ละพรรคไปเตรียมความพร้อมตัวบุคคลและเสนอให้เป็นรัฐมนตรี ต้องไปถามนายกรัฐมนตรีเอง ตนไม่รู้ แต่นายกรัฐมนตรีรู้หมดคนไหนเป็นคนไหน และยอมรับว่าบุคคลที่จะเป็นรัฐมนตรี ในส่วนของพลังประชารัฐและพรรคอื่นๆ นายกรัฐมนตรีดูทั้งหมดและดูทุกพรรค ตนเองไม่ต้องไปแนะนำ เพราะไม่มีความคิด เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี และไม่ขอประเมินการปรับ ครม. ครั้งต่อไป แล้วแต่นายกรัฐมนตรี เพราะนายกรัฐมนตรีรู้ว่าจะทำอย่างไรที่จะนำพาคณะรัฐมนตรีไปได้ และยืนยันว่าไม่กังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ เพราะตนตอบได้ทั้งหมด
ส่วนการที่ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลาออกจากหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย จะสะท้อนว่ากำลังจะปรับ ครม. ใช่หรือไม่ พล.อ. ประวิตร ระบุว่า ตนไม่รู้ ต้องไปถามพรรคของ ม.ร.ว.จัตุมงคลเอง จะมาถามอะไรตน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์