วันนี้ (1 มิถุนายน) ที่พรรคพลังประชารัฐ อาคารปานศรี ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวยื่นหนังสือถึง อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ด้วยจดหมายลาออกจากตำแหน่ง 18 ฉบับของกรรมการบริหารพรรค 18 คน ได้แก่
- สันติ พร้อมพัฒน์
- ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์
- สุพล ฟองงาม
- ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า
- บุญสิงห์ วรินทร์รักษ์
- ไผ่ ลิกค์
- นิโรธ สุนทรเลขา
- สัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ
- ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ
- พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์
- ชาญวิทย์ วิภูศิริ
- สกลธี ภัททิยกุล
- สัมฤทธิ์ แทนทรัพย์
- สุรชาติ ศรีบุศกร
- นิพันธ์ ศิริธร
- สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
- สมศักดิ์ เทพสุทิน
- พงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ
โดยหนังสือลาออกนี้มีผลตั้งแต่วันนี้ (1 มิถุนายน) เป็นต้นไป จึงจะเป็นเหตุที่ส่งผลให้จำนวนกรรมการบริหารพรรคว่างลงเกินกึ่งหนึ่ง (17 คน) ทำให้กรรมการบริหารพรรคทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่งตามข้อบังคับที่ 15 วรรค 2 และต้องเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ภายใน 45 วัน ซึ่งหัวหน้าพรรคจะต้องเรียกประชุมรักษาการกรรมการบริหารพรรคเพื่อกำหนดวันประชุมใหญ่ของพรรคภายใน 45 วัน ซึ่งปกติจะมีการจัดประชุมใหญ่ทุกเดือนเมษายนก็เลื่อนมา
เมื่อถามถึงการลาออกครั้งนี้ว่าเป็นการบีบหรือยึดเก้าอี้หัวหน้าพรรคหรือไม่ ไพบูลย์ตอบว่า เป็นธรรมดาที่พรรคการเมืองต้องมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ตอบสนองต่อการดำรงตำแหน่งทางการเมืองและตอบโจทย์ผู้แทนของประชาชน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ก็ต้องเริ่มต้นจากภายในพรรคก่อน ส่วนจะมีผลต่อการปรับ ครม. หรือไม่ ไพบูลย์ไม่ตอบ
เมื่อถามย้ำว่าการยื่นหนังสือลาออกเกิดขึ้นหลัง ส.ส. ลงมติเห็นชอบพระราชกำหนด ( พ.ร.ก.) กู้เงิน 1.9 ล้านล้านบาทเพียงวันเดียว สะท้อนถึงปัญหากับทีมเศรษฐกิจของคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ ไพบูลย์ปฏิเสธและตอบว่า วันที่ 1 มิถุนายนเป็นวันดีในการเริ่มต้นใหม่ ขณะเดียวกันเชื่อว่าไม่มีปัญหาเรื่องเอกภาพภายในพรรค เพราะการดำเนินการเป็นไปตามข้อบังคับ เป็นธรรมดาที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนไปตามความเหมาะสม ถ้าเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะทำให้พรรคเข้มแข็งขึ้น
เมื่อถามย้ำอีกว่าเป็นการยึดตำแหน่งหัวหน้าพรรคหรือไม่ ไพบูลย์ไม่ตอบคำถาม กล่าวเพียงว่า ถือว่าพ้นจากตำแหน่ง ส่วนเหตุผลที่กรรมการบริหารพรรคแต่ละคนลาออก ไพบูลย์ตอบว่าแต่ละคนมีเอกสิทธิ์ ก้าวล่วงไม่ได้ว่ามีเหตุผลอะไรให้ลาออก
เมื่อถามว่า พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะมาเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่ ไพบูลย์ตอบว่า ท่านเป็นผู้อาวุโสที่เป็นเสาหลักของพรรคอยู่แล้ว ส่วนการเลือกกรรมการบริหารพรรค แล้วแต่สมาชิกพรรค ตนไม่มั่นใจ ส่วนจะเป็นแคนดิเดตหัวหน้าพรรคเบอร์ 1 หรือไม่ ตนยังไม่รู้ แต่ส่วนตัวว่าเหมาะสม
การเปิดเกมยื่นหนังสือลาออกของทั้ง 18 กรรมการบริหาร จากจำนวน 34 คน ไม่ได้ถือว่าอยู่เหนือความคาดหมาย เพราะกระแสความต้องการปรับเปลี่ยนทีมบริหารโดยเฉพาะหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค คือ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ มีมาโดยตลอด ปรากฏข่าวเขย่าและขย่มเปิดศึกในกันอยู่เป็นระยะ วัดพลังกันเป็นระลอก โดยมีตัวละครทางการเมืองสำคัญอย่างสี่กุมารและสามมิตร ที่เคยเป็นพันธมิตรทางการเมืองร่วมกัน แต่เวลานี้ดูเหมือนจะแยกทางกันเป็นที่เรียบร้อย หากดูจากรายชื่อแกนนำสามมิตรที่มีสุริยะและสมศักดิ์ ยื่นลาออกด้วย
การกดดันให้มีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคและแกนนำในฝั่งสี่กุมารไม่ใช่แค่เกมเปลี่ยนแปลงในพรรคเท่านั้น แต่ทว่าเป็นการเปิดหน้าเพื่อแย่งชิงเก้าอี้ใน ครม. หรือเปลี่ยนตัวพันธมิตรทางการเมืองกลุ่มใหม่
อย่างไรก็ตามยังต้องจับตาว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากน้อยขนาดไหน และที่สุดแล้วชื่อหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐที่สร้างความกลมเกลียวเป็นเอกภาพได้จะเป็นใคร นอกจากอุณหภูมิอากาศบ้านเมืองจะร้อนแรง อุณหภูมิการเมืองยามนี้ก็ถึงจุดเดือดไม่ต่างกัน
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า