จิตเกษม หมู่มิ่ง ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI เปิดเผยว่าภาพรวมผลการดำเนินงานงวดปี 2563/2564 ยังไม่สามารถประเมินเป้าหมายเป็นตัวเลขที่ชัดเจนได้ เนื่องจากต้องรอให้โควิด-19 คลี่คลาย โดยยอมรับว่าในช่วงงวดครึ่งปีแรก (เมษายน-กันยายน 2563) ผลประกอบการจะชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจและการบริโภคสื่อที่ลดลง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่ 1 (เมษายน-มิถุนายน 2563)
อย่างไรก็ตาม คาดว่าทิศทางในงวดครึ่งปีหลัง (ตุลาคม 2563 – มีนาคม 2564) ผลประกอบการจะเริ่มกลับมาดีขึ้น ตามภาวะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่คลี่คลาย และบริษัทจะรับรู้ยอดจองการใช้สื่อที่ถูกเลื่อนมาจากงวดปี 2562/2563 ประมาณ 50% เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนุน
“ตอนนี้สถานการณ์ยังไม่ปกติ เราจึงไม่สามารถไกด์ไลน์ทั้งยอดขายหรือกำไรได้ แต่ที่เรามองคือเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจว่าจะเป็น U Shape คือช่วงเริ่มฟื้นตอนไตรมาสที่ 3 ซึ่งตรงกับงวดเดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2563 และจะเริ่มฟื้นชัดเจนช่วงไตรมาสที่ 4 คือเดือนมกราคมถึงมีนาคม 2564 ซึ่งเรามียอดจองการใช้สื่อหรือ Backlog ประมาณ 50% ของปีที่แล้ว โดยบริษัทต้องพยายามไม่ให้ลูกค้ายกเลิกยอดดังกล่าว รวมถึงหารายใหม่เข้ามา”
ด้านงบลงทุนในงวดปีนี้ บริษัทปรับเป้าหมายการลงทุนเหลือ 400 ล้านบาท จากเดิมปกติในแต่ละงวดปีจะตั้งเป้าการใช้ประมาณ 1,000 ล้านบาท เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง โดยจะใช้เงินเพื่อปรับปรุงรูปแบบสื่อนอกบ้าน (Out of Home Media – OOH) เป็นระบบดิจิทัล สื่อบนรถไฟฟ้า BTS สถานีใหม่ๆ เช่น โซนห้าแยกลาดพร้าว และระบบข้อมูลต่างๆ เช่น ระบบข้อมูลของ Rabbit
ทั้งนี้บริษัทดำเนินงาน 3 รูปแบบหลักเพื่อช่วยพยุงรายได้จากผลกระทบโควิด-19 ทั้งเน้นช่องทางรายได้จากสื่อออนไลน์เพิ่ม ซึ่งปัจจุบันมีรายได้เข้ามาประมาณ 30% ของรายได้จากสื่อทั้งหมด เน้นลดต้นทุนในปีนี้ ตั้งเป้าประมาณ 100 ล้านบาท เช่น เจรจาขอส่วนลดกับซัพพลายเออร์ และลดงบลงทุนลงเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้บริษัท
สำหรับธุรกิจบริษัทร่วมอย่าง Kerry Express (Thailand) ซึ่ง VGI ถือหุ้นอยู่ 23% ยอมรับว่าในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 มีผลประกอบการดีในส่วนการขนส่งเพิ่มขึ้น 40-50% ต่อวัน หรือจาก 1.1 ล้านชิ้นต่อวันเป็น 1.5-1.6 ล้านชิ้นต่อวัน ทั้งนี้บริษัทพร้อมที่จะซื้อหุ้นในธุรกิจดังกล่าวเพิ่ม หาก Kerry เสนอการขายในราคาที่บริษัทพอใจ
ด้านภาพรวมอุตสาหกรรมสื่อในปี 2563 ภายใต้ผลกระทบโควิด-19 ตลาดคาดว่าติดลบ 4.4% หรือมีมูลค่าลดลงจากปีก่อนเหลือ 1.16 แสนล้านบาท ซึ่งลดลงทั้งสื่อโทรทัศน์ โฆษณา หนังสือพิมพ์ และสื่อนอกบ้าน แต่ภาพรวมสื่ออินเทอร์เน็ตเติบโตขึ้น 10%
รายงาน ชุติมา อภิชัยสุขสกุล
ติดตามข่าวสารการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่: www.efinancethai.com